นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทย ได้ตกลงเป็นพันธมิตรกับธนาคารลอมบาร์ด โอเดียร์ (Lombard Odier Bank) ซึ่งเป็นหนึ่งในธนาคารที่ให้บริการไพรเวทแบงค์ที่เก่าแก่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์มานานถึง 218 ปี ปัจจุบันมีสำนักงานทั้งหมด 25 แห่งใน 18 ประเทศทั่วโลก และมีประสบการณ์ในการให้บริการไพรเวทแบงค์ในญี่ปุ่น จีน เกาหลี และออสเตรเลีย มากว่า 25 ปี ผ่านวิกฤตการเงินในรูปแบบต่าง ๆ มากกว่า 40 ครั้ง จึงเป็นองค์กรที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการบริหารและการจัดการความเสี่ยงมากที่สุดแห่งหนึ่ง
ความร่วมมือกับธนาคารลอมบาร์ด โอเดียร์ จะเป็นการรวมประสบการณ์ในการให้บริการด้านไพรเวทแบงค์ของธนาคารธนาคารลอมบาร์ด โอเดียร์ เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูง (High Net Worth Individual-HNWI) ของธนาคารกสิกรไทยสู่ระดับสากลอย่างรวดเร็ว ด้วยปรัชญาการให้บริการที่สอดคล้องกันในการให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้าเพื่อสร้างความสัมพันธ์ในระยะยาว และสร้างความมั่นใจให้ลูกค้ามากกว่าเน้นการสร้างผลกำไรในระยะสั้น นอกจากนี้ ธนาคารลอมบาร์ด โอเดียร์ ยังมีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในเรื่องการให้คำแนะนำลูกค้าเรื่องการส่งต่อธุรกิจ (Family Business) และการบริหารจัดการเงินในรูปแบบครอบครัว (Family Office) ซึ่งเป็นแนวทางที่ธนาคารกสิกรไทยก็ให้ความสำคัญอยู่ในปัจจุบัน
จากความร่วมมือดังกล่าวลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูงของธนาคารกสิกรไทยจะได้รับบริการทางการเงินและการลงทุนที่ครบวงจรยิ่งขึ้น มีทางเลือกในการกระจายการลงทุนในรูปแบบใหม่ที่กว้างไกลกว่าเดิม จึงมีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงบนความเสี่ยงที่มีการจัดการอย่างเป็นระบบ ลูกค้าจะได้รับบริการไพรเวทแบงค์ด้วยมาตรฐานระดับสากล อาทิ การเพิ่มคุณภาพของบทวิเคราะห์และคำแนะนำการลงทุน ความหลากหลายผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุมทั้งตลาดไทยและต่างประเทศเพื่อเพิ่มทางเลือกในการลงทุน รวมทั้งการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อให้บริการลูกค้าอย่างมืออาชีพ
ปัจจุบันธนาคารกสิกรไทย มีลูกค้ากลุ่มบุคคลสินทรัพย์สูงประมาณ 8,700 ราย คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดประมาณ 40% ของกลุ่มลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูงทั้งหมดในประเทศไทย มีทรัพย์สินถือครองอยู่รวมเกือบ 7 แสนล้านบาท โดยเป็นลูกค้าที่อยู่ในกรุงเทพฯ 80% และต่างจังหวัด 20% ทั้งนี้ กว่า 70% ของลูกค้ามีความสนใจจะลงทุนในผลิตภัณฑ์ประเภทต่างๆ เพิ่มขึ้นทุกปี ดังนั้น จากความร่วมมือกับธนาคารลอมบาร์ด โอเดียร์ เพื่อยกระดับการให้บริการไพรเวทแบงค์สู่ระดับสากลในครั้งนี้จะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้านการลงทุนที่ครบวงจรและครอบคลุมทั้งในและต่างประเทศมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ จากผลการสำรวจกลุ่มลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูง (High Net Worth Individual-HNWI) โดยบริษัท Capgemini ที่ปรึกษาและวิจัยข้อมูลระดับโลก พบว่า ในปี 2557 ลูกค้าบุคคลที่มีสินทรัพย์รวมมากกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 33 ล้านบาทในเอเชีย แปซิฟิค มีการเติบโตสูงถึง 17.3% ซึ่งเติบโตสูงกว่าปี 2556 ที่มีการเติบโตประมาณ 9.3%
สำหรับประเทศไทยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตของกลุ่มลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูงประมาณ 12.7% ต่อปี ซึ่งนับว่าสูงมากเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยอัตราการเติบโตในกลุ่มเดียวกันของเอเชีย แปซิฟิค ที่มีประมาณ 9.5% ยิ่งไปกว่านั้น หากพิจารณาในเชิงทรัพย์สินที่ลูกค้าถือครอง พบว่าทรัพย์สินของลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูงในประเทศไทยเติบโตเฉลี่ย 14.4% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยอัตราการเติบโตในภูมิภาคฯ ที่มีราว 10.4% จากข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้ในปัจจุบันธุรกิจไพรเวทแบงค์จึงมีการแข่งขันสูงขึ้น แต่ความร่วมมือกับธนาคารลอมบาร์ด โอเดียร์ และการขยายบริการไพรเวทแบงค์ไปในตลาดต่างจังหวัดจะเป็นจุดแข็งของธนาคารกสิกรไทย ที่สามารถให้บริการได้เหนือกว่าคู่แข่งและครองความเป็นอันดับหนึ่งในตลาดกลุ่มลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูงต่อไป