ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 920 คู่สัญญา แบบ 10 บาทอยู่ที่ 5,528 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 2.19 % แบบ 10 บาท ลดลง 1.23% GFG14 ปิด 19,010 บาท และ GFJ14 ปิด 19,100 บาท GF10G14 ปิดที่ 19,020 บาท GF10J14 ปิดที่ 19,070 บาท
สัญญา Comex เพิ่มขึ้น 15.4 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,219.40 ดอลลาร์/ออนซ์ NYMEX ลดลง 2.11 ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ระดับ 47.93 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR ขายออก 2.99 ตัน ถือครองทองคำอยู่ที่ระดับ 707.82 ตัน
ข่าวที่สำคัญ
-ทองคำปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการ และไปทำจุดสูงสุดบริเวณ 1,222.4 เหรียญ/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา เพราะได้รับแรงสนับสนุนจากการเข้าซื้อของนักลงทุนในฐานะ Safe-Heaven หลังจากตลาดหุ้นยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง และข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาน่าผิดหวัง รวมถึงวิกฤตการณ์ทางการเมืองของกรีซ
-เมื่อวานนี้ SPDR ลดการถือครองทองคำ 2.99 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 707.82 ตัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 22 กันยายน 2008
-นักวิเคราะห์อาวุโส จาก RJO Futures กล่าวว่า ทองคำสามารถปรับตัวขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยบริเวณ 100 วัน บริเวณ 1,216.16 เหรียญ จากแรงเข้าซื้อทางเทคนิค ขณะที่ความเสี่ยงจากสถานการณ์ในยูโรโซน และความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจจีนจะชะลอตัว ส่งผลสนับสนุนให้ทองคำน่าสนใจอีกครั้งในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง
-ค่าเงินยูโรยังคงอ่อนค่าสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 9 ปีเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ที่ระดับ 1.1877 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.1939 ยูโร/ดอลลาร์ และในเช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.1873 ยูโร/ดอลลาร์ ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) ดีดตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบกว่า 4 ปีบริเวณ 91.77 ก่อนจะทรงตัวในเช้านี้บริเวณ 91.72 เพราะได้รับแรงหนุนจากการเข้าซื้อของนักลงทุนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากที่ราคาน้ำมันยังคงปรับตัวลดลงหลุดระดับ 50 เหรียญ/บาร์เรล
-ทางด้านค่าเงินเยนยังคงแข็งค่าสู่ระดับ 118.63 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 119.52 เยน/ดอลลาร์ และในเช้าวันนี้เยนทรงตัวบริเวณ 118.79 เยน/ดอลลาร์
-การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯเมื่อคืนนี้ ค่อนข้างน่าผิดหวัง โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการ (ISM Non-Manufacturing PMI) ประจำเดือนธันวาคมปรับตัวลดลงสู่ระดับ 56.2 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับในรอบ 6 เดือน (นับตั้งแต่มิถุนายน 2014) ขณะที่คำสั่งซื้อใหม่สำหรับภาคการผลิตในเดือนธันวาคมอยู่ที่ระดับ -0.7% สะท้อนให้เห็นถึงการชะลอตัวของภาคการผลิต และภาพรวมการขยายตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ
-ราคาน้ำมันดิบ WTI ยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องโดย โดยปิด -2.11 เหรียญ ที่ระดับ 47.93 เหรียญ/บาร์เรล และไปทำจุดต่ำสุดบริเวณ 47.55 เหรียญ/บาร์เรล จากกระแสคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯจะยังคงปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่อิรักมีการวางแผนจะเพิ่มการส่งออกน้ำมันดิบ 3.3 ล้านบาร์เรลในเดือนมกราคมนี้
-เมื่อคืนนี้ ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิด -0.74% โดยปิดแดนลบติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาค่อนข้างน่าผิดหวัง
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญเมื่อคืน
- ISM Non-Manufacturing PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 59.3 ตัวเลขจริงอยู่ที่ระดับ
