นายพจนารถ แสงพฤกษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทย ร่วมกับบริษัท โซลเวนเทีย โซลาร์ จำกัด บริษัท อิงลี่ กรีน เอ็นเนอร์ยี่ (สิงคโปร์) จำกัด บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านการจัดการโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก นำมาพัฒนาเป็น New Financial Model โดยออกโปรแกรมสินเชื่อรับประกันการประหยัดพลังงานกสิกรไทย (K-Energy Saving Guarantee Program) สำหรับโครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) ให้วงเงินสินเชื่อสูงสุด 100% ของเงินลงทุนทั้งหมดของโครงการในรูปของสินเชื่อเงินกู้ระยะยาว ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุด 12 ปี เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการติดตั้งแผงเซลล์พลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาโรงงานหรืออาคารสำนักงานรวมถึงให้คำปรึกษาและการติดตั้ง และสนับสนุนนโยบายสนับสนุนส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนด้วยระบบโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์
นายพจนารถ กล่าวเพิ่มเติมว่า โปรแกรมสินเชื่อรับประกันการประหยัดพลังงานกสิกรไทย จะสนับสนุนให้ผู้ประกอบการลงทุนผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคาเพื่อใช้ในธุรกิจ ซึ่งจะสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันหรือสามารถจำหน่ายไฟฟ้าตามโครงการของภาครัฐได้ โดยมีผู้เชี่ยวชาญระดับโลกให้คำปรึกษาและบริหารจัดการด้านพลังงานอย่างครบวงจร เพื่อรับประกันผลการผลิตไฟฟ้าและผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุน ทั้งนี้ บริษัท โซลเวนเทียโซลาร์ มีการรับประกันพลังงานที่ผลิตได้ในแต่ละปีตามอัตราส่วนที่มีการตกลงไว้ ทำให้ผู้ประกอบการมั่นใจในโครงการ โดยธนาคารตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อรับประกันการประหยัดพลังงานกสิกรไทยในโครงการดังกล่าวประมาณ 3,000 ล้านบาท
ปัจจุบันธนาคารได้พัฒนาผลิตภัณฑ์สินเชื่อใหม่ สำหรับ Solar Project ภายใต้ โปรแกรมสินเชื่อรับประกันการประหยัดพลังงานกสิกรไทย ซึ่งตอบโจทย์สำหรับลูกค้า SME และ Corporate ที่สนใจลงทุนโครงการฯ โดยผู้ประกอบการที่สนใจสามารถติดต่อขอสินเชื่อรับประกันการประหยัดพลังงานกสิกรไทย ผ่านเจ้าหน้าที่ดูแลความสัมพันธ์ลูกค้า หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ K-Biz Contact Center 02-888 8822
ด้านนายเจสัส วาซเกว เกอร์เรโร กรรมการผู้จัดการ บริษัท โซลเวนเทีย โซลาร์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท โซลเวนเทีย จะให้บริการในด้านการให้คำปรึกษาและข้อมูลแก่ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการการจัดการพลังงาน ภายใต้โครงการดังกล่าวในด้านการออกแบบและติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ โดยได้รับความร่วมมือจากบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์อินเวอร์เตอร์ของบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย)และแผงเซลล์แสงอาทิตย์ของ บริษัท อิงลี่ กรีน เอ็นเนอร์ยี่ (สิงคโปร์) ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล และมีการร่วมมือกันพัฒนา ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการสนับสนุนของการลงทุนด้านพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพส่วนการดำเนินงานด้านระบบปฏิบัติการ เช่น การตรวจสอบวิเคราะห์การใช้พลังงานที่นำเสนอแผนอนุรักษ์พลังงาน ทางโซลเวนเทียได้มีการออกแบบระบบและการตรวจวัดที่มีประสิทธิภาพและชัดเจน ทำให้ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโปรแกรมสินเชื่อรับประกันการประหยัดพลังงานกสิกรไทยมั่นใจได้ว่า จะสามารถผลิตกำลังไฟฟ้าได้ปริมาณสูงสุดเท่ากับจำนวนกำลังการผลิตที่ผู้ประกอบการได้ตกลงกับการไฟฟ้าไว้
ในส่วนของการรับประกันผลผลิตไฟฟ้า ทางบริษัทมีการรับประกันพลังงานที่ผลิตได้ในแต่ละปี ตามอัตราส่วนที่มีการตกลงไว้ในสัญญาระหว่างผู้ประกอบการและ EPC (Engineering Procurement and Construction) หากผลผลิตที่ได้ไม่ถึงตามกำหนด ทางบริษัทจะทำการจ่ายค่าชดเชยส่วนต่างให้ตามอัตราที่ผู้ประกอบการตกลงขายไฟให้กับการไฟฟ้าเพื่อเป็นการการันตีอัตราการคืนทุน ให้มั่นใจว่าการลงทุนจะให้ผลตอบแทนที่ยั่งยืนต่อธุรกิจที่ได้จากการลงทุนในโครงการดังกล่าว
นายปีเตอร์ จี ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายและบริการ โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (เอเชีย-แปซิฟิก)บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัดเปิดเผยว่า บริษัทจะทำหน้าที่เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอินเวอร์เตอร์ที่มีคุณภาพสูงให้แก่บริษัท โซลเวนเทีย รวมถึงการฝึกอบรมด้านเทคนิค ด้านการติดตั้ง การบำรุงรักษา การแก้ไขปัญหาของอุปกรณ์ และการรับประกันคุณภาพที่มีสิทธิพิเศษสำหรับโครงการจัดการพลังงานในครั้งนี้
นางสาวแองจี คอร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิงลี่ กรีน เอ็นเนอร์ยี่ (สิงคโปร์) จำกัดเปิดเผยว่า บริษัท อิงลี่ กรีน เอ็นเนอร์ยี่ หรือ อิงลี่โซลาร์ เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแผงเซลล์แสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในด้านกำลังการผลิต การจัดส่งสินค้า และกระบวนการผลิต โดยบริษัทจะเป็นผู้ดำเนินการจัดหาแผงเซลล์พลังงานแสงอาทิตย์ที่มีคุณภาพสูงให้กับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ รวมถึงการจัดหาชิ้นส่วนอะไหล่และเปลี่ยนแปลงแผงเซลล์แสงอาทิตย์ทดแทนในกรณีมีข้อผิดพลาด ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีบริษัทในเครือและสาขากว่า 30 แห่ง และจำหน่ายแผงเซลล์แสงอาทิตย์ให้แก่ลูกค้าทั่วโลกแล้วกว่า 10,000 เมกะวัตต์ ผู้ประกอบการสามารถมั่นใจได้ว่าโครงการในครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการพลังงานของประเทศไทย เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงจะได้รับการบริการด้านการรับประกัน และสิทธิพิเศษด้านบริการหลังการขายอีกด้วย