นายก้อง รุ่งสว่าง รองผู้อำนวยการสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (Sasin)ฝ่ายนิสิตเก่าและองค์กรธุรกิจสัมพันธ์ เปิดเผยว่า ศศินทร์มีเป้าหมายในการพัฒนา สร้างแบรนด์ให้มีความแข็งแกร่ง และเพิ่มความสำคัญในระดับนานาชาติมากขึ้น รวมทั้งการเพิ่มความสัมพันธ์กับศิษย์เก่า เพื่อให้เกิดความช่วยเหลือเกื้อกูลกันระหว่างศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมุ่งการมีปฏิสัมพันธ์กับภาคธุรกิจและองค์กรต่างๆ ให้มากกว่าที่ผ่านมา รวมทั้งความสำคัญเรื่องการปรับโครงสร้างให้มีความทันสมัยอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ศศินทร์มีเป้าหมายในการเข้าไปมีบทบาทเกี่ยวกับภาคธุรกิจและเศรษฐกิจของประเทศให้มากขึ้น เนื่องจากภาคธุรกิจให้ความสนใจสถานการณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ รวมทั้งนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่สามารถนำไปใช้ในการบริหารและจัดการให้ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจ ดังนั้น จึงต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนให้มีความทันสมัยอยู่เสมอ ทั้งการเพิ่มความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาระดับนานาชาติให้มากขึ้น และการพัฒนาโปรแกรมใหม่ ๆ ให้สอดคล้องกับตลาดตลอดเวลา
“ขณะนี้ศศินทร์กำลังพัฒนาหลักสูตรร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็น Dual Degrees Program เพื่อให้ผู้เรียนได้รับ 2 ปริญญาที่อยู่ในความสนใจไปพร้อมกัน เช่น ผู้ที่เรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ จะมีโอกาสมาเรียนด้านการบริหารกับศศินทร์ เพื่อให้ผู้เรียนสาขาวิศวะมีความรู้ด้านการบริหารธุรกิจไปพร้อม ๆ กัน นอกจากนี้ยังกำลังพัฒนาหลักสูตร Global Executive MBA (GEMBA)ขึ้นที่ศูนย์การเรียนรู้นานาชาติศศินทร์ ที่จังหวัดภูเก็ต โดยมีเป้าหมายในการเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ของอาเซียน เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจจากนักลงทุนทั่วโลกที่สนใจภูมิภาคนี้ ดังนั้น การเรียนการสอนและข้อมูลต่าง ๆ ของหลักสูตร พัฒนาขึ้นเพื่อให้ศศินทร์สามารถตอบสนองความต้องการของนักลงทุนที่จะมาทำธุรกิจในอาเซียน รวมถึงการเป็นที่ปรึกษาและเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านต่าง ๆ เพื่อเปิดโอกาสให้นักธุรกิจและผู้ประกอบการเข้ามาอบรมเรียนในหลักสูตรระยะสั้นต่าง ๆอีกด้วย”นายก้องกล่าว
นอกจากนี้ ศศินทร์ยังมีนโยบายในการสร้างความสัมพันธ์กับศิษย์เก่าให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ตลอดกว่า 30 ปีที่ผ่านมา ศศินทร์มีศิษย์เก่าแล้วประมาณ 5,000 คน ในจำนวนนี้มีทั้งผู้นำทางธุรกิจและผู้บริหารขององค์กรต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก จากนี้ไปจะจัดกิจกรรมต่างๆเพื่อให้ศิษย์เก่าเข้ามาร่วมกิจกรรมมากขึ้น ทั้งในแง่ของการแชร์ความรู้และประสบการณ์ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาศศินทร์มีสมาคมนิสิตเก่าที่แข็งแกร่ง มีบทบาทสำคัญในการจัดกิจกรรมเชื่อมความสัมพันธ์ในรูปแบบต่าง ๆ ระหว่างศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน เพื่อให้ผู้ที่เรียนได้รับความรู้และเชื่อมโยงเครือข่ายทางธุรกิจไปพร้อม ๆ กัน โดยผ่านการจัดงานสัมมนาต่าง ๆ เพื่อเป็นเวทีสำคัญซึ่งทำให้เกิดความรู้และทักษะอื่นๆ แล้ว ยังเป็นการเปิดโอกาสให้ศิษย์เก่าได้พบปะเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ในอนาคตศิษย์เก่าจะเข้ามามีบทบาทในฐานะผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจแขนงต่าง ๆและ เพื่อเป็นวิทยากรในหลักสูตรระยะสั้น เป็นอีกมติหนึ่งที่จะเกิดความร่วมมือระหว่างศศินทร์และศิษย์เก่า
นายก้องเปิดเผยเพิ่มเติม ถึงนโยบายในการสร้างความสัมพันธ์กับองค์กร ว่า ประเทศต่างๆ ทั่วโลกมักจะให้ความสำคัญ และสนใจข้อมูลการวิจัยจากคณะบริหารธุรกิจของสถาบันการศึกษาชั้นนำ แต่ในประเทศไทยยังให้ความสำคัญน้อยกว่าต่างประเทศ งานวิจัยที่ถูกนำไปใช้ในภาคธุรกิจยังค่อนข้างน้อย ทั้งนี้ศศินทร์จะผลักดันให้งานวิจัยด้านธุรกิจถูกนำไปใช้ประโยชน์ในการปฏิบัติมากขึ้น และเป็นสถาบันการศึกษาที่มีบทบาทสำคัญต่อภาคธุรกิจของประเทศและภูมิภาค จึงให้ความสำคัญกับการสร้างปฏิสัมพันธ์กับภาคธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นสถาบันการศึกษาที่ผลิตบุคลากรให้กับภาคธุรกิจ ดังนั้นหลักสูตรต่างๆ จึงเน้นการพัฒนาศักยภาพของนิสิตเพื่อเป็นกำลังสำคัญให้กับองค์กรต่าง ๆ พร้อมเปิดโอกาสให้องค์กรธุรกิจเสนอเข้ามาได้ว่าต้องการบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านใด ที่ผ่านมาได้มีการจัดงาน Career Day อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ธุรกิจต่างๆ กับนิสิตมีโอกาสได้พบกันในงานดังกล่าว