พัฒนาบริการหลังการขาย เพิ่มลูกค้าใหม่ รักษาลูกค้าเดิม
พัฒนาภาพลักษณ์องค์กรและผลิตภัณฑ์ เพิ่มความเชื่อมั่นจากลูกค้ามากยิ่งขึ้น
ซีอีโอ ทาทา มอเตอร์ส ประเทศไทย ซานเจย์ มิชรา ประกาศสร้างความมั่นใจให้กับดีลเลอร์ พร้อมขยายธุรกิจในประเทศไทย เพิ่มผลิตภัณฑ์ในตลาด พร้อมพัฒนาคุณภาพและภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์ พัฒนาศักยภาพบริการหลังการขาย พร้อมสร้างฐานลูกค้าใหม่ควบคู่กับการรักษาลูกค้าเดิม ในงานประชุมผู้จำหน่าย ทาทา มอเตอร์ส ประเทศไทย ประจำปี 2557
มร.ซานเจย์ มิชรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทาทา มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศสร้างความมั่นใจให้กับผู้จำหน่ายทาทาทั่วประเทศ ในการประชุมผู้จำหน่าย ทาทา มอเตอร์ส ประเทศไทยประจำปีงบประมาณ 2557 ในช่วงเข้าสู่ไตรมาสที่ 3 ของปีงบประมาณ 2557 (สิ้นสุด 31 มีนาคม 2558)
โดยมีหลายหัวข้อที่เน้นย้ำถึงการให้ความสำคัญของตลาดรถยนต์ในประเทศไทย พร้อมชี้ให้เห็นว่าทาทา มอเตอร์ส เป็นบริษัทที่มีความมั่นคงสูงมาก และพร้อมที่จะพัฒนาในทุกๆ ด้าน เพื่อเติบโตต่อไปในประเทศไทยอีกตราบนานเท่านาน
ในงานประชุมผู้จำหน่าย ทาทา มอเตอร์ส ประเทศไทย มร.ซานเจย์ เกริ่นนำถึงภาพรวมของ ทาทา กรุ๊ปว่าในปี 2014 มีผลประกอบการมูลค่าสูงถึง 103,270 ล้านเหรียญสหรัฐ (3.2 ล้านล้านบาท)
ส่วนทาทา มอเตอร์ส จำกัด มีผลประกอบการมูลค่าถึง 38,900 ล้านเหรียญสหรัฐ (1.2 ล้านล้านบาท)คิดเป็นเกือบร้อยละ 40 ของ ทาทา กรุ๊ป ซึ่งชี้ให้เห็นได้ว่า ทาทา มอเตอร์ส มีความเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมั่นคงซึ่งในปีหน้า 2558 จะเป็นปีที่ ทาทา มอเตอร์ส ครบรอบ 70 ปี หลังจากก่อตั้งขึ้นในปี 1945(พ.ศ. 2488)
“70 ปี ที่ผ่านมาของ ทาทา มอเตอร์ส เราได้ผ่านสิ่งที่ท้าทายมามากมาย ผมเองก็มั่นใจว่า ทาทา มอเตอร์ส จะสามารถประสบความสำเร็จในประเทศไทยได้เช่นกัน ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะตั้งหลักเดินหน้าอย่างเต็มตัว” มร.ซานเจย์ เกริ่นนำ
เมื่อช่วงต้นปี ทาทา มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้มีการลงทุนเพิ่มประมาณ 500 ล้านบาท เพื่อพัฒนาในส่วนต่างๆ ทั้งในส่วนของผลิตภัณฑ์ กระบวนการผลิต การสต๊อคชิ้นส่วน การขยายเครือข่ายและการให้บริการหลังการขาย ทำให้ ณ ปัจจุบัน มียอดการลงทุนสะสมในประเทศไทยเกือบ 3,000 ล้านบาท มร.ซานเจย์ กล่าวต่อไปอีกว่า “เราจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาในปลายปีนี้อย่างแน่นอน ในไตรมาสที่ 3 ของปีงบประมาณ ซึ่งเราพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเราให้ทันสมัย และเหมาะสมกับความต้องการใช้งานของลูกค้าชาวไทยมากยิ่งขึ้น
สำหรับกระบะรุ่นใหม่ที่จะออกมาในปลายปีนี้ คือ กระบะ ทาทา ซีนอน รีเฟรช (Tata Xenon Refresh)ใช้เครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่ ใช้ระบบเกียร์แบบใหม่ มีการเพิ่มอุปกรณ์มาตรฐานมากขึ้น ทั้งในส่วนของการตกแต่งภายนอก และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายใน เนื่องจากปัจจุบัน ทาทา มอเตอร์ส ประเทศไทย เป็นที่ยอมรับกันแล้วว่า เป็นหนึ่งในผู้นำรถกระบะเพื่อการพาณิชย์ ซึ่ง ทาทา มอเตอร์ส มีกลุ่มของกระบะเพื่อการพาณิชย์หลากหลายรูปแบบเพื่อให้เลือกใช้งาน สำหรับ ทาทา ซีนอน รีเฟรช นั้น จะมีอุปกรณ์ตกแต่งและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ให้อย่างครบครัน เป็นได้ทั้งรถเชิงพาณิชย์และ รถใช้งานส่วนบุคคลทั่วไป ซึ่งยังคงความประหยัด ความแข็งแกร่งในสไตล์ของรถกระบะทาทาสำหรับงานบรรทุกงานสมบุกสมบันได้อีกด้วย
