ชานุมไข่มุก CoCo ดีเดย์ 12 ธ.ค.นี้ ปล่อยแคมเปญ “Mystery Drinks”

พุธ ๑๗ ธันวาคม ๒๐๑๔ ๑๐:๓๒
CoCo Fresh Tea & Juice ดีเดย์ศุกร์ 12 ,19 และ 26 ธ.ค. ปล่อยแคมเปญเด็ดทิ้งทวนปี57 ทุ่ม 5 ล้านบาทเปิดแคมเปญ Mystery Drinks หลังสร้างกระแสเปิดตัวชานมไข่มุกรสชาติใหม่เข้าคิวซื้อยาวจนเป็นที่ฮือฮามาแล้วในไต้หวัน มั่นใจเพิ่มยอดขายโค้งสุดท้ายของปีไม่ต่ำกว่า 10-15% พร้อมเดินหน้าทุ่มอีก 3 ล้านบาทจัด 2 แคมเปญต่อเนื่องถึงเดือนเมษายนปีหน้า หวังกระตุ้นยอดขายรวมโตขึ้นอีก20%

นายกฤตพณ ทัพพะรังสี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (บริษัท ฟู้ด แอนด์ ดริ๊งค์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เจ้าของชานมไข่มุกระดับพรีเมี่ยมจากไต้หวันแบรนด์ CoCo Fresh Tea & Juice กล่าวว่า CoCo Fresh Tea & Juice ประเทศไทยได้ทุ่มงบประมาณ 5 ล้านบาท ในการทำแคมเปญเมนูปริศนา Mystery Drinks ตลอดทุกวันศุกร์ ในเดือนธันวาคมนี้ เพื่อปลุกให้ตลาดชานมไข่มุกในประเทศไทยคึกคักและมีสีสันในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ด้วยการเปิดตัว 3 เมนูใหม่สู่ท้องตลาด ซึ่งแคมเปญดังกล่าวได้ประสบความสำเร็จอย่างมากในไต้หวัน และประเทศไทยเป็นประเทศที่สองที่นำแคมเปญนี้มาทำการตลาด ซึ่งมั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จไม่แพ้ที่ไต้หวันอย่างแน่นอน

“3 เมนูรสชาติใหม่ที่เราจะนำเข้ามาในประเทศไทย จะยังคงเป็นปริศนากับเครื่องหมาย "?" ที่เราใช้ตกแต่งร้านชานมไข่มุก CoCo ทุกสาขา โดยจะทยอยเปิดตัวทีละรสชาติ และจะมอบสิทธิพิเศษให้ลูกค้า50 คนแรกที่มาเข้าแถวรอการเผยโฉมของเมนูใหม่ สัปดาห์ละ 1 เมนู ที่ร้านชานมไข่มุกCoCo ทั้ง 16 สาขา เฉพาะในวันศุกร์ที่กำหนด คือวันที่ 12,19 และ 26 ธันวาคมนี้ โดยจัดวันละ 2 รอบเท่านั้น คือเวลา 12:30 และ 17:30 น. (ยกเว้นสาขาเอเชียทีค เวลา 17:30 และ 20:30 น.) สำหรับลูกค้าที่มาต่อคิวไม่ทัน 50 คนแรก ก็จะได้รับสิทธิในการซื้อเมนูใหม่ ในราคาพิเศษที่ลดมากกว่า20% อีกด้วย”

สำหรับการจัดแคมเปญดังกล่าวขึ้นมา เนื่องจากกลุ่มลูกค้าของร้านชานมไข่มุก CoCo ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มตลาดระดับกลางถึงระดับบนและเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวซึ่งรู้จักแบรนด์ CoCo เป็นอย่างดี ดังนั้นในช่วงเวลาส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่จะเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมากประกอบกับ 16 สาขาของร้านชานมไข่มุก CoCo ส่วนใหญ่ตั้งอยู่บริเวณสถานที่ที่นักท่องเที่ยวชอบมาอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นที่ สยามพารากอน สยามสแควร์วัน เอเชียทีค แพลทตินั่ม ยูเนี่ยนมอลล์ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โลตัสอ่อนนุช โลตัสรามอินทรา ฯลฯ ก็จะทำให้แคมเปญนี้เกิดความคึกคักและเป็นที่สนใจ อีกประการหนึ่งคือ ปกติCoCoจะมีแคมเปญกระตุ้นการตลาดทุกปี แต่ปีที่แล้วเนื่องจากปัญหาทางการเมืองทำให้ไม่มีแคมเปญออกมาสู่ตลาด ดังนั้นจึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะกลับมาสร้างตลาดให้คึกคักอีกครั้งหนึ่ง

