อย. เตือน กินยาทำให้ง่วงนอน อาจ "หลับใน" อย่าฝืนขับ

กรุงเทพฯ--29 ธ.ค.--สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ
ศาสตราจารย์ ด๊อกเตอร์ ภักดี โพธิศิริ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ในช่วงใกล้เทศกาลปีใหม่ ซึ่งจะมีวันหยุดราชการติดต่อกันหลายวันและเป็นช่วงที่ประชาชนใช้รถใช้ถนนเพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนา และเดินทางท่องเที่ยวไปยังต่างจังหวัด ในช่วงระยะเวลาดังกล่าว เป็นผลทำให้ปริมาณการใช้รถใช้ถนนบนทางหลวงต่างๆ มีเป็นจำนวนมากและเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงกว่าเวลาปกติ ซึ่งปัจจัยเสี่ยงมาจากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น การดื่มของมึนเมาหรือใช้สารเสพติด การไม่ปฏิบัติตาม กฎจราจร การอ่อนเพลียจากการขับรถเป็นเวลานาน และการพักผ่อนไม่เพียงพอ รวมทั้งการรับประทานยาที่มีผลข้างเคียงทำให้เกิดอาการง่วงนอน ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นเหตุก่อให้เกิดอุบัติเหตุ ทั้งนี้ในเรื่องดังกล่าว ทางรัฐบาลมีความห่วงใยจึงได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันดำเนินการใช้มาตรการต่างๆ อย่างจริงจัง สำหรับในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งคุ้มครองสุขภาพอนามัยของประชาชน จึงใคร่ขอเตือนผู้ขับขี่รถยนต์ที่กินยาที่มีผลต่อจิตประสาท ซึ่งมีผลข้างเคียงก่อให้เกิดอาการง่วงนอน และทำให้เกิดอาการหลับในได้ ดังนั้น เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น ผู้บริโภคจึงควรระมัดระวังในการใช้ยาแต่ละชนิด โดยก่อนใช้ยาขอให้อ่านฉลาก และเอกสารกำกับยาให้ครบถ้วนเสียก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลเกี่ยวกับ คำเตือนในการใช้ยานั้น ๆ หรือสอบถามแพทย์ เภสัชกร ถึงผลข้างเคียงของยา หากต้องกินยาแก้แพ้ ยาลดน้ำมูก ยาแก้เวียนศีรษะ ยาแก้เมารถ ยาคลาย - เครียด และยานอนหลับ ซึ่งส่วนใหญ่ทำให้เกิดอาการง่วงนอน ควรหลีกเลี่ยงการขับขี่รถยนต์ เพราะอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางจราจรได้ หากมีอาการง่วงนอน ไม่ว่าจะมาจากการพักผ่อน นอนหลับไม่เพียงพอ การกินยา สารเสพติด หรือดื่มสุรา ซึ่งล้วนแต่มีผลให้เกิดการง่วงนอน ก็ไม่ควรฝืน ขับขี่รถยนต์ เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุทำให้เป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งของตนเองและบุคคลอื่น
(ที่มา: http://webnotes.fda.moph.go.th/information2548.nsf/ข่าวอย./218416DAAB282815472570DF0025BE33?opendocument)--จบ--