นางกิตติยา โตธนะเกษม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานบริหารการเงิน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยผลประกอบธนาคารในไตรมาส 3/2557 เปรียบเทียบกับไตรมาส 3/2556 ว่า ธนาคารมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากธุรกิจหลักของธนาคาร โดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเท่ากับ 17,489 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.85 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของสินเชื่อ มีรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้น 110 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 2.82 ในไตรมาส 3 ธนาคารมีกำไรสุทธิ 9,255 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.23 สำหรับผลประกอบการงวด 9 เดือน ธนาคารมีกำไรสุทธิรวม 25,172 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.49 จากช่วงเดียวกันของปี 2556
ณ วันที่ 30 กันยายน 2557 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อ 1,800,967 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2556 จำนวน 89,877 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 5.25 โดยเพิ่มขึ้นจากลูกค้ารายย่อยและลูกค้าภาครัฐเป็นหลัก ธนาคารมียอดเงินฝาก 1,903,139 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19,358 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 1.03 มีสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPLs) จำนวน 67,467 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11,009 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 19.50 ซึ่งส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นจากลูกค้า SME ขนาดเล็ก และลูกค้ารายย่อยบางส่วน ซึ่งเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ธนาคารมีนโยบายที่ชัดเจนในการดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด และรักษาอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพในระดับที่เหมาะสมคือระดับร้อยละ 107.92
นางกิตติยา โตธนะเกษม กล่าวต่อไปว่า ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2/2557 ธนาคารได้ปรับการกันสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญรายเดือนเพิ่มขึ้นจากเดือนละ 500 ล้านบาท เป็น 700 ล้านบาท เพื่อให้เหมาะสมกับจำนวนสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งได้กันสำรองเพิ่มเติมในไตรมาส 2/2557 จำนวน 3,000 ล้านบาท ทำให้งวด 9 เดือน ธนาคารตั้งสำรองรวม 9,965 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.62 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ ณ 30 กันยายน 2557 ธนาคารมีเงินกองทุนรวมเท่ากับ 297,802 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 15.85 ของสินทรัพย์ถ่วงน้ำหนักตามความเสี่ยงของธนาคารแห่งประเทศไทย และหากนับรวมกำไรสุทธิไตรมาส 3/2557 เข้าเป็นเงินกองทุน อัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นจะอยู่ที่ร้อยละ 16.35 ซึ่งเป็นระดับที่ทำให้ธนาคารมีความแข็งแกร่ง และสามารถขยายธุรกิจได้ตามแผน