การเข้าซื้อกิจการของบัมเบิลบี ซีฟู้ดส์ จะส่งผลให้กลุ่มบริษัทไทยยูเนี่ยน เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการบริหารจัดการวัตถุดิบและการผลิต รวมไปถึงการสร้างความก้าวหน้าในนวัตกรรมและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดทวีปอเมริกาเหนือ
นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของทียูเอฟ กล่าวให้ความเห็นว่า “ข้อตกลงการซื้อกิจการครั้งนี้ ถือเป็นการซื้อกิจการครั้งที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท และเป็นหนึ่งในเรื่องที่น่าตื่นเต้นที่สุดสำหรับการสร้างการเติบโตทางธุรกิจด้วยการเข้าซื้อกิจการ ซึ่งเมื่อการดำเนินการทั้งหมดเสร็จสิ้นจะเพิ่มการทำกำไรให้ทียูเอฟทันที รวมทั้งเพิ่มรายได้และกระแสเงินสดของกลุ่มบริษัทที่ 25 เปอร์เซนต์ โดยประมาณ
บัมเบิลบี ซีฟู้ดส์ เป็นผู้นำด้านอาหารทะเลสำเร็จรูปในทวีปอเมริกาเหนือ เมื่อรวมธุรกิจกับกลุ่มบริษัทไทยยูเนี่ยนแล้ว จะลดต้นทุนการดำเนินงาน ปรับปรุงประสิทธิภาพ และการสร้างความเป็นผู้นำระดับโลกในด้านอาหารทะเลสำเร็จรูป ความมุ่งมั่นของเราคือการกำหนดอนาคตของนวัตกรรมผลิตภัณฑ์อาหารทะเลสำหรับคนอีกหลายรุ่นต่อไป”
“กลุ่มบริษัทไทยยูเนี่ยน เข้ามาดำเนินธุรกิจในสหรัฐอเมริกามากว่า 17 ปี โดยการเข้าซื้อกิจการนี้เป็นสัญญาณของความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของบริษัท ที่มีต่อตลาดอาหารทะเลขนาดใหญ่อันดับสองของโลก เราเป็นนักลงทุนเชิงกลยุทธ์ที่มีวิสัยทัศน์ยาวไกลต่อตลาด ซึ่งเราเชื่อว่าการรวมกันนี้ทำให้เราสามารถเสริมศักยภาพของกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารทะเลบรรจุกระป๋องในตลาดอเมริกาเหนือได้เป็นอย่างดี” นายชาน ชู วิง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชิคเก้นออฟเดอะซี อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าว
บัมเบิลบี ซีฟู้ดส์ มีสำนักงานใหญ่ที่ซานดิเอโก และมียอดขายโดยประมาณมากกว่าหนึ่งพันล้านเหรียญสหรัฐ กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีเงินได้และค่าเสื่อมที่ 145 ล้านเหรียญสหรัฐโดยประมาณในปี 2557 บัมเบิลบี มีพนักงานจำนวนกว่า 1,300 คน ที่ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารทะเลบรรจุกระป๋องและบรรจุถุง ครอบคลุมตลาดในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา
มร. ลินดอน ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไลออน แคปิตอล กล่าวเสริมว่า “การเข้าซื้อกิจการบัมเบิลบี โดยกลุ่มไทยยูเนี่ยนครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงอีกก้าวที่น่าตื่นเต้นของการพัฒนาทางธุรกิจ เรามีความภูมิใจที่มีบทบาทสำคัญต่อวิวัฒนาการของบัมเบิลบีตลอดสี่ปีที่ผ่านมา และขอขอบคุณพันธมิตรทางธุรกิจของเรา มร. คริส ลิสชิวสกี้ และทีมผู้บริหาร ที่ช่วยให้เราบรรลุผลสำเร็จในผลตอบแทนการลงทุน เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ค้นพบบ้านใหม่สำหรับบัมเบิลบี ที่เป็นที่ยอมรับในศักยภาพอย่างทียูเอฟ ซึ่งมีคุณสมบัติอันโดดเด่นในการสร้างการเติบโตและต่อความก้าวหน้าให้กับธุรกิจบัมเบิลบีต่อไปในอนาคต”
มร. คริส ลิสชิวสกี้ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบัมเบิลบี ซีฟู้ดส์ กล่าวว่า “ผมเชื่อมั่นมาโดยตลอดว่า ไทยยูเนี่ยนและบัมเบิลบี ซีฟู้ดส์ แสดงให้เห็นถึงการรวมกันอย่างเป็นธรรมชาติด้วยพลังเสริมส่งซึ่งกันและกันของทั้งสององค์กร เราต่างยึดวิสัยทัศน์ที่มุ่งมั่นต่อการสร้างนวัตกรรม ความเป็นเลิศในการปฏิบัติการ การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และการสร้างคุณค่าต่อลูกค้าของเรา ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายเหตุผลของการรวมกันครั้งนี้ ถือเป็นเรื่องที่ดีต่อลูกค้า ผู้บริโภค และอุตสาหกรรมของเราในภาพรวม ที่สำคัญยิ่งกว่าคือ เราต่างมุ่งมั่นในการส่งเสริมบทบาทสำคัญในฐานะผู้นำด้านอาหารทะเลที่ดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ”
การดำเนินการซื้อกิจการดังกล่าวนี้ ยังคงอยู่ในระหว่างขั้นตอนการอนุมัติโดยกระทรวงการยุติธรรมของสหรัฐฯ รวมทั้งเงื่อนไขการปิดดีลที่กำหนดไว้ในข้อตกลงการซื้อกิจการ ขณะที่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าข้อตกลงการซื้อกิจการ 100 เปอร์เซนต์จะบรรลุเสร็จสิ้นเมื่อไหร่ แต่กลุ่มบริษัทไทยยูเนี่ยนและบัมเบิลบี คาดการณ์ว่าข้อตกลงทางธุรกิจนี้จะเสร็จสิ้นสมบูรณ์อย่างเป็นทางการภายในไตรมาสที่สองของปี 2558
ยูบีเอส (UBS) ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาการควบรวมกิจการให้ทียูเอฟ Morgan Stanley และ Rothschild ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาการเงินให้บัมเบิลบี* คำนวนที่ราคา 32 บาทต่อ 1 เหรียญสหรัฐฯ