ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 429 คู่สัญญา แบบ 10 บาทอยู่ที่ 1,973 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 0.45 % แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 1.02% GFZ14 ปิด 18,700 บาท และ GFG14 ปิด 18,790 บาท GF10Z14 ปิดที่ 18,700 บาท GF10G14 ปิดที่ 18,800 บาท
สัญญา Comex เพิ่มขึ้น 21.8 เซนต์ ปิดที่ระดับ 1,195.3 ดอลลาร์/ออนซ์ NYMEX ลดลง 1.11 ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ระดับ 54.73 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR ถือครองทองคำอยู่ที่ระดับ 712.3 ตัน (ขายออก 0.6 ตัน)
ข่าวที่สำคัญ
-นักวิเคราะห์จาก MKS Group ระบุว่า ทองคำปรับตัวสูงขึ้นกว่า 2.1% เพราะได้รับแรงสนับสนุนจากการเข้าซื้อชดเชยของกลุ่มนักลงทุนจากตลาดเอเชีย ยุโรป และสหรัฐฯที่กลับเข้ามาอีกครั้ง ขณะที่กระแสข่าวที่ว่ารัฐบาลจีนอาจเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดแรงแรง Short Covering ท่ามกลางตลาดที่ค่อนข้างเงียบเหงา จึงทำให้ราคาสามารถทดสอบจุดสูงสุดบริเวณ 1,199 เหรียญ/ออนซ์ ก่อนจะกลับมาปิดและทรงตัวบริเวณ 1,195 เหรียญ/ออนซ์ อย่างไรก็ดี บริเวณ 1,200 เหรียญจะเป็นจุดทดสอบสำคัญสำหรับทองคำในสัปดาห์สุดท้ายของปีว่าจะส่งผลให้ปีหน้าเป็นขาขึ้นหรือขาลง
-ค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.2176 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.2219 ยูโร/ดอลลาร์ ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) ปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับ 90.03 เพราะได้รับแรงสนับสนุนจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐฯ ขณะที่ตลาดมีการซื้อขายเบาบางหลังจากตลาดปิดทำการในวันคริสต์มาส
-ทางด้าน ค่าเงินเยนอ่อนค่าสู่ระดับ 120.39 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 120.15 เยน/ดอลลาร์ และเช้านี้ทรงตัวบริเวณ 120.56 เยน/ดอลลาร์ หลังจากดัชนีเงินเฟ้อ (CPI) พื้นฐานประจำเดือนพฤศจิกายนปรับตัวขึ้น 2.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน
-ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ ระบุว่า ดัชนี CPI พื้นฐานของญี่ปุ่น ขยายตัวเพียง 0.7% ซึ่งชะลอลงจากระดับ 0.9% ในเดือนตุลาคม และยังคงต่ำกว่าเป้าหมายของบีโอเจอย่างมาก จึงอาจส่งผลให้บีโอเจประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในปีหน้า และจะส่งผลให้ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงอีก
-คณะรัฐมนตรีของ นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้อนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับฉุกเฉินด้วยวงเงินกว่า 3.5 ล้านล้านเยน เพื่อสนับสนุนการจัดหาเงินอุดหนุนต้นทุนเชื่อเพลิง และเพื่อช่วยให้รัฐบาลท้องถิ่นสามารถดำเนินมาตรการที่จำเป็นต่อชุมชนต่างๆได้ หลังจากที่ราคาสินค้าและภาคบริการทั่วประเทศปรับตัวสูงขึ้น
-ในวันนี้จะมีการเปิดเผยผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบสุดท้ายของรัฐสภากรีซ ซึ่งหากว่าผลการเลือกตั้งออกมาล้มเหลว อาจส่งผลให้ค่าเงินยูโรอาจร่วงลงกว่า 1.21 เหรียญได้ เนื่องจากตลาดจะมีความวิตกกังวลเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากอาจส่งผลให้พรรคฝ่ายค้าน ซีรีซาร์ (Syriza) ได้รับชัยชนะและอาจทำให้แผนการระดมทุนช่วยเหลือทางการเงินระหว่างประเทศต้องหยุดชะงักไป เนื่องจากนโยบายของพรรคขัดแย้งต่อการฟื้นฟูโครงสร้างทางการเงินของประเทศ
-อย่างไรก็ดี หาก นายสตีฟรอส ดิมาส อดีตคณะกรรมาธิการยุโรป ได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีของกรีซ อาจส่งผลให้ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้นมา จากการคลายความกังวลในการเจรจาเกี่ยวกับเจ้าหนี้เงินกู้ต่างๆของประเทศ
