นายแพทย์ธเนศ อมรพิทักษ์กูล แพทย์แผนปัจจุบันและผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร เจ้าของคลินิก Herb Plus กล่าวว่า โรคหวัดสามารถเกิดขึ้นได้บ่อยกับทุกคน ซึ่งหลายคนอาจมองว่าโรคหวัดเป็นโรคที่หายได้เอง จึงละเลยไม่ใส่ใจในการป้องกันหรือรักษา แต่จริงๆแล้วโรคหวัดน่ากลัวกว่าที่คิดเพราะอาจนำไปสู่โรคร้าย ไม่ว่าจะเป็น โรคปอดบวม โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ หรือโรคสมองอักเสบ โดยเฉพาะกับเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัวต่างๆ
ด้วยเหตุนี้ นายแพทย์ธเนศ จึงเกิดจากความตั้งใจคิดค้นสมุนไพรสกัด 100 % ให้อยู่ในรูปแบบแคปซูล เพื่อง่ายต่อการรับประทาน ออกจำหน่ายภายใต้แบรนด์ “KodiPur” (โคดิเพอร์) สมุนไพรสกัดประกอบด้วย ว่านหางจระเข้ ช่วยบรรเทาอาการไข้ ขิง ช่วยขับเสมหะ ป้องกันหวัดลงกระเพาะ ชะเอม แก้ไอ ละลายเสมหะ เห็ดหลินจือ เสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ใบหม่อน ฆ่าเชื้อโรค แก้อักเสบ และเจียวกู่หลาน ช่วยลดน้ำมูก ซึ่งสมุนไพรทั้ง 6 ชนิดนี้ มีคุณสมบัติช่วยบรรเทาอาการหวัดซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะมี 5 อาการ คือ เจ็บคอ มีน้ำมูก มีเสมหะ มีไข้และไอ
“การทานสมุนไพรให้ได้ผล ต้องผสมผสานในรูปแบบตำรับ เลือกใช้วัตถุดิบชั้นดี จึงจะได้สมุนไพรที่มีความเข้มข้นและมีคุณภาพ ออกฤทธิ์ในการรักษาได้ดี นอกจากนี้การใช้ยาแผนปัจจุบันต้องรับประทานมากถึง 18 เม็ดต่อวันเพื่อให้ครบทุกอาการ ขณะที่สมุนไพรสกัดใช้เพียงแค่ 9 เม็ดเท่านั้นโดยครอบคลุมทั้งเชื้อไวรัสและแบคทีเรียที่สำคัญปราศจากสารสเตียรอยด์และสามารถใช้ร่วมกับยาแผนปัจจุบันได้ทุกชนิด” นายแพทย์ธเนศกล่าว
ทางด้านนางภควดี อมรพิทักษ์กูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฮิร์บพลัส จำกัด เปิดเผยว่า สมุนไพรสกัด “KodiPur” ได้เริ่มจำหน่ายที่คลินิกก่อน จนเกิดการบอกต่อและกลับมาซื้อซ้ำ ทำให้มั่นใจได้ว่าในตลาดคนรักสุขภาพมีความต้องการแน่นอน ในปีนี้จึงเริ่มทำการตลาดอย่างจริงจัง ด้วยการทุ่มงบประมาณกว่า 10 ล้านบาท
“2 ปีที่ผ่านมาเราให้ความรู้เรื่องสมุนไพรมาโดยตลอด ผ่านโซเชียลมีเดีย พร้อมทั้งตัวคุณหมอธเนศเองก็เขียนหนังสือเพื่อให้ความรู้ด้านนี้ด้วย และให้ผู้อ่านค่อยๆซึมซับความรู้และข้อดีของสมุนไพร รวมถึงความน่าเชื่อถือของตัวคุณหมอจนมีผู้ใช้ เห็นผลจริงและกลับมาซื้อซ้ำ จึงทำให้มั่นใจในการทำตลาดอย่างจริงจัง ซึ่งตอนนี้ผลตอบรับของ สมุนไพรสกัด “KodiPur” ดีมาก หลังจากวางตลาดได้ไม่นาน ร้านจัดจำหน่ายหลายแห่งสินค้าถึงกับหมดภายในวันเดียว” นางภควดีกล่าว
ด้านกลยุทธ์ทางการตลาด นางภควดี กล่าวว่า เน้นการทำตลาดทั้ง Below the Line และ Above the Line โดยเน้นการโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์เป็นหลักเพราะเป็นสื่อที่คุ้มค่ากับเม็ดเงินที่ลงทุนไป สามารถวัดผลการตอบรับได้ แต่ก็ยังไม่ทิ้งการโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ควบคู่ไปด้วย นอกจากนี้ยังมีสื่อวิทยุ ที่เน้นประชาสัมพันธ์เข้าสู่กลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงบน ซึ่งเป็นผู้รักสุขภาพ และส่วนใหญ่เป็นวัยทำงานซึ่งตรงกับกลุ่มเป้าหมาย หลังจากนั้นปีหน้าจะขยายไปสู่สื่อบัสมีเดีย และการออกโรดโชว์ตามตึกออฟฟิตชั้นนำต่างๆ รวมถึงการออกงานแสดงสินค้าที่เกี่ยวข้อง
ส่วนช่องทางการจำหน่าย ขณะนี้สามารถหาซื้อสมุนไพรสกัด “KodiPur” ได้ที่ ร้าน Boots และร้าน U-Care นอกจากนี้ยังมีจำหน่ายตามร้านขายยาทั่วประเทศกว่า 100 แห่ง รวมถึงช่องทางคอลเซ็นเตอร์ (081-456-4451 หรือ 081-456-5628) ที่สำคัญคือขณะนี้กำลังทำระบบอีคอมเมิร์ซเพื่อรองรับการจำหน่ายอีกหนึ่งช่องทางด้วย คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในไตรมาสแรกของปีหน้า
“ด้วยคุณภาพของสินค้าที่ใช้งบในการวิจัยและพัฒนากว่า 2 ล้านบาท ประกอบกับผลิตจากโรงงานมาตรฐานสากล GMP พร้อมทั้งขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เรียบร้อยแล้ว ทำให้มั่นใจว่า “KodiPur” จะได้รับการตอบรับจากตลาดอย่างแน่นอน” นางภควดี กล่าวทิ้งท้าย