ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บริษัท เค.ซี.เมททอลชีท จำกัด (มหาชน) (KCM) ซึ่งเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) ในวันนี้ (23 ธ.ค.) เป็นวันแรก ถือว่าได้รับการตอบรับจากนักลงทุนจากเป็นอย่างดีเยี่ยม โดยเปิดตลาดที่ระดับ 2.40 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้น 84.62% เมื่อเทียบกับราคาไอพีโอที่ 1.30 บาท/หุ้น โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขายราคาปรับตัวสูงสุดที่ 2.76 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้น 112.30% และปิดตลาดที่ 2.08 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้น 0.78 บาท หรือเพิ่มขึ้น 60% มูลค่าการซื้อขาย 1,940.40 ล้านบาท
นายนิพนธ์ เจริญกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค.ซี.เมททอลชีท จำกัด (มหาชน) (KCM) ผู้จำหน่ายแผ่นเหล็กสำหรับทำหลังคาและผนังภายใต้แบรนด์ “รถถัง” และ “คอมมานโด” เปิดเผยว่าขอขอบคุณนักลงทุนที่ให้การตอบรับหุ้น KCM ซึ่งถือเป็นหุ้นน้องใหม่เป็นอย่างดี และการที่ราคาปรับทะยานเหนือจอง สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อธุรกิจของบริษัทในอนาคต โดยแผนการเนินงานในช่วง 5 ปีข้างหน้า (2558-2562) ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตเฉลี่ยปีละ 15-20% จากการขยายธุรกิจ
“ผมมั่นใจว่ารายได้จะเติบโตตามเป้าหมาย เพราะเราเตรียมเงินที่ระดมทุนได้ไปขยายธุรกิจตามแผนโดยเตรียมเปิดสำนักงานขายขนาดเล็กเพิ่มอีก 92 แห่ง ในพื้นที่ภาคกลางตอนบน ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลงทุนในธุรกิจอาคารสำเร็จรูปให้เช่า และซื้อเครื่องจักร เพื่อขยายกำลังการผลิตแปเหล็กกล้ากำลังสูง ซึ่งจะทำให้รายได้และกำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง”นายนิพนธ์กล่าว
กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค.ซี.เมททอลชีท กล่าวอีกว่า บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อขยายธุรกิจไปยังประเทศเพื่อนบ้าน รองรับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558 โดยเบื้องต้นอยู่ระหว่างการเข้าไปร่วมกับพันธมิตรท้องถิ่นในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปชัดเจนในไตรมาส 1/2558 โดยจะเข้าไปเจาะตลาดโครงสร้างหลังคาเหล็ก ซึ่งการแข่งขันในตลาดต่างประเทศมีน้อย
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานที่ปรึกษาทางการเงินของ KCM กล่าวว่า กระแสตอบรับหุ้น KCM ถือว่าดีมาก มั่นใจว่าหลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai แล้วจะช่วยเสริมศักยภาพให้บริษัทมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยหลังจากระดมทุนได้ในครั้งนี้จะทำให้สัดส่วนหนี้สินต่อทุนลดลงต่ำกว่า 1 เท่า จากในช่วงก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 1-2 เท่า ขณะเดียวกัน KCM ยังเตรียมพร้อมขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็นลาว เมียนมาร์ และกัมพูชา ซึ่งถือว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพ โดยเข้าไปในลักษณะของการเป็นพันธมิตรร่วมทุน คาดว่าจะได้ข้อสรุปในไตรมาสแรกของปีหน้า ซึ่งจะทำให้รายได้และกำไรของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
นายนิมิต วงศ์จริยกุล กรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน กล่าวว่าหุ้น KCM เป็นหลักทรัพย์ที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง เหมาะสมกับนักลงทุนที่ลงทุนในระยะปานกลางและระยะยาว เนื่องจากแนวโน้มผลการดำเนินงานขยายตัวอย่างต่อเนื่อง มีการจ่ายเงินปันผลที่สม่ำเสมอ วันนี้จึงสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนและถือเป็นหุ้นน้ำดีที่น่าลงทุนเพื่ออนาคตอีกด้วย