กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี ไม่รวมปัจจัยพิเศษต่างๆ เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.2
สินค้าอุปโภคบริโภคมียอดขายเติบโตร้อยละ 4.2
tesa มียอดขายเติบโตร้อยละ 4.3
ยืนยันผลประกอบการปี 2557 เป็นไปตามเป้าแน่นอน
ไบเออร์สด๊อรฟ แถลงผลประกอบการ ระบุมีการเติบโตอย่างยั่งยืนและมีผลกำไรที่เติบโตเพิ่มขึ้นในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 แม้จะประสบภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในหลายตลาด ยอดขายรวมทั้งกลุ่มเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.3 ในแง่ของยอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.9 จาก 4.674 พันล้านยูโร (ประมาณ....พันล้านบาท) มาอยู่ที่ 4.716 พันล้านยูโร (ประมาณ.... พันล้านบาท)ความสำเร็จดังกล่าวได้รับอานิสงส์จากกลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคและ tesa ขณะที่กำไรก่อนหักภาษีและต้นทุนทางการเงิน ไม่รวมปัจจัยพิเศษต่างๆ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.2 จาก 650 ล้านยูโร (ประมาณ พันล้านบาท) มาอยู่ที่ 671 ล้านยูโร (ประมาณ พันล้านบาท) แต่เมื่อหักปัจจัยพิเศษต่างๆ ออกแล้ว ผลต่างกำไรก่อนหักภาษีและต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.2 จากร้อยละ 13.9 ในปีที่ผ่านมา
“ผลประกอบการในช่วง 9 เดือนแรกของเราสะท้อนให้เห็นว่าไบเออร์สด๊อรฟยังคงยืนหยัดอยู่ในตำแหน่งที่ดี และสามารถฝ่าฟันอุปสรรคไปได้แม้จะประสบภาวะตลาดที่ซบเซา เป็นการตอกย้ำว่ากลยุทธ์ธุรกิจของเราที่เรียกว่า The Blue Agenda ใช้ได้ผล แม้จะเจอกับสภาวะตลาดที่มีความยากลำบากมากกว่า โดยเป็นผลมาจากการเดินหน้าสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการมุ่งขยายธุรกิจในตลาดเกิดใหม่ และเหนือสิ่งอื่นใดก็คือ การลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมของเรานั่นเอง” สเตฟาน เอฟ ไฮเดนริค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไบเออร์สด๊อรฟ เอจี เยอรมนี กล่าว
กลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค
กลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคสามารถสร้างการเติบโตของยอดขายได้ถึงร้อยละ 4.2 ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 โดยทั้งยอดขายและส่วนแบ่งทางการตลาดมีการเติบโตเพิ่มขึ้นในตลาดยุโรปที่มีการเติบโตอยู่แล้วและในตลาดเกิดใหม่ เมื่อแบ่งตามรายการแล้ว มียอดขายอยู่ที่ 3.905 พันล้านยูโร (ประมาณ ...พันล้านบาท) เติบโตร้อยละ 0.6 จาก 3.883 พันล้านยูโร(ประมาณ ...พันล้านบาท) ในปีก่อนหน้า โดยนีเวียทำยอดขายเติบโตร้อยละ 5.7 ยูเซรีนมียอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.7 และ ลา แพรรี มียอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 4 กำไรก่อนหักภาษีและต้นทุนทางการเงิน ไม่รวมปัจจัยพิเศษต่างๆ เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 529 ล้านยูโร (ประมาณ พันล้านบาท) เพิ่มขึ้นจาก 510 ล้านยูโร (ประมาณ พันล้านบาท) ในปีก่อนหน้า ผลต่างกำไรก่อนหักภาษีและต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.5 จากร้อยละ 13.1 ในปีที่แล้ว
การเติบโตของยอดขายแบ่งตามภูมิภาคได้ดังนี้
ในยุโรป ยอดขายเติบโตขึ้นร้อยละ 1.8 ในยุโรปตะวันตกยอดขายปรับตัวดีขึ้นร้อนละ 1 ขณะที่ในยุโรปตะวันออกอัตราการเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 5.1
ยอดขายในทวีปอเมริกามีการขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยเติบโตถึงร้อยละ 5.4 ขณะที่ละตินอเมริกา มียอดขายเติบโตถึงร้อยละ 6.5 โดยที่อเมริกาเหนือมียอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.6 ส่วนภูมิภาคแอฟริกา เอเชีย ออสเตรเลีย ยอดขายของไบเออร์สด๊อรฟ ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงถึงร้อยละ 8.5 แม้จะเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในบางตลาดในไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
กลุ่มธุรกิจ tesa
กลุ่มธุรกิจ tesa ประสบความสำเร็จในด้านยอดขายเช่นกัน โดยมีอัตราการเติบโตร้อยละ 4.3 ซึ่งเป็นการพัฒนาธุรกิจได้อย่างก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่อง เมื่อพิจารณาแล้ว มียอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.5 จาก 791 ล้านยูโร (ประมาณ พันล้านบาท) มาอยู่ที่ 811 ล้านยูโร (ประมาณ พันล้านบาท) กำไรก่อนหักภาษีและต้นทุนทางการเงิน ไม่รวมปัจจัยพิเศษต่างๆ เพิ่มขึ้นจาก 140 ล้านยูโร (ประมาณ พันล้านบาท) มาอยู่ที่ 142 ล้านยูโร (ประมาณ พันล้านบาท) เป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 ส่งผลให้ผลต่างกำไรก่อนหักภาษีและต้นทุนทางการเงิน ไม่รวมปัจจัยพิเศษต่างๆ ลดลงเล็กน้อยจากปีที่แล้ว มาอยู่ที่ร้อยละ 17.5 จากร้อยละ 17.7
ไบเออร์สด๊อรฟ ยืนยันผลประกอบการปี 2557 เป็นไปตามเป้าแน่นอน
ไบเออร์สด๊อรฟ คาดว่าในปีงบประมาณ 2557 นี้ กลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคจะมียอดขายเติบโตในอัตราร้อยละ 4-6 ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่เหนือกว่าตลาด ขณะที่ผลต่างกำไรก่อนหักภาษีและต้นทุนทางการเงินจากการดำเนินงานจะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 13
กลุ่มธุรกิจ tesa คาดว่าจะมียอดขายเติบโตขึ้นประมาณร้อยละ 4 ในปีงบประมาณ 2557 นี้ ในขณะที่มีการคาดการณ์ว่าตลาดจะขยายตัวอยู่ที่ราวๆ ร้อยละ 2-3 ผลต่างกำไรก่อนหักภาษีและต้นทุนทางการเงินจากการดำเนินงานจะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 16
เมื่ออ้างอิงการจากคาดการณ์ใน 2 กลุ่มธุรกิจแล้ว บริษัทคาดว่ายอดขายรวมของทั้งกลุ่มจะเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 4-6 โดยที่ผลต่างกำไรก่อนหักภาษีและต้นทุนทางการเงินจากการดำเนินงานจะอยู่ที่ประมาณสูงกว่าร้อยละ 13