- Factory Orders m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -0.7% ตัวเลขจริงอยู่ที่ระดับ
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนนี้
- ADP Non-Farm Employment Change ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 208K ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ 227K
- Trade Balance ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -43.4B ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ -42.3B
- FOMC Meeting Minutes
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน โดยยืนเหนือบริเวณ 1,200 เหรียญ และสามารถขึ้นไปเหนือระดับ 1,210 เหรียญได้ โดยราคาทองคำทะลุแนวต้านสำคัญบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 100 วันที่ระดับ 1,216 เหรียญขึ้นไป โดยที่ตลาดไม่ค่อยให้ความสนใจกับการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์มากนัก โดยที่ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.1877 ดอลลาร์/ยูโร แม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเมื่อวานนี้จะออกมาไม่ดีนักแต่ค่าเงินดอลลาร์กลับแข็งค่าขึ้น เนื่องจากตลาดยังคงกังวลต่อราคาน้ำมันที่ยังลดลงต่อเนื่อง โดยราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลงหลุดระดับ 50 เหรียญ/บาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 47.93 เหรียญ/บาร์เรล จึงทำทำให้เมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับต้วลดลงกว่า 130 จุด ขณะที่ SPDR ลดการถือครองทองคำ 2.99 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 707.82 ตัน สำหรับวันนี้จะมีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ADP Non-Farm Payrolls ที่คาดว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น และ Trade Balance ที่คาดว่าจะมียอดขาดดุลลดลงเล็กน้อย
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ในเชิงเทคนิค ภาพระยะสั้นของราคาทองคำดูจะเป็นแนวโน้มขาขึ้น หลังจากที่ราคาทรงตัวเหนือระดับ 1,200 เหรียญได้กว่าสองวันแล้ว ขณะที่ Oscillator โดยทั่วไปบ่งบอกทิศทางขาขึ้น ซึ่งภาพกราฟระยะสั้นในราย 4 และ 8 ชั่วโมง ดูจะเป็นขาขึ้น จึงคาดว่าแนวต้านสำคัญของทองคำจะอยู่ที่ระดับ 1,230 เหรียญ ขณะที่แนวรับของทองคำอยู่ที่บริเวณ 1,200 เหรียญ
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำให้บริหารพอร์ตให้ดี ไม่ทำการ Short เพิ่ม หรือหาจังหวะลดสถานะ Short โดยทำ Stop Lossเพื่อป้องกันความเสี่ยง ซึ่งบริเวณ Stop Loss ที่สำคัญอยู่ที่ระดับ 1,221 เหรียญ อย่างไรก็ดี ยังคงแนะนำให้นักลงทุนหาจังหวะทยอยลดความเสี่ยงออกไปก่อน
- นักลงทุนที่ถือ Long Position และ นักลงทุนที่ถือ Short Position
แนะนำให้ขายทำกำไรระยะสั้นเป็นช่วงๆ
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading
บริหารพอร์ตสมดุล โดยภาพระยะยาวในกราฟรายสัปดาห์ ยังเป็นทิศทางขาลง
Gold Futures G15 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,020 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,220 บาท
Gold Futures J15 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,120 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,320 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง
ประชาสัมพันธ์:
1. เนื่องในวารดิถีขึ้นปีใหม่ประจำปี 2558 นี้ ทางบริษัท MTS Gold มีการปรับเปลี่ยนช่องทางการติดตามโดยนับตั้งแต่ 5 ม.ค.นี้ เป็นต้นไป จะมีการเสนอการวิเคราะห์ตลาดทองคำผ่านทางรายการ “รู้ทองรวยเงิน” ทางช่อง TNN24 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 10.10-10.15น. แทนรายการ “รู้ก่อนรวยกว่า”
2. รายการ Gold Tonight by MTS Gold ปรับเปลี่ยนเวลาใหม่ให้เร็วขึ้น ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 21.00-21.05น. ทางช่อง Money Channel ตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค.58
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม: 02 770 7777
MTS Research
MTS Gold Group
Phone: 02-770-7777
Fax: 02-623-9366
Email: [email protected]
Website: http://www.mtsgold.co.th