กรุงเทพฯ--22 มิ.ย.--ธ.กรุงศรีอยุธยา
ประเดิมด้วยลูกค้ากลุ่มใหญ่มากกว่า 55,000 คน ของ 6 สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจและ 3 สหกรณ์ออมทรัพย์
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดให้บริการสินเชื่อสวัสดิการเงินกู้ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค สินเชื่อเพื่อซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อื่นๆ มากมาย ประเดิมด้วยลูกค้ากลุ่มใหญ่มากกว่า 55,000 คน ของ 6 สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ และ 3 สหกรณ์ออมทรัพย์ เผยสานต่อจากสินเชื่อสวัสดิการเพื่อซื้อรถยนต์ที่ประสบความสำเร็จเปิดให้บริการเพียง 3 ปี มีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนขอให้บริการมากกว่า 70 สถาบัน และวงเงินสินเชื่ออนุมัติรวมแล้วถึงกว่า 700 ล้านบาท ตั้งเป้าปี 2548 สามารถปล่อยกู้เฉพาะในส่วนสินเชื่อสวัสดิการได้ไม่น้อยกว่า 600 ล้านบาท
นางชาลอต โทณวณิก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากที่ธนาคารได้เปิดให้บริการสินเชื่อสวัสดิการเพื่อซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์แก่บริษัทและหน่วยงานต่างๆ แก่ภาครัฐและเอกชน ซึ่งจนถึงปัจจุบันได้มีบริษัทและหน่วยงานต่างๆ ใช้บริการแล้วมากกว่า 70 สถาบัน และมีวงเงินกู้เป็นที่น่าพึงพอใจ โดยได้ปล่อยกู้ไปแล้วประมาณ 300 ล้านบาท จึงเห็นได้ว่าสินเชื่อสวัสดิการเป็นสินเชื่อที่ตรงความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย และมีปัญหาด้าน NPL ต่ำ เนื่องจากเป็นการทำสัญญาโดยตรงกับบริษัท หรือหน่วยงานต้นสังกัดของผู้กู้ โดยการผ่อนชำระในแต่ละเดือนต้นสังกัดจะนำส่งให้ธนาคารโดยตรง ดังนั้นเพื่อเป็นการสานต่อด้าน สินเชื่อสวัสดิการให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทุกความต้องการจึงได้ขยายบริการสินเชื่อสวัสดิการให้ครอบคลุมถึงสินค้าอุปโภคบริโภค โดยได้เปิดเป็นบริการ สินเชื่อสวัสดิการเงินกู้ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค โดยจะเป็นการให้กู้เพื่อซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ อีกมากมายจากผู้แทนจำหน่ายโดยตรง ซึ่งจะเป็นการเสนอขายในราคาพิเศษ จึงนับเป็นเสมือนสวัสดิการอีกรูปแบบหนึ่งที่เอื้ออำนวยให้สมาชิกของหน่วยงานที่ลงนามข้อตกลงใช้บริการสามารถสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สำหรับเงื่อนไขการขอกู้นั้นเพียงผู้กู้เป็นข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างประจำของหน่วยงานองค์กรที่ทำข้อตกลงกับธนาคารก็สามารถกู้ได้ 100% ของราคาซื้อขาย พร้อมด้วยค่าเบี้ยประกันอุบัติเหตุ (ถ้ามี) ค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ รวมแล้วสูงสุดไม่เกิน 150,000 บาท ระยะเวลาผ่อนชำระได้นานถึง 3 ปี ในอัตราผ่อนชำระต่อเดือนที่ต่ำโดยคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกในอัตราดอกเบี้ย MRR + 5% แต่ทั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 12% ต่อปี (ปัจจุบัน MRR = 6.25% ต่อปี)
สำหรับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่ร่วมลงนามใช้บริการสินเชื่อสวัสดิการเงินกู้ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคในช่วงแรกนี้ประกอบด้วย สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการประปานครหลวง สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจวิทยุการบินแห่งประเทศไทย สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การเภสัชกรรม สหกรณ์ออมทรัพย์ บริษัท ทศท คอร์ปอเรชั่น จำกัด สหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานฟูจิตสึเจเนอรัล จำกัด สหกรณ์ออมทรัพย์เนชั่นมัลติมีเดีย กรุ๊ป โดยทั้ง 9 หน่วยงานนี้มีสมาชิกรวมแล้วมากกว่า 55,000 คน จึงนับได้ว่าเป็นการขยายฐานการตลาดให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพสูงกลุ่มหนึ่ง
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา มั่นใจว่า สินเชื่อสวัสดิการเงินกู้ซื้อเครื่องอุปโภคบริโภค จะได้รับความสนใจจากพนักงานของบริษัท และหน่ยงานต่างๆ เช่นเดียวกับสินเชื่อสวัสดิการเพื่อซื้อรถยนต์ ซึ่งนอกจากจะเกิดประโยชน์ต่อผู้กู้และสังคม โดยรวมของประเทศแล้วยังเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ธนาคารฯ สามารถขยายฐานลูกค้าไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ โดยธนาคารฯ ตั้งเป้าที่จะปล่อยกู้สินเชื่อรายย่อยในปี 2548 ประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าในจำนวนนี้จะเป็น สินเชื่อสวัสดิการเงินกู้ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคไม่น้อยกว่า 600 ล้านบาท นางชาลอตกล่าวในที่สุด
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ฝ่ายประชาสัมพันธ์
โทรศัพท์ +66(0) 2296 2443-7
โทรสาร +66(0) 2683 1271--จบ--