วิถีความสุข ของเด็กรักบ้านเกิด

อังคาร ๐๒ ธันวาคม ๒๐๑๔ ๑๑:๐๘
“เรียนจบปริญญาแล้ว กลับมาทำไม ทำไมไม่ไปหางานในเมือง” ตั้ม-ธนภัทร แสงหิรัญ บัณฑิตหนุ่มมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เล่าถึงข้อสงสัยจากคนรอบข้างที่มีต่อตัวเขา

ถึงจะดูขัดความรู้สึกคนรอบข้างที่มักเชื่อกันว่าการทำงานในเมืองนั้นดูดีและมีอนาคต แต่ประสบการณ์เมื่อครั้งทำกิจกรรมค่ายอาสากับมูลนิธิโกมลคีมทองชักจูงให้ ”ธนภัทร”และเพื่อนสนใจงานพัฒนาชุมชน โดยเฉพาะกับภูมิลำเนาเกิดแถบภาคอีสานซึ่งทั้งหมดคือที่มาของโครงการฮักบ้านเกิด (ความสุขอยู่ที่บ้านเรา) ที่นอกจากจะมีเครือข่ายนักกิจกรรมเยาวชนร่วมด้วยช่วยกันแล้ว ยังมีสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สนับสนุนอีกแรง

เมื่อถูกถามว่าสำนึกของความรักในบ้านเกิดจะถูกสร้างอย่างเป็นรูปธรรมได้อย่างไร “ธนภัทร” อธิบายว่า คนในชุมชนต้องค้นหาความภูมิใจของตัวเองและพัฒนาให้มีคุณค่าให้ได้ก่อน แต่ถึงเช่นนั้นความสำคัญไม่ได้อยู่แค่ผลลัพธ์หรือการเปลี่ยนแปลงทันทีทันใดแต่คือการฝึกทักษะให้เด็กและเยาวชนในถิ่นเกิดของเขา สนใจในเรื่องรอบตัวมากขึ้นโดยเฉพาะหัวใจจิตอาสา เสียสละ พร้อมจะลงแรงกายเพื่อสังคมส่วนรวม มากกว่าจะมองแค่ผลประโยชน์ส่วนตัวอย่างเดียว

“หลักใหญ่นั้นกว้างมาก เยาวชนทั้ง12 กลุ่มย่อยในภาคอีสานที่เข้าร่วมโครงการ จึงเอาแนวคิดการสร้างสุขภาวะ การมองถึงประโยชน์ส่วนรวมของชุมชน ไปออกแบบกิจกรรมของตัวเองตามความชอบ เช่น ค่ายเรียนรู้จิตวิญญาณชาวนากับคนรุ่นใหม่ ที่ให้เยาวชนไปเห็นวิถีของการทำนาจริงๆ โดยมีเป้าหมายให้เห็นถึงมิติของอาชีพทำนาซึ่งเป็นอาชีพพื้นถิ่น กลุ่มที่ทำเรื่องอนุรักษ์ป่าธรรมชาติที่ช่วยปลุกกระแสให้ชาวบ้านต่อต้านกลุ่มตัดไม้ การทำลายสิ่งแวดล้อมเพราะผลประโยชน์เล็กน้อย”

“เปรียบได้กับว่าโครงการไปเพิ่มพื้นที่เรียนรู้ พัฒนาศักยภาพและเยาชน กระบวนการเหล่านี้จะช่วยให้เยาวชนที่สนใจและมีศักยภาพเห็นความความสำคัญที่มีอยู่ในชุมชน ตระหนักที่จะให้ความสำคัญและภูมิใจในความมีอยู่ของชุมชนตัวเอง” เขาอธิบายเสริม

เมื่อสุดสัปดาห์ปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ณ ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนคนหนุ่มสาว ต.โพนแพง อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร คืออีกหนึ่งเวทีที่เปิดโอกาสให้เยาวชน “ฮักบ้านเกิด” ได้แลกเปลี่ยนผลงานและแนวคิดระหว่างกันภายใต้ชื่อ “มหกรรมความสุขอยู่ที่บ้านเรา”

ในซุ้มแสดงผลงานที่จัดวางอยู่รอบๆ “เบียร์-จันทร์จิรา สาขามุละ” นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนมัธยมวาริชภูมิ จ.สกลนคร และกลุ่มเพื่อนในโรงเรียนได้ร่วมนำเสนอผลงานในรูปแบบสื่อร่วมสมัย เช่น ภาพถ่าย หนังสั้น วีดีโอ สารคดี สิ่งพิมพ์ ตามแนวคิด”รักษ์ถิ่น”

