นายสมชัยซึ่งบรรยายในหัวข้อ “ฉีกกรอบความคิดธุรกิจสร้างสรรค์” กล่าวว่า ในปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีต่างๆ ทำให้โลกของเรากลมมากขึ้นทว่ากลับเล็กลงเรื่อยๆ การจะสร้างธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจึงมีความจำเป็นจะต้องใส่ไอเดีย หรือความคิดสร้างสรรค์ลงไปด้วย โดยสรุปว่าคนรุ่นใหม่ที่จะประสบความสำเร็จได้นั้นมีสมการความสำเร็จอยู่ 3 อย่าง คือ 1. การคิดนอกกรอบ ต้องรู้ในกรอบให้ครบก่อน 2. เลือกในสิ่งที่รักแล้วลงมือทำอย่างจริงจัง 3. มีความมุ่งมั่นในความสำเร็จ
“ถ้ายังพิสูจน์ไม่ได้ว่ามันจะสำเร็จอย่าเพิ่งออกท่ายาก คนเราจะคิดนอกกรอบได้ความรู้พื้นฐานต้องแน่น เพราะ ความรู้ที่เรามีเท่ากับอำนาจในมือของเราเช่นกัน ถ้าเปรียบเป็นการปลูกต้นไม้ เราก็ต้องรู้ตั้งแต่รากจนถึงใบ ปลูกบ้านก็ต้องรู้ ตั้งแต่เสาเข็ม ต้องหัดเป็นคนขี้สงสัยและหาคำตอบเพื่อให้รู้จริงให้ได้ จากนั้นลงมือทำ เพราะการทำงานจริง ธุรกิจจริงๆ นั้น ไม่เหมือนกับในตำราเลย คนเราเขียนตำราได้หลายเล่ม แต่ให้มาทำธุรกิจจริงๆ อาจจะไม่ประสบความสำเร็จก็ได้ เพราะเรื่องจริงที่เจอในตำราไม่ได้มีสอน ส่วนที่เหลือก็คือ ความมุ่งมั่น ดูอย่างญี่ปุ่น ที่เขาลุกขึ้นมาได้จากประเทศแพ้สงคราม ก็เพราะความมุ่งมั่น การทำธุรกิจต้องรู้ว่าเราไม่สามารถสร้างมันได้ในวันเดียว ดังนั้นจึงต้องตั้งใจ ต้องมุ่งมั่นกับมันให้ถึงที่สุด ทำสินค้าที่ออกมาจากเราให้ดีที่สุด เดี๋ยวนี้สินค้าอะไรก็ขายได้ สำคัญที่ สินค้าของเราต้องดีที่สุด สร้างสรรค์ที่สุด ต้องเรียนรู้คำว่า “แตกต่าง” แล้วนำมาใช้ให้ถูกต้อง แบบนี้ถึงจะเรียกว่า ยอดคน”
ดร.สมภพ นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดัง และ กูรูอาเซียน บรรยายในหัวข้อ “โลกเปลี่ยน คนเปลี่ยน : Make It Possible ด้วยตัวเราเอง” เปิดเผยว่า หลังจากมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างเป็นทางการแล้ว มีความเป็นไปได้สูงมากที่ประเทศไทยจะเป็นฮับทางเศรษฐกิจของอาเซียน รวมไปถึงระดับเอเชีย เพราะประเทศใหญ่อย่าง ประเทศจีน หรือญี่ปุ่น จะหันไปเล่นที่ตลาดโลกแล้ว ทั้งนี้ก็เพราะความร่วมมือกันของเพื่อนบ้านหรือที่เรียกว่า กลยุทธ์ C L M V + T หรือ ความร่วมมือกันของ กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ เวียดนาม และ ไทย โดยให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางและ เชื่อมโยงไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่ยังมีการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่ไม่ดีเท่ากับประเทศไทย โดยนักธุรกิจในไทยเองก็จะต้องเพิ่มความสามารถของตัวเองหลายอย่าง
“ทุกวันนี้โลกเปลี่ยนแปลงเร็วมาก เราต้องก้าวให้ทัน ไทยจะผลิตอะไรต้องคิดถึงเรื่องคุณภาพเป็นหลักแล้ว และต้องมองการตลาดที่ใหญ่กว่าระดับท้องถิ่นขึ้นไป ไม่ว่าจะเป็นระดับอาเซียน เอเชีย หรือระดับโลก ซึ่งตรงนี้ต้องมีการจัดการนวัตกรรม (Innovation Management) ที่ดี โดยการปรับระบบธุรกิจให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และต้องทำให้การเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นโอกาสที่จะก้าวหน้าไปได้เรื่อยๆ แทนที่จะเป็นอุปสรรคด้วย โดยต้องมีวิสัยทัศน์ในการมองความก้าวหน้าทางธุรกิจให้รอบด้าน อีกทั้งยังต้องพัฒนาปัจจัยพื้นฐานหลายๆ ด้าน อาทิ ระบบขนส่ง ระบบการเงิน ระบบทรัพยากรมนุษย์และเรื่องของเทคโนโลยีต่างๆ อีกด้วย”
ด้านนายอารยะ มาอินทร์ รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) เปิดเผยว่า งาน “OKMD Fast Forward Talk 2014 คิดให้ไกล ไปให้เร็ว” มีจุดมุ่งหมายที่จะให้ความรู้ สร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนและผู้ประกอบการรุ่นใหม่ เสริมทักษะและความคิดสร้างสรรค์ การฉีกกรอบความคิดธุรกิจสร้างสรรค์ด้วยการคิดวิเคราะห์ให้เกิดคุณค่าทางเศรษฐกิจและสังคม”
“OKMD Fast Forward Talk 2014 คิดให้ไกล ไปให้เร็ว” จัดขึ้นภายใต้แนวคิดหลัก เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการนำความรู้และโอกาสไปสร้างสรรค์อาชีพ ผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อเพิ่มคุณค่าทางเศรษฐกิจ สังคม และพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยกำหนดจัดต่อเนื่องกันตั้งแต่บัดนี้จนถึงปี พ.ศ. 2558 โดยผู้ที่สนใจจะเข้าร่วมสัมมนา สามารถติดตามข่าวสารได้ที่ www.okmd.or.th และ www.facebook.com/OKMDInspire