“ตั้งแต่ปี 2553 ที่ผ่านมา ที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมมีการเติบโตที่ดีมาก เห็นได้จากยอดขายของหลายๆ บริษัทที่ประกาศรายได้ออกมา ซึ่งก็สื่อได้ถึงจำนวนผู้ขอกู้สินเชื่อก็มีมากเช่นกัน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มีผู้กู้สินเชื่อที่อยู่อาศัยเดิมนั้นมีแนวโน้มที่จะมองหาการทำรีไฟแนนซ์อยู่จำนวนมาก เนื่องจากกรอบเวลาค่าปรับในกรณีย้ายธนาคารได้หมดเวลาลง ทำให้ดอกเบี้ยช่วงโปรโมชั่นที่เคยได้มาตอนขอสินเชื่อใหม่ๆ เริ่มปรับขึ้น จึงอยากให้ผู้กู้สินเชื่อได้ทบทวนสินเชื่อของตนเอง เพราะนี่คือโอกาสที่ดีในการหันมาพิจารณาทำรีไฟแนนซ์สินเชื่อที่อยู่อาศัยของแบงค์ออฟไชน่า กอปรกับแนวโน้มของดอกเบี้ยที่อาจปรับตัวขึ้นในอนาคตและปัญหาหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกับการขอสินเชื่อใหม่ในอนาคต เลยมองว่าดอกเบี้ยของแบงค์ออฟไชน่าที่ต่ำในระยะยาวจะทำให้ผู้กู้ประหยัดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย และไม่ต้องทำรีไฟแนนซ์อีกในอนาคต” พรพิมล กล่าว
อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนสิงหาคม 2557 ที่ผ่านมา ธนาคารแบงค์ออฟไชน่า(ไทย) ได้รับสถานะเป็นบริษัทลูกที่จดทะเบียนใหม่ในประเทศไทย จากเดิมที่ประกอบการในรูปแบบสาขาของธนาคารต่างประเทศ ทำให้ธนาคารเพิ่มศักยภาพในการให้บริการเต็มรูปแบบ ในขณะที่บริษัท ฟิทช์ เรทติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ได้แจ้งผลการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของ แบงค์ออฟไชน่า โดยอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของแบงค์ออฟไชน่า เปรียบเทียบกับองค์กรต่างๆ ในประเทศ (National Long – Term Rating) อยู่ที่ระดับ AAA (Tha) ทั้งนี้สำหรับผู้ที่สนใจโปรโมชั่นรีไฟแนนซ์สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ โทร.02-286-1010 ต่อ 2523 ถึง 2525