-นักบริหารเงิน ประเมินว่า ค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.85-33 บาท/ดอลลาร์ โดยต้องจับตาผลการเลือกตั้งของประธานาธิบดีรอบสุดท้ายของรัฐสภากรีซในวันนี้ รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ เนื่องจากหากตัวเลขยังคงอยู่ในเชิงบวกจะสนับสนุนให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อ ขณะที่ปัญหาทางการเงินของรัสเซีย และทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลกยังคงเป็นปัจจัยที่ตลาดยังคงให้ความสนใจอยู่
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญเมื่อคืน
ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนนี้
ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในคืนวันศุกร์ ท่ามกลางตลาดที่เบาบาง ขณะที่ยังไม่มีประเด็นเด่นชัด โดยตลาดคาดว่าการขึ้นน่าจะมาจากข่าวจีนผ่อนคลายทางการเงิน อย่างไรก็ดี ค่าเงินดอลลาร์เองยังปรับแข็งค่าขึ้นอีก โดย Dollar Index กลับมาสูงขึ้นสู่ระดับ 90 ขณะที่ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงประมาณ 48 pips มาอยู่ที่ระดับ 1.2135 ยูโร/ดอลลาร์โดยประมาณ ด้านเงินบาทอ่อนค่าเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 32.94 บาท/ดอลลาร์ โดยที่ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจใดๆในคืนวันศุกร์ และคาดว่าจะเป็นการทำ Window Dressing ของราคาทองคำก็เป็นไปได้ สำหรับ SPDR ทำการเทขายทองคำในคืนวันศุกร์อีก 0.6 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ระดับ 712.3 ตัน
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ในเชิงเทคนิคราคาเปิดมี Gap ขึ้นมาในช่วงที่ราคาดีดตัวสูงขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,200 เหรียญ ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบางในตลาดทองคำ สำหรับวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนตัวในกรอบ 1,180-1,200 เหรียญ/ออนซ์ โดยในระยะสั้นเริ่มมีลักษณะ Divergence เป็น Bearish Divergence เกิดขึ้นที่กราฟในระยะสั้นแล้ว จึงคาดว่าราคาน่าจะเคลื่อนตัวไม่น่าจะทะลุระดับ 1,200 เหรียญ สำหรับระยะยาวยังคงถือว่าเป็นแนวโน้มขาลง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ลงทุนในแนวโน้มขาลง แต่ย้ำให้นักลงทุนไม่ทำการ Leverage มากจนเกินไปนัก เพื่อป้องกันภาวะที่อาจจะถูก Call Margin หากตลาดเกิดทำการ Window Dressing
*อย่างไรก็ดี Gold Futures Z14 จะหมดอายุลงในวันที่ 29 ธ.ค. 57 จึงแนะนำให้นักลงทุนหันไปถือครองสถานะของ Gold Futures G15 แทน
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
แนะนำให้ขายปิดทำกำไร
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
ยังคงแนะนำให้ถือครองอยู่มี Stop Loss ที่ระดับ 1,220 เหรียญ
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading
ระยะยาวยังเป็นแนวโน้มขาลง
Gold Futures Z14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,570 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,760 บาท
Gold Futures G15 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,860 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,860 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง
ประชาสัมพันธ์:
1. ประกาศวันหยุด เนื่องในเทศกาลปีใหม่ ทางบริษัทฯ จึงของดให้บริการซื้อ-ขาย Gold Futuresรวมถึงธุรกรรมการเงิน และการรับส่งทองทุกสาขา ดังนี้
- 31 ธ.ค. 57 – 2 ม.ค. 58 : วันหยุดของหน้าร้านทองสาขาวงเวียนใหญ่ และสาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ชั้น G
- 31 ธ.ค. 57 – 4 ม.ค. 58 : วันหยุดของหน้าร้านทองสาขาดิโอลด์สยามพลาซ่า ชั้น 1, Futures Office, HR2, MTS สาขาวงเวียนใหญ่, สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ชั้น 17 และสาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น 12
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามไฟล์รูปภาพแนบด้านล่าง หรือโทรศัพท์สอบถามได้ที่: 02-770-7777
MTS Research
MTS Gold Group
Phone: 02-770-7777
Fax: 02-623-9366
Email: [email protected]
Website: http://www.mtsgold.co.th