นายปกรณ์ สุขุม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อัครา รีซอร์สเซส เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีเจตนารมณ์ให้การสนับสนุนและร่วมมืออย่างเต็มที่แก่คณะของคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ในการตรวจเช็คสุขภาพของชาวบ้านรอบเหมืองครั้งใหม่ระหว่างวันที่ 26-27 พฤศจิกายนนี้ โดยจากการประชุมร่วมกันระหว่างคณะผู้บริหารของ บมจ.อัคราฯ กับคุณหญิงพรทิพย์ เมื่อเช้าวันที่ 26 พฤศจิกายน ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องกันที่จะใช้มาตรฐานที่ถูกต้องและเป็นสากลในการตรวจสุขภาพของชาวบ้าน ซึ่งครอบคลุมการตรวจเลือดและตัวอย่างปัสสาวะ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผลการตรวจสุขภาพครั้งใหม่นี้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย
นายปกรณ์ กล่าวแสดงความยินดีหลังจากพบปะกับคุณหญิงพรทิพย์ว่า ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องกันถึงประโยชน์และความจำเป็นในการสร้างความชัดเจนต่อประเด็นซึ่งเป็นที่ถกเถียงกันว่า กิจการเหมืองแร่ได้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของชาวบ้านของชุมชนหรือไม่อย่างไร หลังจากมีการตรวจเลือดและปัสสาวะของชาวบ้านในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยกลุ่มนักเคลื่อนไหวท้องถิ่นที่ได้ร้องเรียน คสช.ก่อนหน้านี้ โดยกล่าวหาว่า กิจการเหมืองแร่ทองคำได้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของชุมชนรอบข้าง แต่ผลการตรวจก่อนหน้านี้มีข้อโต้แย้งหลายประเด็น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความถูกต้องและความน่าเชื่อถือในการแปลความหมายผลการวิเคราะห์ตัวอย่าง
นายปกรณ์ กล่าวยืนยันว่า บมจ.อัครา รีซอร์สเซส เป็นผู้ประกอบการเหมืองแร่ทองคำที่ได้มาตรฐานสากลและได้รับการรับรองมาตรฐานการประกอบการจากหน่วยงานและสถาบันต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ “การที่เหมืองแร่ชาตรีได้รับอนุญาตจากทางการให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันนี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ที่ชัดเจนว่าเราได้ยึดถือและปฏิบัติตามมาตรฐานและกฎระเบียบข้อบังคับของภาครัฐอย่างได้ผล”
บมจ.อัครา รีซอร์สเซส มีการตรวจเช็คสุขภาพพนักงานประจำทุกปี โดยครั้งล่าสุด ได้ดำเนินการตรวจเช็คตัวอย่างเลือดและปัสสาวะของพนักงานบริษัทฯ จำนวนทั้งสิ้น 379 คน เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และยังได้ตรวจสุขภาพของพนักงานบริษัทโลตัส ฮอล์ล ซึ่งเป็นผู้รับเหมาหลักอีกทั้งสิ้น 421 คนในเดือนเดียวกัน ซึ่งผลการตรวจสุขภาพทั้งหมดยืนยันว่า ระดับสารหนูและแมงกานีส อยู่ในระดับต่ำกว่าเกณฑ์ค่ามาตรฐาน
ทั้งนี้ บริษัทฯ เชื่อว่า นักเคลื่อนไหวท้องถิ่นเพียงไม่กี่คน ที่พยายามโจมตีกล่าวหาบริษัทฯ ดำเนินการโดยมีวาระซ้อนเร้น โดยหนึ่งในนักเคลื่อนไหวเหล่านี้ คือนางสาวสื่อกัญญา ธีระชาติดำรง ซึ่งเป็นอดีตพนักงานของเหมืองได้พยายามขายที่ดินที่ได้กว้านซื้อบริเวณใกล้เคียงกับเหมืองให้กับบริษัทฯ ในราคาที่แพงลิ่ว โดยนางสาวสื่อกัญญา ได้ดำเนินการร้องเรียนต่อหน่วยงานราชการต่างๆ และศาลปกครองอย่างต่อเนื่อง โดยกล่าวหาว่าเหมืองแร่ชาตรีได้สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนที่อยู่ในรอบข้างเหมือง หลังจากที่บริษัทฯ ได้ปฏิเสธซื้อที่ดินจากนักเคลื่อนไหวรายนี้
นายปกรณ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลเลย สำหรับบุคคลที่ประท้วงต่อต้านเหมืองแร่ชาตรี ด้วยข้อกล่าวหาว่า สร้างปัญหาสิ่งแวดล้อมและผลกระทบด้านสุขภาพ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังกว้านซื้อที่ดินที่อยู่ใกล้เคียงกับเหมือง ดังนั้น บริษัทฯ จึงขอเรียกร้องให้สื่อมวลชนได้สืบสวนถึงข้อเท็จจริงที่อยู่เบื้องหลังข้อกล่าวหาที่ปราศจากมูลความจริงของนักเคลื่อนไหวรายนี้
นอกจากนี้ ข้อเท็จจริงเรื่องหนึ่งที่สะท้อนถึงการกล่าวหาที่เลือนลอยของนักเคลื่อนไหวรายนี้ ปรากฏชัดจากคำพิพากษาของศาลปกครองจังหวัดพิษณุโลก เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2555 ซึ่งศาลได้พิพากษายกฟ้องคำร้องของนางสาวสื่อกัญญาที่ร้องให้ศาลสั่งระงับการทำเหมืองแร่ของบริษัทฯ โดยผู้พิพากษาได้อ่านคำพิพากษามีใจความสรุปว่า ศาลได้ดำเนินการตรวจสอบสถานที่ทำเหมืองและตรวจร่างกายของกลุ่มผู้ร้องและประชาชนในพื้นที่ โดยผู้เชี่ยวชาญอิสระพร้อมกับดำเนินการตรวจวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมตามที่มีคำร้องว่า มีสารปนเปื้อนในน้ำสาธารณะ และสรุปพบว่า คุณภาพน้ำมีปริมาณปนเปื้อนต่ำกว่าที่มาตรฐานสิ่งแวดล้อมกำหนด ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนในพื้นที่ จึงไม่มีเหตุที่จะต้องเพิกถอนประทานบัตรของบริษัทฯ ในทางกลับกันเห็นว่า การเพิกถอนประทานบัตรจะก่อให้เกิดผลกระทบเสียหายต่อทั้งบริษัทอัครา รีซอร์สเซส ตลอดจนพนักงานและประชาชนในพื้นที่ และยังทำให้รัฐขาดรายได้อีกด้วย
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.akararesources.com