“จันทร์จิรา” อธิบายว่า เธอและเพื่อนรุ่นเดียวกันชื่นชอบการเสพสื่อ เช่น โทรทัศน์และอินเทอร์เน็ตเป็นทุน เหตุเพราะด้านหนึ่งสื่อคือตัวแทนของความสมัยใหม่ สามารถดูได้ทุกที่ทุกเวลาและอยู่ได้ในหลายรูปแบบ เช่น อินเทอร์เน็ตซึ่งสามารถอัพโหลดและสื่อสารไปทั่วโลกได้จึงนำความภูมิใจในเรื่อง อาหาร ทัศนียภาพ ประวัติศาสตร์ ประเพณี ฯลฯ เสนอในรูปแบบสื่อต่างๆ

“การสร้างความภูมิใจให้เห็นถึงคุณค่าในชุมชนอาจไม่ใช่เรื่องที่ต้องอธิบายยากแต่พวกหนูมองว่าสามารถประยุกต์และนำเสนอในรูปแบบที่คนอื่นเข้าถึงได้ง่าย เช่น ชาวบ้านมีความภูมิใจที่ในท้องถิ่นซึ่งมีอาหารที่อร่อย อย่างแกงหวายของทางอีสาน ที่ใครมากินก็ต้องชอบ มีชนพื้นถิ่นอย่างคนภูไทที่สืบทอดมาตั้งแต่อดีต มีทัศนียภาพที่สวยงาม มีองค์พระธาตุศรีมงคลซึ่งเก่าแก่ เป็นที่เคารพของคนในชุมชน จึงนำเรื่องราวเหล่านี้มาบอกเล่าให้คนภายนอกได้เห็น”

“ส่วนคนที่เป็นคนในชุมชนเองเมื่อได้ชมสิ่งที่ตัวเองเห็นอยู่ทุกวันรูปแบบใหม่ๆ ก็เกิดความรู้สึกต่างออกไป เกิดความภูมิใจในภูมิปัญญาเหล่านี้” ตัวแทนนักเรียนมัธยมวาริชภูมิกล่าวและว่า ประสบการณ์ของการลงแรงจากกิจกรรมช่วยให้เธอและเพื่อนมองชุมชนอย่างลึกซึ้งมากขึ้นและอยากจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้บ้านของพวกเธอน่าอยู่เช่นเดิม

ในประเด็นด้านวัฒนธรรมและวิถีชีวิต “บิว-วรัญญา แสงมณี” นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนแก่งนาจารย์พิทยาคม จ.กาฬสินธุ์ หนึ่งใน ”กลุ่มเยาวชนข้าวเหนียวปั้นน้อย” ซึ่งทำกิจกรรมค่ายในชุมชน เล่าเพิ่มว่า กิจกรรมที่ทำช่วยเยาวชนได้หันมามองสิ่งรอบตัว ได้โอกาสศึกษาถึงวิถีชีวิตในชุมชนที่ยังคงเหลือความมีจิตอาสา การแบ่งปันน้ำใจของชาวบ้านควบคู่กับการเลือกที่จะมีชีวิตที่เรียบง่าย เช่น การทอเสื่อ ทอผ้า การทำเกษตรที่มุ่งตอบสนองการบริโภคเองมากกว่าเชิงพาณิชย์

“ช่วงเวลาที่ศึกษาชุมชนมันอาจไม่ได้ทำให้ใครเปลี่ยนแปลงทันที แต่ทำให้เราได้เห็นจริงในสิ่งที่เราเคยได้ยินคำบอกเล่า มีโอกาสได้คิดและทบทวนกับสิ่งที่เป็นอยู่” เธอสรุป

ขณะที่ หนุ่ม-เกียรติกร อัตรสาร นิสิตคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประธานสภาเด็กและเยาวชน จ.สกลนคร มองว่า แน่นอนที่ความสำคัญของกิจกรรมเช่นนี้ไม่ได้อยู่ที่ผลลัพธ์ที่จะเปลี่ยนแปลงทันที แต่เป็นการส่งเสริมให้เด็กมีพื้นที่แสดงศักยภาพและฝึกทักษะในสิ่งที่สนใจ มีหัวใจที่จะร่วมพัฒนาถิ่นกำเนิด

คุณค่าในสิ่งที่ทำจึงกลายเป็นความภาคภูมิใจ และนำพาความสุขมาให้แบบไม่ยากเลย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO