พิธีลงนามซึ่งจัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ของเหมราชฯ จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านการลงทุนระหว่างประเทศไทยและญี่ปุ่นให้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ผ่านการแลกเปลี่ยนข้อมูล การร่วมกันสนับสนุนการจัดงานสัมมนา การประชุมหรือความร่วมมือระหว่างภาคอุตสาหกรรมและกลุ่มองค์กรธุรกิจ รวมทั้งการส่งเสริมและสร้างโอกาสทางการค้าและการลงทุนของทั้งสองฝ่าย
มร. เดวิด นาร์โดน กล่าวว่า “การลงนามบันทึกความเข้าใจในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างบริษัทไทยและญี่ปุ่นให้มากขึ้น ด้วยตำแหน่งที่ตั้งของประเทศไทยและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่มีให้กับนักลงทุนทำให้ประเทศไทยกลายเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของบริษัทญี่ปุ่นที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและเครื่องจักรที่ทันสมัยเป็นอย่างมาก ข้อตกลงที่ลงนามกันในวันนี้จะกระตุ้นให้ผู้ประกอบการญี่ปุ่นมองไทยเป็นประตูสู่อาเซียน และขยายธุรกิจต่อไปสู่ระดับโลก เราจะใช้ความร่วมมือในครั้งนี้ช่วยกันส่งเสริมการลงทุนและสร้างพันธมิตรทางธุรกิจให้เพิ่มมากขึ้นในนิคมอุตสาหกรรมของเหมราชฯ ทั้ง 8 แห่ง ซึ่งปัจจุบันมีผู้ประกอบการชาวญี่ปุ่นในนิคมฯ ของเหมราชฯ กว่า 242 ราย”
“ความร่วมมือกับบริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) ถือเป็นอีกหนึ่งความพยายามของเราที่จะช่วยสนับสนุนการเติบโตและการขยายตัวของนักลงทุนชาวญี่ปุ่นในประเทศไทย” มร. โอซามุ เอ็นโดะ กล่าว
“เราเชื่อมั่นว่า ธนาคารมิซูโฮมีความพร้อมที่จะให้บริการด้านการเงินแก่บริษัทญี่ปุ่นที่เข้ามาลงทุนในไทยและตลาดในภูมิภาค รวมไปถึงบริษัทที่กำลังเตรียมขยายธุรกิจในภูมิภาคนี้ด้วย เรารู้สึกตื่นเต้นมากที่กำลังจะเปิดสำนักงานแห่งใหม่ที่อาคารพลาซ่า 2 ในนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด จังหวัดระยอง โดยจะเริ่มเปิดให้บริการในเดือนมีนาคม ปี 2558 นี้ และตั้งใจที่จะให้การสนับสนุนและส่งเสริมธุรกิจของผู้ประกอบการชาวญี่ปุ่น เพื่อผลักดันให้ภูมิภาคนี้เป็นศูนย์กลางการผลิตชั้นนำ จากศูนย์รวมซัพพลายเชนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ต่อไป”
ทั้งนี้ เหมราชฯ ให้การสนับสนุนการลงทุนของผู้ประกอบการชาวญี่ปุ่นในเขตอีสเทิร์นซีบอร์ดมาโดยตลอด และมีนิคมอุตสาหกรรมและเขตประกอบการอุตสาหกรรมมาตรฐานระดับโลกรวม 8+ แห่ง ที่เพียบพร้อมด้วยระบบโครงสร้างพื้นฐานคุณภาพเยี่ยม และระบบสาธารณูปโภคครบวงจร อาทิ น้ำประปา ระบบบำบัดน้ำเสีย การจัดการขยะ และระบบผลิตไฟฟ้า เป็นต้น