คุณศิริพร วุฒิเลาหพันธ์ ประธานมูลนิธิสยามโซลเวย์ กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลาเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิสยามโซลเวย์ได้มุ่งมั่นสนับสนุนกิจการเพื่อสังคมผ่านโครงการต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับโครงการที่เกี่ยวกับการให้ความรู้เกี่ยวกับวินัยจราจรในกลุ่มเยาวชน เนื่องจากสถิติที่พบแสดงให้เห็นว่าในปี 2556 ที่ผ่านมา อัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนทั่วโลกมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 18 คน ต่อประชากร 100,000 คนต่อปี แต่สำหรับประเทศไทยมีสถิติมากกว่าค่าเฉลี่ยเกิน 2 เท่า คือ 44 คนต่อประชากร 100,000 คนต่อปี ซึ่งสูงเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากประเทศนามิเบีย* และหากจำแนกตามประเภทของยานพาหนะ จะเห็นได้ว่าอุบัติเหตุจากรถจักรยานยนต์มีอัตราการเกิดสูงกว่า 1 ใน 3 ของจำนวนอุบัติเหตุทั้งหมด และเกือบร้อยละ 40 ของเหยื่ออุบัติเหตุทั้งหมดจะเป็นเยาวชนในช่วงอายุ 0-12 ปี**”
“ด้วยเหตุนี้มูลนิธิสยามโซลเวย์ จึงได้เดินหน้าสานต่อเจตนารมณ์เป็นปีที่ 2 ติดต่อกันภายใต้ชื่อโครงการ “เฮลเมทส์ ฟอร์ คิดส์” (Helmets for Kids) โครงการเพื่อสังคมที่ร่วมรณรงค์ปลูกจิตสำนึก และสร้างความตระหนักถึงความสำคัญในชีวิตและทรัพย์สินของผู้คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเยาวชนที่ใช้รถใช้ถนน ซึ่งจะเป็นขุมพลังสำคัญที่จะช่วยพัฒนาชุมชนของตนเองให้ยั่งยืนต่อไปในอนาคต เพื่อยังผลไปสู่การลดปริมาณความสูญเสียที่เกิดขึ้นในการขับขี่ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา โดยได้ลงพื้นที่แรก ณ โรงเรียนบ้านเขาห้วยมะหาด อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง ซึ่งความพิเศษของกิจกรรมในปีนี้อยู่ที่การบรรยายกฎจราจร การสอนเทคนิคการสร้างความปลอดภัยในการขับขี่ ตลอดจนการใช้อุปกรณ์นิรภัยอย่างถูกต้องจากตำรวจภูธรบ้านฉาง ในรูปแบบกิจกรรมสันทนาการ ที่จะช่วยให้เยาวชนสามารถเพลิดเพลินไปกับบทเรียนวินัยจราจร ที่ได้ทั้งสาระและความบันเทิง จนรู้เกิดความรู้สึกว่าเป็นใกล้ตัวที่สามารถปฏิบัติง่ายๆ อันจะช่วยป้องกันความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุจราจรได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกันนี้มูลนิธิยังได้ส่งมอบหมวกนิรภัยจำนวนกว่า 250 ใบ ให้กับนักเรียนและผู้ปกครองที่เข้าร่วมโครงการฯ ในวันนี้อีกด้วย”
ในปีที่ผ่านมา มูลนิธิสยามโซลเวย์ได้ริเริ่มโครงการรณรงค์ปลูกจิตสำนึกเกี่ยวกับวินัยจราจรให้กับเยาวชนในชุมชนจังหวัดระยอง ภายใต้ชื่อโครงการ “เดินทางปลอดภัยสวมหมวกนิรภัยมาโรงเรียน” ในความร่วมมือกับมูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย (เอไอพี) ซึ่งลงพื้นที่ครั้งแรก ณ โรงเรียนวัดประชุมมิตรบำรุง อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง โดยหลังจากจากการดำเนินโครงการดังกล่าวจะเห็นได้ว่าเยาวชนมีความตระหนักถึงความสำคัญของการสวมหมวกนิรภัยมากขึ้น ตลอดจนการบอกต่อไปสู่ผู้ปกครองและญาติพี่น้อง ซึ่งนับว่าเป็นการช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุในชุมชนได้อีกทางหนึ่งด้วย
คุณประเทือง สังข์แก้ว ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเขาห้วยมะหาด กล่าวว่า “โรงเรียนบ้านเขาห้วยมะหาดเป็นโรงเรียนระดับประถมศึกษา โดยเปิดทำการสอนระดับอนุบาล – ประถมศึกษาปีที่ 6 โดยปกติแล้วนักเรียนส่วนใหญ่ของโรงเรียนจะโดยสารรถจักรยานยนต์มาโรงเรียน และระหว่างทางมาโรงเรียนจะพบว่าเส้นทางสัญจรบางจุดมีคดเคี้ยวและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ด้วยเหตุนี้ทางโรงเรียนจึงเห็นความจำเป็นอย่างเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการเพื่อช่วยป้องกันอุบัติเหตุต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับนักเรียนในโรงเรียนของเรา ในนามของคณาจารย์และนักเรียนโรงเรียนบ้านเขาห้วยมะหาดรู้สึกขอบคุณมูลนิธิสยามโซลเวย์ที่ได้เล็งเห็นความสำคัญ และได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในครั้งนี้ และผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่านักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมในวันนี้จะได้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวินัยจราจรที่ดียิ่งขึ้น และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ตลอดจนการเป็นกระบอกเสียง เพื่อสร้างแนวร่วมป้องกันอุบัติเหตุให้กับชุมชนของตนเองต่อไป”
ร.ต.อ ณัฐพล น้อมพิทักษ์ประชา ผู้เชี่ยวชาญบรรยายกฎจราจรจากตำรวจภูธรบ้านฉาง กล่าวว่า “เป็นที่ทราบกันดีว่าอุบัติเหตุนั้นเกิดขึ้นโดยที่ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ แต่สิ่งที่สามารถทำได้คือ การที่ผู้ใช้รถใช้ถนนระมัดระวังและรู้จักที่จะป้องกันความเสี่ยงต่างๆ เพื่อยับยั้งความสูญเสียต่างๆ จากอุบัติเหตุได้ โดยก่อนออกเดินทางทุกครั้ง น้องๆ อาจะเตือนคุณพ่อคุณแม่ให้ตรวจสอบสภาพรถให้อยู่ในสภาพที่พร้อมสำหรับการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็น ตรวจเช็คลมยาง น้ำมันเครื่อง เป็นต้น และในระหว่างการขับขี่ไม่ว่าระยะทางจะใกล้หรือไกล ผู้ขับขี่และผู้โดยสารจะต้องสวมหมวกนิรภัยที่มีขนาดพอดี ไม่แน่นหรือหลวมจนเกินไป และรัดสายใต้คางให้แน่นที่สุดที่ทำได้โดยไม่รู้สึกเจ็บ เปิดไฟหน้าแบบต่ำๆ ใช้ความเร็วที่พอเหมาะ ซึ่งไม่ควรเกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อเจอทางแยกหรือทางร่วมทางแยกที่ไม่มีไฟแดง หรือแม้แต่ขี่ข้ามถนนหรือกลับรถ โปรดดูให้แน่ใจว่าปลอดภัย และไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารจะทำความเข้าใจเกี่ยวกับความหมายของสัญญาณจราจรต่างๆ และปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ สภาพร่างกายและจิตใจของผู้ขับขี่จะต้องมีความพร้อมสมบูรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหากมีการดื่มเครื่องดื่มมึนเมาด้วยแล้ว จะต้องไม่ขับขี่โดยเด็ดขาด เพราะนอกจากจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้กับการเกิดอุบัติเหตุแล้ว ยังผิดกฎหมายอีกด้วย ซึ่งน้องๆ ทุกคนสามารถมีส่วนช่วยได้ด้วยการสอดส่องและตักเตือนบุคคลใกล้ชิด ตลอดจนนำความรู้ที่ได้ในวันนี้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของตนเอง และยังเป็นการร่วมด้วยช่วยกันลดความสูญเสียอันเกิดจากอุบัติเหตุในชุมชนอีกด้วย”
ตัวแทนนักเรียนโรงเรียนบ้านเขาห้วยมะหาด กล่าวว่า “กิจกรรมในวันนี้สนุกมากครับ ผมได้ทำร่วมฐานกิจกรรมต่างๆ กับเพื่อนๆ แถมยังได้ความรู้มากมายเกี่ยวกับกฎจราจรและเครื่องหมายจราจรต่างๆ อย่างถูกต้อง ตลอดจนความสำคัญของการสวมหมวกนิรภัยจากพี่ๆ ตำรวจจราจร ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องใกล้ตัวที่ทุกคนไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ควรจะให้ความสำคัญ เพราะเราไม่สามารถล่วงรู้ได้ว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นกับใครที่ไหน เมื่อใด แทนที่เราจะนั่งมองความสูญเสียเหล่านั้นให้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เราควรจะมาใส่ใจความปลอดภัยบนท้องถนนในชุมชนของเราโดยเริ่มจากตัวเอง และผมจะนำความรู้ที่ได้ในวันนี้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน พร้อมกับนำไปบอกต่อให้กับคุณพ่อ คุณแม่ และครอบครัว เพื่อป้องกันความสูญเสียที่จะเกิดขึ้น ซึ่งทำให้ทุกๆ วันเราสามารถชีชีวิตได้อย่างมีความสุขครับ”
ภายในงานได้รับเกียรติจาก คุณอินทรีย์ เกิดมณี นายอำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง ให้เกียรติเป็นประธานเปิดโครงการฯ พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติอีกคับคั่ง โดยมูลนิธิฯ ยังได้จัดพิธีมอบรางวัลให้กับเยาวชนที่ชนะเลิศจากกิจกรรมประกวดวาดภาพในหัวข้อ “ถนนของพ่อและของฉัน” กิจกรรมที่เปิดโอกาสให้น้องๆ ร่วมถ่ายทอดจินตนาการการขับขี่ที่ปลอดภัยในชุมชนที่ตนใฝ่ฝันผ่านผลงานศิลปะ และนอกจากกิจกรรมในวันนี้แล้ว มูลนิธิสยามโซลเวย์ ยังวางแผนที่จะเดินสายดำเนินโครงการ “เฮลเมทส์ ฟอร์ คิดส์” ในโรงเรียนและเขตชุมชนต่างๆ ในท้องถิ่นจังหวัดระยองอีกอย่างต่อเนื่อง
*สถิติของสถาบันวิจัยด้านการคมนาคม มหาวิทยาลัยมิชิแกน สหรัฐอเมริกา ร่วมกับข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก
**สถิติจากศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุเพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน