ธุรกิจตลาดแว่นตาคึกคักรับปีแพะ เคที ออพติค ย้ำภาพลักษณ์ด้านแฟชั่น เทรนดี้ ความเรียบหรู

อังคาร ๒๐ มกราคม ๒๐๑๕ ๑๕:๔๖
ธุรกิจตลาดแว่นตาคึกคักรับปีแพะ เคที ออพติค ย้ำภาพลักษณ์ด้านแฟชั่น เทรนดี้ ความเรียบหรูชูกลยุทธ์หลัก เน้นแบรนด์สินค้าและการให้บริการ ระดับพรีเมี่ยม จัดแคมเปญสุดยิ่งใหญ่ต้นปี “KT OPTIC BIG GIFT X2” เจ้าแรกและเจ้าเดียวในตลาด พร้อมรับการเปิดตลาด AEC เมินการแข่งขันสงครามราคา!!!

เคที ออพติค ร้านแว่นตาระดับพรีเมี่ยม จัดแคมเปญสุดยิ่งใหญ่ต้อนรับปี 2558 “KT OPTIC BIG GIFT X2” (เคที ออพติค บิ๊ก กิ๊ฟ คูนสอง) ตั้งแต่วันนี้ – 28 กุมภาพันธ์นี้ ที่ร้านเคที ออพติคทุกสาขา ชิงรางวัลมูลค่ารวมถึง 1,000,000 บาท เพื่อขอบคุณและคืนกำไรมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับลูกค้าเคที ออพติค การันตีความเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวในตลาดที่กล้าจัดแคมเปญสุดยิ่งใหญ่นี้ คาดจบแคมเปญจะสร้างยอดขายเพิ่มสูงถึง 20 ล้านบาท พร้อมยังคงตอกย้ำภาพลักษณ์ของร้านในด้านแฟชั่น ความเป็นเทรนดี้ ความเรียบหรูดูดีมีสไตล์ ชูการทำกลยุทธ์ทางการตลาด เน้นเรื่อง แบรนด์สินค้าระดับพรีเมี่ยม และการให้บริการที่เป็นเลิศ ถือเป็นกลยุทธ์หลักของร้าน พร้อมรับการเปิดตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เมินการแข่งขันการจัดโปรโมชั่นด้วยสงครามราคา

นายนายชัชวาลย์ วณิชไพสิฐ ผู้อำนวยการด้านการบริหาร บริษัท เคที ออพติค จำกัด (Mr.Chatchavan Vanitpaisit – Director Executive, KT OPTIC Ltd. ) เปิดเผยถึงการดำเนินธุรกิจร้านแว่นตา เคที ออพติค ในปี 2557 ที่ผ่านมาว่า “ในปี 2557 ที่ผ่านมา การดำเนินธุรกิจของร้านเคที ออพติคนั้น โดยภาพรวมถือได้ว่าเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ มีการขยายสาขาเพิ่มถึง 10 สาขา เป็นสาขาในกรุงเทพจำนวน 5 สาขา และต่างจังหวัดอีก 5 สาขา รวม ณ ปัจจุบันร้านเคที ออพติค มีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 188 สาขา สามารถสร้างยอดขายได้ถึง 800 ล้านบาท เป็นผลจากการจัดแคมเปญประจำปีของร้าน การนำเข้าสินค้ารูปแบบใหม่ของแต่ละแบรนด์ และแต่ละช่วง Season หรือเทรนด์แฟชั่นใหม่ๆ ที่กำลังฮอทฮิท รวมถึงการนำเข้าแบรนด์สินค้าใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่งแว่นตากันแดด ยังคงมียอดขายที่สูงกว่าแว่นสายตา โดยมีสัดส่วนอยู่ที่ 70:30 เนื่องจากแว่นตากันแดดนั้น ลูกค้าสามารถเลือกรูปแบบที่ชอบและทดลองสวมใส่ได้ทันทีโดยไม่ต้องทำการตรวจวัดสายตา เมื่อเห็นว่าเข้ากับรูปหน้า พอใจในรูปแบบ คุณภาพและราคา ลูกค้าก็จะตัดสินใจซื้อในทันที ส่วนแบรนด์ที่มียอดขายดีที่สุดก็ต้องยกให้ เรย์แบน (RAYBAN) และ ไอซีเบอริน (ic! berlin)

แบรนด์ยอดนิยมที่คนทั่วโลกรู้จักเป็นอย่างดี”

