นายพิภวัตว์ ภัทรนาวิก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยถือเป็นธนาคารพาณิชย์แห่งเดียวที่มีการร่วมทุนแบบ Venture Capital ด้วยการจัดตั้ง บริษัท ร่วมทุน เค-เอสเอ็มอี จำกัด (K-SME Venture Capital) เพื่อร่วมลงทุนในเอสเอ็มอีของไทยที่มีศักยภาพและต้องการหาเงินทุนในการขยายธุรกิจ โดยมีบริษัทหลักทรัพย์จัดการเงินร่วมลงทุน ข้าวกล้า จำกัด (บลท.ข้าวกล้า) เป็นผู้บริหารเงินร่วมลงทุนและพิจารณาคัดเลือกเอสเอ็มอีเพื่อร่วมถือหุ้น ซึ่งถือเป็นแหล่งเงินทุนอีกประเภทหนึ่งที่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจเอสเอ็มอีได้มากขึ้น
โดยล่าสุด บริษัทร่วมทุน เค-เอสเอ็มอี ได้ร่วมถือหุ้นในธุรกิจเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพอีก 2 ราย รวมวงเงินลงทุน 49 ล้านบาท ได้แก่ บริษัท ตี๋ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ดำเนินธุรกิจหลักในการรับจัดกิจกรรมและคอนเสิร์ต รับเป็นที่ปรึกษาด้านการตลาดรวมทั้งธุรกิจการจัดการด้านการตลาดผ่านสื่อดิจิตอลและสื่อออนไลน์ อีกทั้งยังประกอบธุรกิจร้านขายก๋วยเตี๋ยวเรือ “สะบัดเส้น” และร้านอาหารประเภทเปิดตลอด 24 ชั่วโมง ภายใต้แบรนด์ “T24” ตั้งอยู่ในโครงการ The Sense ปิ่นเกล้า รวมถึงดำเนินธุรกิจการผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภค (Fast Moving Consumer Goods Business: FMCG) อีกด้วย โดยบริษัทร่วมทุน เค เอสเอ็มอี เข้าร่วมถือหุ้นในบริษัท ตี๋ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด เป็นเงิน 45 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้น 33.83%
สำหรับ บริษัท ซินโค่ ลิฟวิ่ง จำกัด เป็นอีกหนึ่งธุรกิจออกแบบและจำหน่ายอุปกรณ์ทำสวนภายใต้ตราสินค้า "DOGO" ซึ่งเป็นอุปกรณ์ทำสวนของผู้ใหญ่และเด็ก ได้แก่ บัวรดน้ำเด็ก กระถางและถาด อุปกรณ์ทำสวนเด็กจัดชุด ผ้ากันเปื้อนเด็ก ตลอดจนเมล็ดพันธุ์ผักและดอกไม้ และนำเข้าและจัดจำหน่ายรองเท้าวิ่งแบรนด์ "VIVOBAREFOOT" และ "SKORA" ซึ่งเป็นรองเท้าที่คิดค้นและออกแบบในด้านการสวมใส่เสมือนไม่ใส่รองเท้า (Barefoot Shoes) โดยบริษัทร่วมทุน เค เอสเอ็มอี จำกัด เข้าร่วมลงทุนในบริษัท ซินโค่ ลิฟวิ่ง จำกัด เป็นเงิน 4 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้น 31.01%
อย่างไรก็ตาม บลท.ข้าวกล้า มีนโยบายที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการบริหารงานประจำวัน แต่จะพิจารณาช่วยเหลือในฐานะพันธมิตรทางการเงิน เพื่อให้ลูกค้าได้ประโยชน์สูงสุด ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าเจ้าของกิจการจะมีอิสระในการบริหารงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งธนาคารเชื่อมั่นว่าการร่วมทุนกับเอสเอ็มอีทั้ง 2 ราย เป็นการสานต่อนโยบายในเรื่องการสนับสนุนการขยายธุรกิจและสร้างความแข็งแกร่งด้านเงินทุนให้แก่เอสเอ็มอี ตามเป้าหมายของธนาคารในการดูแลลูกค้าในระยะยาว ตามสโลแกน “K SME ช่วยเต็มที่ SME มีแต่ได้”
ด้านนางสาวปฐมาพร ไชยกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการเงินร่วมลงทุน ข้าวกล้า จำกัด เปิดเผยว่า บลท.ข้าวกล้า ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2550 ดำเนินธุรกิจเป็นผู้บริหารจัดการเงินร่วมลงทุน ให้บริษัท ร่วมทุน เค-เอสเอ็มอี จำกัด ด้วยนโยบายที่ต้องการเป็นแหล่งเงินทุนให้กับผู้ประกอบการนอกเหนือจากการขอสินเชื่อ โดยผู้ประกอบการจะได้รับการสนับสนุนด้านเงินทุนเพื่อขยายกิจการ และการให้คำปรึกษาในการดำเนินธุรกิจในฐานะ Financial partner โดยปัจจุบัน บลท.ข้าวกล้า ได้พิจารณาเข้าร่วมลงทุนในธุรกิจเอสเอ็มอีแล้วทั้งสิ้น 19 ราย รวมเป็นเงินลงทุนกว่า 430 ล้านบาท
สำหรับทิศทางการลงทุนในอนาคตจะยังคงสนับสนุนเอสเอ็มอีซึ่งเป็นลูกค้าสินเชื่อของธนาคารเพื่อเป็นแหล่งเงินทุนให้กับผู้ประกอบการ โดยมุ่งลงทุนในบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตเพื่อให้ก่อเกิดประโยชน์สูงสุดสำหรับเอสเอ็มอี ทั้งนี้ ได้กำหนดนโยบายร่วมลงทุนในเอสเอ็มอีแต่ละบริษัทในสัดส่วนไม่เกิน 50% ของทุนจดทะเบียนภายหลังการร่วมทุน ระยะเวลาการร่วมทุน 3-5 ปี โดยจะให้อิสระในการบริหารกิจการแก่เจ้าของบริษัทและมีนโยบายกระจายความเสี่ยงในการลงทุน โดยจะลงทุนในอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่งไม่เกิน 1 ใน 3 ของเงินทุนทั้งหมด
?
?