นายกอบเกียรติ บุญธีรวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) ( AECS) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2557 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 227.45 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 37.90 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ หลังจากเดินหน้าตามแผนงานที่วางไว้ ทั้งการขยายฐานลูกค้าและเพิ่มสาขาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างทั่วถึง
ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ของธุรกิจหลักทรัพย์อยู่ที่ 3% เพิ่มขึ้นจากช่วงต้นปีที่มีมาร์เก็ตแชร์อยู่เพียง 0.5% เท่านั้น โดยตั้งเป้าว่าภายในสิ้นปีนี้จะสามารถรักษาระดับมาร์เก็ตแชร์ไว้ที่ 3% ได้ และคาดว่าภายใน 3 ปี มาร์เก็ตแชร์จะติดอันดับ TOP 5
“ผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาถือว่าออกมาดีเกินกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ โดยมีรายได้รวม 432.67 ล้านบาท และกำไรสุทธิอยู่ 18.47 ล้านบาท ซึ่งเราได้ดำเนินงานตามแผนงานที่วางไว้ โดยหลังจากได้เริ่มดำเนินธุรกิจหลักทรัพย์ในเดือนตุลาคมปี 2556 ที่ผ่านมา เราได้เดินหน้ารุกงานอย่างเต็มที่ ซึ่งทีมผู้บริหารมีความมุ่งมั่นตั้งใจทำงานให้ผลการดำเนินงานออกมาอย่างดีที่สุด และวันนี้ผลประกอบการที่ออกมาก็สะท้อนให้เห็นแล้วว่าเรามีความมุ่งมั่นตั้งใจทำงานจริงๆ เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นอย่างดีที่สุด โดยคาดว่าผลประกอบการในปีนี้จะมีกำไรตามเป้าหมายที่วางไว้” นายกอบเกียรติ กล่าว
ปัจจุบันบล.เออีซี มีสาขาทั้งสิ้น จำนวน 12 สาขา ได้แก่ สาขาสีลม (อาคารยูไนเต็ด เซ็นเตอร์), สาขาซอยศูนย์วิจัย, สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว, สาขาประชาชื่น, สาขาเดอะ ไนน์ ทาวเวอร์ แกรนด์ พระราม 9 ,สาขาบางนา สาขาพหลโยธิน,สาขานครสวรรค์, สาขาเชียงใหม่-ถนนมหิดล, สาขาเชียงใหม่-ถนนช้างคลาน, สาขานครศรีธรรมราชและสาขาหาดใหญ่ ซึ่งมีแผนขยายสาขาต่อเนื่อง เพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างทั่วถึง
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี กล่าวอีกว่า ในส่วนของงานด้านวาณิชธนกิจ (Investment Banking) นั้น ปัจจุบันมีดีลไอพีโอ จำนวน 4 ดีล โดยล่าสุด บล.เออีซี เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บริษัท เจ.เอส.พี.พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (JSP) ซึ่งเตรียมจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ในวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้