เนื่องจากองค์กรต่างๆ กำลังพยายามอย่างเต็มที่ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพด้านความพร้อมในการให้บริการและการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้ได้รับประโยชน์สูงสุด ดังนั้น จำนวนของอุปกรณ์และเซ็นเซอร์ตรวจจับที่ถูกนำมาใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลสำหรับช่วยให้เกิดการตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดยิ่งขึ้นนั้นจึงมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งรวมถึงข้อมูลแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับสภาพแวดล้อมและการใช้งานทรัพยากรภายในอาคาร หรือข้อมูลเกี่ยวกับการขนส่งและการเคลื่อนไหวของผู้คนในบริเวณรอบๆ สถานปฏิบัติงานด้วย ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลในลักษณะใด อุปกรณ์และเซ็นเซอร์ตรวจจับจำนวนมากเหล่านี้จะถูกติดตั้งไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สภาพแวดล้อมการทำงานปกติของสำนักงาน และเนื่องจากเกิดการสร้างข้อมูลขึ้นมาเป็นจำนวนมาก การเชื่อมต่อไร้สายจึงอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนัก
อัลไลด์ เทเลซิส IE200 ซีรี่ส์ ได้รับการพัฒนาให้พร้อมรองรับการใช้งานภายในโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญอย่างครอบคลุม รวมถึงสภาพแวดล้อมที่จำป็นต้องใช้โซลูชั่นที่มีคุณสมบัติพร้อมสรรพและมีความน่าเชื่อถือได้ในระดับสูง ทั้งนี้ IE200 Series มีให้เลือกใช้งานทั้งในรุ่น 6 หรือ 12 พอร์ต* (มีทั้งที่รองรับและไม่รองรับคุณสมบัติด้าน Power over Ethernet Plus: PoE+) และยังมีคุณสมบัติและฟังก์ชันการทำงานที่ครอบคลุมอย่างมาก ทั้งสองรุ่นเป็นการติดตั้งแบบ DIN Rail ส่งผลให้ลดขนาดพื้นที่ใช้งาน ลดความซับซ้อนในการติดตั้ง และลดค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบกับแร็คมาตรฐานทั่วไป
และเนื่องจากในปัจจุบันมีแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ จำนวนมากที่พร้อมใช้งาน IPv6 แล้ว รวมทั้งจำนวนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อเครือข่ายก็เกิดการขยายตัวมากเกินกว่าที่คาดไว้ ทำให้บริษัทเตรียมเสริมขีดความสามารถเพิ่มให้กับ IE200 ซีรี่ส์ เพื่อให้พร้อมรองรับ IPv6 อย่างเต็มที่ในรูปของเฟิร์มแวร์ที่กำลังจะออกสู่ตลาดในเร็วๆ นี้ ซึ่งนั่นจะทำให้แน่ใจได้ว่าสวิตช์ดังกล่าวจะสามารถรองรับอุปกรณ์จำนวนมากสำหรับการใช้งานต่างๆ ได้อย่างครอบคลุม
นอกจากจะพร้อมให้การรองรับคุณสมบัติดั้งเดิมอย่างมากมาย เช่น VLAN แบบใช้พอร์ต, IEEE 802.1p QoS, ระบบรักษาความปลอดภัยแบบ 802.1x, การผสานรวมลิงก์ และการมิเรอร์พอร์ตแล้ว สวิตช์ IE200 Series ยังรองรับคุณสมบัติใหม่ๆ เช่น อีเทอร์เน็ต โปรเทคชั่น สวิตช์ ริง หรือ อีพีเอสริง (Ethernet Protection Switched Ring (EPSRingTM)) และ อัลไลด์ เทเลซิส มาเนจเม้นท์ เฟรมเวิร์ค หรือ เอเอ็มเอฟ (Allied Telesis Management Framework™ (AMF)) ด้วยจะเห็นได้ว่า EPSRing มีความยืดหยุ่นอย่างมากเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีดั้งเดิม ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าฟังก์ชันการทำงานด้านเครือข่ายจะได้รับการกู้คืนให้กลับมาใช้งานได้อย่างเป็นปกติในกรณีที่เกิดการล้มเหลวโดยที่แทบจะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้และแอพพลิเคชั่นแม้แต่น้อย
นอกจากนี้ เอเอ็มเอฟ ** ยังช่วยลดเวิร์กโหลดในแต่ละวันให้กับผู้จัดการด้านเครือข่ายด้วยการจัดเตรียมเทคโนโลยีที่ทำให้งานบริหารจัดการทั่วไปเป็นระบบอัตโนมัติ เช่น การทดแทนชุดอุปกรณ์ที่ทำงานล้มเหลว การปรับเปลี่ยนการกำหนดค่า การอัพเกรดเฟิร์มแวร์ หรือการขยายเครือข่ายเอเอ็มเอฟ ช่วยให้ผู้แลระบบไอทีมีส่วนควบคุม (คอนโซล) สำหรับจัดการเครือข่ายแบบครบวงจร ตลอดจนสามารถติดตั้งอุปกรณ์และกู้คืนระบบได้โดยไม่ต้องลงมือเอง ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาและเงินได้อย่างมาก สิ่งนี้ถือเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในกรณีที่องค์กรมีการใช้งานอุปกรณ์เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ IE200 ยังใช้หลักการ “Galvanic Isolation" (การแยกสัญญาณในระบบไฟฟ้าซึ่งจะทำให้กระแสไฟฟ้าไม่สามารถเคลื่อนที่โดยตรงจากส่วนหนึ่งไปยังส่วนอื่นๆได้) อันเป็นคุณสมบัติที่โดดเด่นไม่เหมือนใครและยังช่วยปกป้องอุปกรณ์ไฟฟ้าในกรณีที่มีการต่อกราวน์อย่างไม่ถูกต้องด้วย
นายเซอิชิโร ซาโตะ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ระดับโลก บริษัทอัลไลด์ เทเลซิส กล่าวว่า “IE200 ซี่รี่ส์ จะเข้ามาขยายขีดความสามารถของกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่และทำให้บริษัทพร้อมเป็นผู้จำหน่ายรายเดียวที่รองรับโซลูชั่นการเชื่อมต่อสำหรับอุตสาหกรรมและองค์กรอย่างครบวงจร นับว่าเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับระบบกล้องวงจรปิดแบบไอพี การขนส่งอัจฉริยะ และแอพพลิเคชั่นแบบฝังตัวอื่นๆ ที่ติดตั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย หรือในตู้รวมสายที่มีความหนาแน่นสูงที่ซึ่งความมีเสถียรภาพและการจัดการที่ง่ายดายถือเป็นสิ่งสำคัญ บริษัท อัลไลด์ เทเลซิส มุ่งมั่นที่จะลดต้นทุนและความซับซ้อนของระบบเครือข่าย และ IE200 ซีรี่ส์ สามารถผลักดันให้บรรลุผลดังกล่าวได้ด้วยคุณสมบัติที่ครอบคลุม เช่น EPSRing และ AMF”
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ IE200 Series โปรดดูที่ alliedtelesis.com/switches/industrial/ie200 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัท อัลไลด์ เทเลซิส โปรดไปที่เว็บไซต์ alliedtelesis.com
* สำหรับรายชื่อทั้งหมดของผลิตภัณฑ์อีเทอร์เน็ตสำหรับอุตสาหกรรม โปรดดูที่ alliedtelesis.com/products/industrial
** พร้อมให้บริการต้นปี 2558 พร้อมกับระบบปฏิบัติการ Allied Telesis AlliedWare Plus™ รุ่น 5.4.5