ซึ่งผู้กำกับพันนา พูดถึงการถ่ายทำฉากนี้ว่า
“ฉากแอ็คชั่นบนรถไฟนี่ถือเป็นฉากไฮไลท์ของหนังเรื่องนี้เลยนะ เหมือนกับชื่อหนังเร็วทะลุเร็ว ฉากนี้เราดีไซน์มีการต่อสู้ที่รวดเร็ว เน้นความคล่องตัวและการต่อสู้บนที่แคบ มีทั้งการต่อสู้กันในตัวรถไฟ แล้วก็บนหลังคา ซึ่งเป็นรถไฟที่ทีมงานสร้างขึ้นมาเพื่อการถ่ายทำโดยเฉพาะ ซึ่งในส่วนตรงนี้เราใช้เวลาเตรียมงานกันหลายเดือน ในส่วนของแอ็คชั่นที่เชื่อมโยงกับรถไฟในแบบที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน อย่างของวุฒิมีช็อตหนึ่งที่เสี่ยงมาก คือการสู้กับคู่ต่อสู้บนหลังคาแล้วต้องเหวี่ยงคู่ต่อสู้ตกลงมาบนพื้น เรียกว่าเราต้องเตรียมการซ้อมมาหลายสิบรอบ ตอนถ่ายในส่วนของแอ็คชั่นรถไฟเราก็ถ่ายกันอยู่ร่วมเดือน เพื่อฉากที่เสี่ยงตายแบบนี้มีความปลอดภัยที่สุด ผมว่าภาพที่ออกมาดูตื่นเต้นแล้วก็ต่อสู้กันแตกต่างจากที่เคยดูกันแน่นอน”
ทางด้านนักบู๊เลือดใหม่ “วุฒิ-นันทวุฒิ” พูดถึงการถ่ายทำฉากนี้ว่า
“ก็ถ่ายกันห้าวันเต็มๆ ถือว่าร้อนมากครับ เพราะช่วงนั้นถ่ายกันหน้าร้อน ทีมงานตัวไหม้กันเป็นแถว ฉากนี้ก็เจ็บตัวกันพอสมควรเพราะทุกคนทุ่มเทกันมาก มีบางช็อตที่เราต้องถีบพี่ๆ สตั้นท์ตกลงมา ก็นับถือใจพวกพี่ๆ สตั้นท์ที่ยอมร่วงลงมาจากรถไฟกันจริงๆ ความยากอยู่ที่คือพื้นที่มันแคบ แล้วพื้นที่มันจำกัดแล้วก็สูงด้วย ก็จะเกิดความระแวงในตัวของมันเอง มันทำให้ความกล้ามันหายไป ไม่เหมือนเล่นบนพื้นปกติ การดีไซน์ท่าก็ต้องอยู่ในพื้นที่ที่จำกัด แต่ว่าออกแบบมาแล้วก็สวยงาม ลองไปดูกันครับ”
ต้องบอกว่าทั้งเร็วทั้งแรงสมชื่อหนัง “เร็วทะลุเร็ว” และคอนเซปต์ “ภาพยนตร์แอ็คชั่นท้าตาย ที่ขอท้าให้ดูก่อนตาย” จริงๆ สาวกหนังแอ็คชั่นโดยเฉพาะของตำนานนักบู๊ “พันนา ฤทธิไกร” พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง 13 พฤศจิกายนนี้ ทุกโรงภาพยนตร์