“ทรีนีตี้” มองเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยปีหน้าแตะ 1,730 จุด ธุรกิจค้าหลักทรัพย์ขยายตัวตามงานวาณิชธนกิจ กองทุนรวมส่วนบุคคลเติบโตโดดเด่น 146%

อังคาร ๑๘ พฤศจิกายน ๒๐๑๔ ๑๕:๕๒
บมจ.ทรีนีตี้ วัฒนา ประเมินเป้าหมายดัชนีตลาดหุ้นไทยปีหน้าแตะ 1,730 จุดบนพื้นฐานค่า forward PE ที่ 13.5 เท่า ทั้งนี้หากมีสภาพคล่องที่เกิดจาก 1. เม็ดเงินไหลจากตลาดพันธบัตรเข้าสู่หุ้น (เนื่องจากสหรัฐอเมริกาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย) 2. การอัดฉีดเม็ดเงินจากธนาคารกลางญี่ปุ่น 3. การเข้าซื้อหุ้นของ GPIF กองทุนบำนาญญี่ปุ่น ปัจจัยทั้ง 3 นี้อาจทำให้เป้าหมายของ SET Indexปรับเพิ่มขึ้นไปที่ 1,800 จุดได้ คาดวอลุ่มเทรดคึกเฉลี่ย 5 หมื่นล้านบาทต่อวัน ปักธงปีหน้ากินส่วนแบ่งธุรกิจหลักทรัพย์ 3% จากสร้างฐานลูกค้าใหม่ เตรียมปิดดีล IPO-PP กว่า 4 - 6 ราย พร้อมรุกธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลเต็มสูบ มั่นใจผลการดำเนินงานสิ้นปี2557 เติบโตตามเป้าหมาย เผยงวดเก้าเดือน กำไรสุทธิ 120.05 ล้านบาท

ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล กรรมการ บริษัท ทรีนีตี้ วัฒนา จำกัด (มหาชน) และกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นไทยปี 2558 ว่าคาดการณ์มูลค่าการซื้อขายในปีหน้าจะมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ย 5 หมื่นล้านบาทต่อวัน โดยประเมินเป้าหมายดัชนีตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ 1,730 – 1,800 จุด จากสิ้นปีนี้ที่คาดว่าจะปิดได้ที่ 1,600-1,650 จุด หลังจากบรรยากาศการลงทุนมีทิศทางที่ดีขึ้นในหลายด้าน

ทั้งนี้ ในปีหน้ากลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ มีแผนการปรับเพิ่มรายได้ในทุกธุรกิจ โดยตั้งเป้าหมายธุรกิจหลักทรัพย์จะมีจำนวนบัญชีเปิดใหม่เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าปีนี้ ซึ่งมีประมาณ 1,000 กว่าบัญชี และคาดว่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นแตะ 3% ในปี 2558 จากส่วนแบ่งการตลาดงวด 9 เดือนปี 2557 ที่ 2.91%

สำหรับธุรกิจวาณิชธนกิจ ในปีหน้า จะมีการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) และหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ (PP) รวมถึงงานที่ปรึกษาด้านการปรับโครงสร้างทางการเงินตั้งเป้าไว้จะเพิ่มขึ้นอีก 4 - 6 ราย ทั้งในตลาด SET และตลาด MAI โดยจะครอบคลุมหมวดอุตสาหกรรม ได้แก่ พลังงาน, เช่าซื้อ, ก่อสร้าง, อสังหาริมทรัพย์, ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในบ้านและสำนักงาน ธุรกิจการเงิน และบริการ

ส่วนธุรกิจด้านการจัดการกองทุนส่วนบุคคล (Wealth Management) มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดทุกปี อันเป็นผลมาจากการสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้แก่ลูกค้า โดยปัจจุบันมีมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การบริหารรวม 2,590 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 1,815 ล้านบาท ประมาณ ร้อยละ 42

ส่วนงานด้านวิเคราะห์หลักทรัพย์ เน้นกลยุทธ์การให้ความรู้ด้านการลงทุนแบบแบบรายเดือน (Market Theme) ในรูปแบบของบทวิเคราะห์ The Big Picture โดยพร้อมตั้งเป้าที่จะสร้างผลตอบแทนให้แก่นักลงทุนสูงกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ อย่างน้อย 20% ต่อปี

สำหรับไตรมาสที่ 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2557 บริษัทมีกำไรหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล 62.31 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันในปี 2556 ซึ่งมีกำไรหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล 66.51 ล้านบาท ขณะที่งวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2557บริษัทมีกำไรสุทธิ 120.05 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีกำไรสุทธิ 130.75 ล้านบาท เป็นผลมาจากปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ ที่ลดลงอย่างมีนัยในช่วงต้นปี 2557

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