กรุงเทพฯ--19 ต.ค.--ธนาคารกรุงไทย
ผลประกอบการธนาคารกรุงไทยไตรมาส 3 มีกำไรสุทธิ 4,619 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดและสูงกว่าระยะเดียวกันของปีก่อน 21.73% ทั้งที่ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจำนวน 1,544 ล้านบาท
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยผลประกอบการธนาคาร ในไตรมาส 3 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2548 ว่า ธนาคารมีกำไรก่อนการหักค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญและภาษีเงินได้นิติบุคคล จำนวน 7,069 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อน 2,966 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 72.29 และมีกำไรสุทธิ จำนวน 4,619 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2547 จำนวน 824 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 21.73 ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดและสูงกว่าระยะเดียวกันของปีก่อน ทั้งที่ธนาคารต้องชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลในงวดนี้จำนวน 1,544 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นเพราะธนาคารมีรายได้จากดอกเบี้ยและเงินปันผลเพิ่มขึ้น โดยมีรายได้จากการลงทุนในกองทุนวายุภักษ์ 1 จำนวน 735 ล้านบาท
สำหรับผลประกอบการในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ธนาคารมีกำไรก่อนการหักค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญและภาษีเงินได้นิติบุคคล จำนวน 17,707 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อน 3,587 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 25.40 และมีกำไรสุทธิ จำนวน 12,238 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2547 จำนวน 1,678 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.89
ธนาคารมียอดสินเชื่อ 902,699 ล้านบาท ยอดเงินฝาก 970,156 ล้านบาท โดยธนาคารได้ปล่อยสินเชื่อเพิ่มให้กับลูกค้าทั่วไปจำนวน 47,658 ล้านบาท (ไม่รวมตั๋ว SAM) และมั่นใจว่าในสิ้นปีจะสามารถขยายสินเชื่อได้ครบ 70,000 ล้านบาทตามเป้าหมาย
สำหรับยอด NPL ของธนาคาร ได้ปรับลดลงจาก 119,693 ล้านบาทในสิ้นปี 2547 เหลือ 112,928 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราส่วน 11.88 % ของยอดสินเชื่อรวมก่อนหักค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ และในไตรมาสสุดท้ายนี้ ธนาคารมีแผนขายลูกหนี้ด้อยคุณภาพเป็นล๊อตใหญ่ ซึ่งคาดว่าจะสามารถลด NPL ลงเหลือ 10 % ตามเป้าหมายที่วางไว้
ฝ่ายสื่อสารการตลาดและประชาสัมพันธ์
โทร. 0-2208-4174-7--จบ--