"บลจ.ฟินันซ่า ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยกําลังอยู่ในช่วงของการฟื้นตัวโดยรัฐบาลมีการประกาศนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ 3.6 แสนล้านบาทในไตรมาสสุดท้ายของปี 2557 อย่างไรก็ตามในด้านของปัจจัยภายนอกประเทศยังมีความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะในยุโรปและจีน อีกทั้งความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสอีโบลาซึ่งเป็นปัจจัยที่กดดันการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง การลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงในระดับต่ำและอัตราผลตอบแทนที่ดีจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการใช้เป็นแหล่งพักเงินระยะสั้น อีกทั้งหลังจากการประชุมคณะกรรมการกําหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) เมื่อวันที่ 28 – 29 ตุลาคม 2557 มีมติว่าจะยุติโครงการ QE ในเดือนตุลาคม 2557 และจะยังคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อไปจนกว่าจะเห็นสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ชัดเจน แต่คาดการณ์ว่าทิศทางของอัตราดอกเบี้ยจะยังอยู่ในช่วงขาขึ้นในปี 2558 สถานการณ์เช่นนี้การลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเนื่องจากสามารถรองรับความเสี่ยงจากการเสียโอกาสลงทุนในภาวะอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นได้
บลจ.ฟินันซ่า จึงออกเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ 3 เดือน ชื่อกองทุนเปิดฟินันซ่าตราสารหนี้พลัสโรลโอเวอร์ 3เดือน6 (FAM FIPR3M6) โดยมีอัตราผลตอบแทนโดยประมาณ 2.55% ต่อปี เปิดเสนอขายระหว่างวันที่ 3 – 10พฤศจิกายน 2557 ซึ่ง เป็นกองทุนที่โรลโอเวอร์มาจากการขายกองทุนก่อนหน้านี้ เป็นกองทุน Specific fund
โดยกองทุนเปิดฟินันซ่าตราสารหนี้พลัสโรลโอเวอร์ 3เดือน6 (FAM FIPR3M6) จะพิจารณาลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ตราสารทางการเงินและ/หรือ เงินฝากของภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ เงินฝากธนาคารต่างประเทศสกุลเงิน USD, CNY, HKD, EUR, JPY กับธนาคาร BOC (Macau), Standard Chartered Bank (Hong Kong), ธนาคาร CIMB Niaga (Indonesia), ตั๋วเงินหรือเงินฝากธนาคารพาณิชย์ในประเทศ, ตั๋วแลกเงิน บมจ.เอเซียเสริมกิจ ลีสซิ่ง(BBB+), ตั๋วแลกเงิน บมจ.ราชธานีลิสซิ่ง (BBB+), บจ.บีเอสแอล ลีสซิ่ง(BBB) หรือตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีอันดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ BBB ขึ้นไป, ตั๋วเงินคลัง หรือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นต้น
- หากไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้เนื่องจากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป หรือผลการประมูลของตราสารไม่เป็นไปตามที่กำหนด ผู้ถือหน่วยลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทน ตามอัตราที่ประมาณการไว้
- ทั้งนี้ ตราสารที่ลงทุน สัดส่วนการลงทุน และประมาณการค่าใช้จ่าย อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ หากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป หรือตามที่บริษัทจัดการเห็นสมควร
- กองทุนจะถือทรัพย์สินที่ลงทุนตลอดรอบการลงทุนแต่ละรอบ 3 เดือนโดยประมาณ
หากผู้ถือหน่วยไม่ส่งคำสั่งขายคืนหน่วยลงทุนมาภายในวันและเวลาที่กำหนดในการเปิดรับซื้อคืนหน่วยลงทุน บริษัทจัดการจะถือว่าผู้ถือหน่วยลงทุนประสงค์ที่จะลงทุนต่อไปในรอบการลงทุนถัดไป
บริษัทจัดการสงวนสิทธิที่จะเปลี่ยนแปลงตราสารที่ลงทุน สัดส่วนการลงทุนและประมาณการค่าใช้จ่าย สำหรับการลงทุนในแต่ละรอบทุก 3 เดือนโดยประมาณ โดยไม่ถือเป็นการแก้ไขโครงการ โดยจะแจ้งรายละเอียดการลงทุนดังกล่าว ในหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปและหรือเว็บไซด์ของบริษัทจัดการ ให้ผู้ลงทุนทราบล่วงหน้า
โดยผู้ลงทุนสามารถลงทุนขั้นต่ำเพียง 2,000 บาท ซึ่งหากนักลงทุนสนใจ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-352-4050