นายกฤตพณ กล่าวว่า ตนเองมั่นใจว่าแคมเปญนี้จะช่วยสร้างยอดขายเพิ่มขึ้น 15-20% เนื่องจากเป็นแคมเปญที่ประสบความสำเร็จมาแล้วอย่างมากที่ไต้หวัน ซึ่งที่ไต้หวันมีการถ่ายรูปและแชร์ในแฟนเพจของ CoCo ไต้หวันจนมียอดแฟนเพจเพิ่มขึ้นกว่า60% โดยตนเองมั่นใจว่าในประเทศไทยต้องประสบความสำเร็จมากกว่าแน่นอนโดยเฉพาะยอดแฟนเพจใน www.facebook.com/cocothailand ต้องเติบโตมากกว่า 60% เพราะจำนวนคนไทยที่ชอบเล่นโซเชียลมีเดียก็อยู่ในระดับต้นๆของโลกอยู่แล้ว

นอกจากแคมเปญเมนูปริศนาดังกล่าวแล้ว บริษัทยังใช้งบประมาณอีก 3 ล้านบาท ในการกระตุ้นตลาดอย่างต่อเนื่องไปจนถึงเดือนเมษายน 2558 ด้วย อีก 2แคมเปญคือ แคมเปญชิงโชคลุ้นรางวัลใน CoCo Thailand แฟนเพจ อาทิเช่น iPhone 6 ,Mini iPad และรางวัลอื่นๆอีกมากมาย รวมมูลค่ากว่า 5 แสนบาท และแคมเปญ แจกคูปองแลกเครื่องดื่มฟรี ซึ่งหากรวมการทำตลาดของทั้ง 3 แคมเปญ คาดว่าจะทำให้ยอดขายบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างน้อย20%

สำหรับสถานการณ์การแข่งขันต้องยอมรับว่าตลาดในประเทศไทยมีชานมไข่มุกจำหน่ายจำนวนมากทั้งแบรนด์ไทยและแบรนด์จากต่างประเทศ แต่หากเทียบแบรนด์ต่างประเทศด้วยกันแล้วพบว่ามีแบรนด์หลักๆอยู่ประมาณ 5 แบรนด์ในตลาด ซึ่ง CoCo มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 สำหรับแบรนด์ต่างประเทศ อีกทั้ง CoCo ยังเป็นแบรนด์จากไต้หวันซึ่งเป็นประเทศต้นตำรับเรื่องชานมไข่มุกเพียงแบรนด์เดียว ที่มีสาขาทั่วโลกมากกว่า1,900 สาขา โดยอยู่ในประเทศจีนกว่า1,500 สาขา และไต้หวัน กว่า 300 สาขา จึงทำให้หลังจากที่ทำตลาดในประเทศไทยมาเพียง 2 ปีกว่า แบรนด์CoCo มีส่วนแบ่งตลาดในระดับกลางถึงระดับบน ถึง 30% และนับเป็นอันดับ3 ในตลาดรวมอย่างรวดเร็ว

ด้วยจุดเด่นคือเป็นชานมไข่มุกจากไต้หวัน 100% ทั้งวัตถุดิบ กระบวนการผลิต อุปกรณ์ที่ใช้ในร้าน การบริการที่ดี ความสะอาด ตลอดจนการคิดค้นเมนูใหม่ๆทุก 3 เดือน และที่สำคัญคือรสชาติที่เหมือนกันกับร้านชานมไข่มุก CoCo ต้นตำหรับที่ไต้หวัน ทำให้ลูกค้าที่รู้จักและชื่นชอบชานมไข่มุก CoCo จากไต้หวันอยู่แล้ว รวมถึงลูกค้าใหม่ที่ชื่นชอบชานมไข่มุก เข้ามาเป็นลูกค้าของร้านชานมไข่มุก CoCo ได้ไม่ยาก จนทำให้ปัจจุบัน CoCoมียอดขายรวมในประเทศไทยปีละประมาณ 40 ล้านบาท ซึ่งในปีหน้าบริษัทมีแผนที่จะเดินหน้าขยายสาขาอย่างต่อเนื่องอีกอย่างน้อย 4-5 สาขา โดยยังคงเน้นขยายสาขาในกรุงเทพฯก่อน ที่จะขยายไปต่างจังหวัด

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version