ในปี ๒๕๕๘ สำนักงานพื้นที่พิเศษเมืองโบราณอู่ทองได้รับอนุมัติงบประมาณจากคณะกรรมการบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (กพท.) ทั้งสิ้น ๓๓ ล้านบาท จำนวน ๔ โครงการ ได้แก่ ๑) ศึกษาและออกแบบรายละเอียดโครงสร้างพื้นฐานรองรับการท่องเที่ยวเมืองโบราณอู่ทอง ๕ ล้านบาท ๒) ส่งเสริมการตลาดและการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเมืองโบราณอู่ทอง ๓ ล้านบาท ๓) อนุรักษ์ ฟื้นฟูและพัฒนาโบราณสถานโบราณวัตถุเมืองโบราณอู่ทอง ๗ ล้านบาท และโครงการสุดท้ายคือ พัฒนาเมืองท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์เมืองโบราณอู่ทอง ๑๘ ล้านบาท
นางศิริกุล กล่าวถึงโครงการอนุรักษ์ ฟื้นฟูและพัฒนาโบราณสถานโบราณวัตถุเมืองโบราณอู่ทองว่าได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยศิลปากร เมื่อวันที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๕๗ เพื่อแสดงจุดยืนร่วมกันในการดำเนินงานขุดค้นทางโบราณคดีอย่างเป็นระบบที่เมืองอู่ทอง มีการจัดทำฐานข้อมูลเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และโบราณคดี พร้อมทั้งเก็บข้อมูลเกี่ยวกับประวัติชุมชนและการค้นพบหลักฐานทางโบราณคดีของราษฎรในพื้นที่ เผยแพร่ความรู้สู่ชุมชนผ่านการจัดนิทรรศการและจัดอบรมให้ความรู้ทางโบราณคดีแก่ครูอาจารย์หมวดสังคมศึกษาในพื้นที่ตำบลอู่ทอง พัฒนาสร้างบุคลากรในพื้นที่เป็นอาสาสมัครโบราณคดีเมืองอู่ทองในการช่วยกันอนุรักษ์ ฟื้นฟูและพัฒนาโบราณสถานโบราณวัตถุในเมืองโบราณอู่ทองให้คงอยู่สืบไป การดำเนินโครงการนี้มีระยะเวลา ๓ ปี สิ้นสุดโครงการเดือนกันยายน ๒๕๖๐ “ช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย.๒๕๕๘ นี้ ดร.สฤษดิ์พงศ์ ขุนทรง หัวหน้าภาควิชาโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากรจะพานักศึกษาโบราณคดี จำนวน ๑๒๐ คน ทำการขุดค้นทางโบราณคดีจำนวน ๘ หลุม ซึ่งต่อไปหลุมขุดค้นนี้จะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญในเมืองโบราณอู่ทองในการเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ และจุดประกายนักท่องเที่ยวจากทุกสารทิศให้หลั่งไหลมาเที่ยวเมืองโบราณอู่ทอง นอกจากนี้ อพท.ยังได้จับมือกับสำนักศิลปากรที่ ๒ สุพรรณบุรี ในการสนับสนุนให้พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอู่ทองดำเนินการจัดสร้างหลุมขุดค้นโครงกระดูกมนุษย์สมัยทวารวดีภายในบริเวณพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอู่ทอง คาดว่าหลุมขุดค้นที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอู่ทองจะเปิดให้เที่ยวชมได้ประมาณ มี.ค.๒๕๕๘” นางศิริกุล กล่าว