การซื้อกิจการในครั้งนี้เป็นการเปิดโอกาสให้ เวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ก้าวสู่ธุรกิจร้านอาหารด้วยเป้าหมายในการยกระดับโครงสร้างธุรกิจและการให้บริการของเจฟเฟอร์ อาทิ ระบบครัวกลาง ระบบการจัดส่งสินค้าที่มีเครือข่ายอยู่ทั่วประเทศ รวมถึงระบบการจัดการที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถนำไปต่อยอดในการขยายธุรกิจต่อไปในอนาคต
การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ดำเนินการภายใต้ บริษัท เวฟ ฟู้ด กรุ๊ป จ้ากัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในเครือของ เวฟ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ และจะเป็นผู้เข้าถือหุ้นทั้งหมด 100% ในเจฟเฟอร์ สเต็ก ทั้งนี้ เจฟเฟอร์ สเต็กก่อตั้งขึ้นในปี 2553 โดยได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคกลุ่มวัยรุ่น โดยให้บริการอาหารประเภทสเต็กและอาหารสไตล์ตะวันตกที่มีคุณภาพในราคาประหยัด ด้วยกลยุทธ์และรูปแบบธุรกิจดังกล่าวทำให้เจฟเฟอร์ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว เห็นได้จากการขยายสาขาที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การพัฒนาของสังคมเมืองตามหัวเมืองต่างๆ ทั่วประเทศทำให้ผู้บริโภคนิยมรับประทานอาหารนอกบ้านมากขึ้นส่งผลในเชิงบวกต่อศักยภาพการเติบโตของเจฟเฟอร์ได้เป็นอย่างดี
นาย แมทธิว กิจโอธาน ประธานกรรมการบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ กล่าวว่า “การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ถือว่าเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เหมาะสม โดยเวฟจะเป็นเจ้าของแบรนด์ร้านอาหารเจฟเฟอร์ ซึ่งมีศักยภาพในการขยายกิจการผ่านการเพิ่มจำนวนสาขา ทั้งภายในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน” เวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ มีความตั้งใจที่จะเพิ่มจำนวนสาขาร้านอาหารเจฟเฟอร์ สเต็กอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ที่ผ่านมา เจฟเฟอร์ สเต็กเพิ่งเปิดให้บริการสาขาใหม่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต นอกจากนี้ เจฟเฟอร์ สเต็กจะเปิดให้บริการสาขาใหม่อีกหนึ่งสาขาในเดือนนี้และมีแผนเปิดสาขาใหม่เพิ่มอย่างน้อยหนึ่งสาขาในเดือนมกราคมปีหน้า การซื้อกิจการครั้งนี้เป็นการซื้อกิจการครั้งที่สองของ เวฟ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ภายในระยะเวลาหนึ่งปี ตอกย้ำการก้าวเข้าสู่การเป็นบริษัท Lifestyle & Entertainment อย่างเต็มตัวผ่านเครือข่ายธุรกิจร้านอาหาร การศึกษา รวมถึงธุรกิจบันเทิง ก่อนหน้านี้ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เวฟ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ได้ซื้อกิจการโรงเรียนสอนภาษา Wall Street English (WSE) ส่งผลทำให้รายได้ของบริษัทมีการเติบโตอย่างชัดเจน โดยปัจจุบัน WSE สามารถทำรายได้รวมกว่า 800 ล้านบาท จาก 9 สาขา โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของ WSE และเจฟเฟอร์ยังมุ่งเน้นที่กลุ่มคนรุ่นใหม่อายุระหว่าง 18-35 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักที่จะผลักดันเวฟสู่การเป็นผู้นำทางด้าน Lifestyle & Entertainment อย่างแท้จริง “สองธุรกิจใหม่นี้ เป็นส่วนเพิ่มเติมจากธุรกิจบันเทิงซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัท อาทิ การผลิตรายการโทรทัศน์ และผู้จัดคอนเสิร์ต ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงมองหาช่องทางโอกาสธุรกิจอื่นๆ เพื่อมาเติมเต็มเป้าหมายของทาง เวฟ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ในการเป็นบริษัท Lifestyle & Entertainment อย่างเต็มตัวในอนาคต” นายแมทธิว กล่าวสรุป
นอกจากนี้ เวฟ เอ็นเตอร์เม้นท์ ถือหุ้นร้อยละ 20 ในบริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเพิ่งเข้าจดทะเบียนใน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ด้วยมูลค่าตลาดปัจจุบันกว่า 15,000 ล้านบาท สำหรับการซื้อกิจการครั้งนี้ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาทางการเงินและเป็นผู้ให้สินเชื่อ เพื่อการเข้าซื้อกิจการ โดยมี Hunton & Williams เป็นที่ปรึกษาทางกฏหมาย