เตือนสติ สนช.และคสช.!!! แก้กฎหมายหลักประกันเปิดทางร่วมจ่าย ยิ่งสร้างความเหลื่อมล้ำ

ศุกร์ ๐๙ มกราคม ๒๐๑๕ ๑๐:๒๗
ตามที่คณะกรรมาธิการสาธารณสุข สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เตรียมเสนอแก้ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพ เพื่อเปิดทางให้ประชาชนร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาลนั้น

วันนี้ น.ส.สุภัทรา นาคะผิว สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ได้โพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัวเตือนสติ สนช.และคสช.!!!ในประเด็นดังกล่าวว่าจะยิ่งเพิ่มความเหลื่อมล้ำในระบบสุขภาพมากยิ่งขึ้น

“เตือนสติ สนช.และคสช.!!!การที่คณะกรรมาธิการสาธารณสุข สนช.ออกมาบอกว่าถึงเวลาที่จะต้องแก้ พรบ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 ให้ประชาชนที่ใช้สิทธิบัตรทองต้องร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาลนั้น ขอเตือนว่า นั่นคือการทำให้ความเหลื่อมล้ำในระบบสุขภาพยิ่งมากขึ้น จะส่งผลให้ประชาชนคนเล็กคนน้อย คนยากจนเข้าไม่ถึงการรักษาเพราะไม่มีเงินร่วมจ่าย ภาวะล้มละลายจากการรักษาพยาบาลจะกลับมาอีก ถอยหลังกลับไปจุดเดิมเมื่อ 12 ปี ที่ผ่านมา จริงๆปัจจุบันประชาชนร่วมจ่ายผ่านภาษีและค่าใช้จ่ายอื่นๆอยู่แล้ว เช่น ค่ารถ ค่าอาหาร ค่าคนดูแล เป็นต้น หากจะให้มีการร่วมจ่ายกลุ่มแรกที่ต้องร่วมจ่ายกลุ่มแรกคือข้าราชการ เพราะมีรายได้มากกว่า ใช้งบต่อหัวมากกว่าบัตรทองถึงเกือบ 4 เท่า”

ทั้งนี้ จากรายงานผลการประเมินสมรรถนะระบบบริการสุขภาพเพื่อเปรียบเทียบการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพและความเป็นธรรมด้านสุขภาพจำแนกตามสิทธิ พบว่า ค่าเฉลี่ยของการรับบริการผู้ป่วยนอกต่อคน และผู้ป่วยในต่อคน ของผู้ป่วยสิทธิระบบหลักประกันสุขภาพและประกันสังคมขอรับบริการต่ำกว่าระบบสวัสดิการข้าราชการอย่างมาก

จากการสำรวจค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในการไปโรงพยาบาลของผู้ป่วย ในระบบหลักประกันสุขภาพของมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคและองค์กรเครือข่ายในกรุงเทพมหานครกลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ใช้สิทธิ จากทั้ง 48 เขตของกรุงเทพมหานครยัง พบว่าในการไปรับบริการสุขภาพในแต่ละครั้งนั้นผู้ป่วยมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ นอกเหนือจากการรักษาพยาบาลทั้งในทางตรงและทางอ้อม โดยพบว่าค่าขาดรายได้ เนื่องจากการต้องเข้ารับการรักษา และค่าใช้จ่ายในการเดินทางเพื่อเข้ารับการรักษานั้นเป็นค่าใช้จ่ายหลักที่เกิดขึ้น โดยในการใช้บริการแบบผู้ป่วยนอกนั้น มีค่าขาดรายได้ เนื่องจากการขาดงานและค่าเดินทางเป็น 181 บาท และ 113 บาท ต่อครั้งของการเข้ารับบริการ ตามลำดับ ส่วนการใช้บริการแบบผู้ป่วยใน มีค่าขาดรายได้เนื่องจากการขาดงานและค่าเดินทางเป็น 461 บาท และ 157บาท ต่อครั้งของการเข้ารับบริการ ในขณะที่กลุ่มตัวอย่างมีรายได้เฉลี่ยเพียงวันละ 210 บาท เท่านั้น จึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ประชาชนจำนวนมากตัดสินใจไม่ไปรับบริการ ดังนั้น หากต้องร่วมจ่ายจะยิ่งกีดกันคนที่ไม่มีกำลังมากพอในการเข้าถึงระบบสุขภาพ

ทางด้าน รศ.ดร.วิทยา กุลสมบูรณ์ กรรมาการสาธารณสุข สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวว่าประเทศไทยได้ผ่านระยะที่ประชาชนทุกคนมีสิทธิในระบบหลักประกันสุขภาพไปแล้วและเป็นไปด้วยดี ควรเริ่มสู่ระยะการปฏิรูปเพื่อเพิ่มคุณภาพ มาตรฐาน และ ความเท่าเทียม ต้องมองภาพรวมทั้งประเทศ. แนวคิดที่จะให้มีการร่วมจ่ายในระบบหลักประกัน หรือ แยกเงินเดือนออกจากงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพ จะเป็นการสวนทางย้อนศร สับสนในหลักการหลักคิด อาจทำให้โกลาหล ยุ่งเหยิงและ การปฏิรูปเพื่อการพัฒนาจะหยุดชะงักในที่สุด

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘ เม.ย. ARDA จับมือ ฟาร์ม เอ็กซ์โป และพันธมิตร เปิดศึก AGRITHON by ARDA Season 2 เฟ้นหาสุดยอดไอเดียปลุกพลังนวัตกรรมเกษตรไทย ชิงทุนวิจัยรวมกว่า 100
๑๘ เม.ย. กรุงศรี ฉลอง 80 ปี ดูหนัง 80 บาท ที่ Major Cineplex เมื่อชำระด้วยบัตรกรุงศรี เดบิตและบัตร Krungsri Boarding
๑๘ เม.ย. แบรนด์ซุปไก่สกัด รณรงค์ขับขี่ปลอดภัยในโครงการ สมองล้าอย่าขับ พักดื่มแบรนด์ จับมือ ตำรวจทางหลวง และ ตำรวจจราจร
๑๘ เม.ย. ซัมซุงจัดใหญ่! เป็นเจ้าของ ตู้เย็น Side by Side รุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมรับสิทธิพิเศษแบบจุใจ ได้แล้ววันนี้
๑๘ เม.ย. ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2568 คาดกนง.มีมติลดดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือนเมษายนนี้
๑๘ เม.ย. EXIM BANK ร่วมกับกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์ ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs รับมือนโยบายภาษีแบบตอบโต้ของสหรัฐฯ
๑๘ เม.ย. ปักหมุด! เตรียมจัดงาน PET Expo Thailand 2025 จัดยิ่งใหญ่ครบรอบ 25 ปี
๑๘ เม.ย. ลดคลายร้อน ช้อปแลคตาซอย 1,000 ลด 100 พร้อมชวนร่วมสนุกถ่ายภาพคู่แลคตาซอย ลุ้น 10 รางวัล
๑๘ เม.ย. DITP ประชุมผู้จัดแสดงสินค้า เตรียมความพร้อมสู่เวที THAIFEX - ANUGA ASIA 2025
๑๘ เม.ย. โรงแรมเครือดุสิตธานี เปิดตัวโปรพิเศษต้อนรับซัมเมอร์ 'A Night on Us' เติมเต็มวันพักผ่อนอย่างมีความสุขกับโรงแรมและรีสอร์ทในเครือดุสิตธานีทั่วโลก