“ที่ผ่านมา คนส่วนใหญ่จะรู้สึกว่า คนขับรถกระบะทาทา เป็นเพียงผู้ขับรถแต่ไม่ใช่เจ้าของรถ เพราะส่วนใหญ่เป็นกระบะพาณิชย์ที่เจ้าของกิจการซื้อแต่ไม่ได้ใช้ แต่จะให้คนขับรถ ขับส่งของ เรากำลังหันมาขยายตลาดรถที่เจ้าของรถเป็นผู้ขับขี่เองมากยิ่งขึ้น นั่นจึงเป็นที่มาของ ทาทา ซีนอน รีเฟรช ซึ่งเรามั่นใจว่า จะได้รับการตอบรับที่ดีในตลาดอีกเช่นเดิม เพราะถึงแม้ว่าเราจะเริ่มทำตลาดในกลุ่มนี้ แต่รถของเรา
ยังมีความคุ้มค่าคุ้มราคา ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของรถทาทา คือ เรียบง่าย แต่คุ้มค่า” มร.ซานเจย์กล่าว
นอกจากกระบะ ทาทา ซีนอน รีเฟรช แล้ว ในตลาดรถบรรทุกใหญ่ ทาทา มอเตอร์ส ยังเตรียมนำเสนอทาทา พริมา (TATA PRIMA) รถหัวลากของทาทา ที่จะเข้าไปร่วมแสดงในงานบัสแอนด์ทรัค(Bus and Truck’14) ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ด้วย โดยอันดับแรกจะเป็นหัวลากพริมา แบบ 6 ล้อ (4x2) จาก ทาทา และ หัวลากแบบ 10 ล้อ (6x4) จาก แดวู (DAEWOO) หลังจากที่ ทาทา มอเตอร์สประเทศไทย เคยนำเสนอ ทาทา โนวัส (TATA NOVUS) ที่เป็นรถหัวลากรุ่นแรกที่ ทาทา มอเตอร์สประเทศไทย นำมาเปิดตัวและจำหน่ายในเมืองไทย เมื่อต้นปี 2556 แต่ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น แดวู โนวัส (DAEWOO NOVUS) เพื่อต้องการให้ทราบถึงที่มาของรถหัวลาก เนื่องจาก แดวู โนวัส เป็นรถที่ใช้เครื่องยนต์ดูซานนำเข้าจากโรงงาน ทาทา แดวู ในเกาหลีใต้ ขณะที่ ทาทา พริมา เป็นหัวลากจากโรงงาน ทาทา มอเตอร์ส ในอินเดีย ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล นอกจากนี้ ทาทา มอเตอร์ส ประเทศไทยยังมีเป้าหมายที่จะขยายเครือข่ายของผู้จำหน่ายรถทาทาในประเทศไทยอีกด้วย
มร.ซานเจย์ ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านเครือข่ายบริการหลังการขายอีกด้วย “นอกเหนือจากการขยายเครือข่าย เพื่อให้ครอบคลุมการให้บริการกับลูกค้าของเราแล้ว เรากำลังปรับปรุงและพัฒนาให้ระบบการบริการหลังการขายมีความฉับไวมากยิ่งขึ้น รวมถึงการสต๊อคอะไหล่ให้มากขึ้น การสั่งอะไหล่ที่มีความรวดเร็ว ซึ่งจะทำให้ลูกค้าสามารถนำรถเข้ามารับบริการและมีรถกลับไปใช้งานได้อย่างเร็วขึ้น”
“ไม่เพียงแต่เรื่องของการขยายเครือข่าย เรากำลังปรับภาพลักษณ์ของทั้งผลิตภัณฑ์และองค์กรให้มีความเป็นสากลมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของโชว์รูม ที่เราจะมีการตกแต่งเป็นโชว์รูมมาตรฐานมากยิ่งขึ้น รวมทั้งพัฒนาผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆให้มีมาตรฐานสูงขึ้น ซึ่งทั้ง 2 สิ่งนี้เป็นจุดสำคัญในการพัฒนาภาพลักษณ์ขององค์กรให้ ทาทา มอเตอร์ส มีภาพลักษณ์ที่ทัดเทียมกับคู่แข่งขันในตลาด สร้างความน่าเชื่อถือ และแน่นอนว่า เมื่อเราพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในตลาดกลุ่มใหม่ เราก็จะมีกลุ่มลูกค้าใหม่เกิดขึ้นอีกกลุ่มในตลาด แม้เราจะเน้นในเรื่องของคุณภาพสินค้าเพื่อสร้างกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ แต่เราขอยืนยันตรงนี้เลยว่า เราจะไม่มีวันทิ้งลูกค้าเดิมของเรา และเราพยายามอย่างยิ่งที่จะสร้างความประทับใจในการให้บริการกับกลุ่มลูกค้าเดิมของเรา เพื่อให้กลับมาซื้อผลิตภัณฑ์ของเราอีก และเมื่อลูกค้าของเรามีความประทับใจ มีความมั่นใจ ทั้งลูกค้าใหม่และลูกค้าเดิมจะกลายเป็นลูกค้าถาวรของเรา” มร.ซานเจย์ กล่าวอย่างมั่นใจ