สำหรับการดำเนินธุรกิจร้านเคที ออพติค ในปี 2558 นี้ ได้วางงบประมาณทางการตลาดรวมทั้งสิ้น 30 ล้านบาท แบ่งเป็นงบด้านการโฆษณาประชาสัมพันธ์ การจัดแคมเปญอีเวนท์ต่างๆ รวมถึงการขยายสาขาเพิ่ม เรายังคงรุกเดินหน้าขยายฐานลูกค้าใหม่และขยายสาขาเพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้เน้นขยายในโซนกรุงเทพเป็นหลักเพิ่มอีก 5 สาขา ได้แก่ เดอะ พาซิโอ พาร์ค (The Paseo Park) กาญจนาภิเษก ประมาณเดือนมีนาคม / เจมาร์เก็ต แอท รามอินทรา (J Market @ Ramintha) ประมาณเดือนสิงหาคม / เมโทร อีส ทาวน์ (Metro East Town) ประมาณช่วงไตรมาศ 3 / แฟชั่นไอสแลนด์ (Fashion Island) ประมาณเดือนพฤศจิกายน และ โชว์ ดีซี (Show DC) ประมาณช่วงปลายปี เจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าที่มีรายได้ปานกลางไปจนถึงรายได้สูง หรือระดับบีบวกขึ้นไป

ด้านภาพลักษณ์ร้านเคที ออพติค เรามีจุดยืนที่ชัดเจนซึ่งยังคงย้ำในด้านของแฟชั่น มีความเป็น เทรนดี้ และก็ต้องมีความเรียบหรูดูดีมีสไตล์ ในปีนี้เราต้องการชูให้เห็นถึงการทำกลยุทธ์ทางการตลาดที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เคที ออพติค ของเราไม่เน้นการจัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้า ไม่แข่งขันด้วยการทำสงครามราคา กลยุทธ์ที่เราทำเพื่อมัดใจลูกค้าสร้างให้เกิดแบรนด์รอยัลตี้ยิ่งๆ ขึ้นไปนั้นก็คือ เราเน้นหนักในเรื่องการคัดสรรนำเข้าแบรนด์สินค้าระดับพรีเมี่ยมที่มีคุณภาพ สินค้า Limited Edition เพิ่มความหลากหลาย และความเป็นเอ็กคลูซีพของแบรนด์ชั้นนำระดับโลกมากยิ่งขึ้น เป็นผู้นำเทรนด์ อัพเดทแฟชั่นแว่นตาใหม่ล่าสุด มานำเสนอให้กับลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้อย่างสูงสุด และที่สำคัญคือเน้นการให้บริการที่เป็นเลิศ มีบริการหลังการขาย สร้างความความมั่นใจให้กับผู้บริโภค รวมถึงการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าทางออนไลน์ ที่เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อเร็วๆนี้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งการให้บริการของเคที ออพติค โดยเราได้จับมือกับพันธมิตรยักษ์ใหญ่ลาซาด้า ให้บริการการสั่งซื้อสินค้าของเคที ออพติค ทางออนไลน์ผ่าน www.lazada.co.th และ www.ktoptic.com อย่างไรก็ตามช่องทางการจัดจำหน่ายหลักของเรายังคงเน้นการขายสินค้าหน้าร้านที่มีการให้บริการพร้อมสรรพ และมีสินค้าแบรนด์พรีเมี่ยมระดับโลกที่หลากหลาย

พร้อมกันนี้ในแต่ละปี เราจะมีการจัดแคมเปญสุดยิ่งใหญ่ประจำปี ซึ่งได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบสร้างสรรค์ให้สอดคล้องกับเทรนด์ในแต่ละช่วงนั้นๆของปี และยังเพิ่มมูลค่า พร้อมเลือกสรรของรางวัลให้โดนใจ เป็นที่ต้องการของลูกค้า ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการขอบคุณและคืนกำไรให้กับลูกค้า ซึ่งเรายังคงดำเนินการจัดแคมเปญลักษณะนี้ต่อเนื่องมาเป็นประจำในทุกๆ ปี โดยเมื่อเดือนธันวาคมปลายปีที่แล้ว ต่อเนื่องจนถึงต้นปี 58 ปัจจุบันนี้ เราจัดแคมเปญ “KT OPTIC BIG GIFT X2” (เคที ออพติค บิ๊ก กิ๊ฟ คูนสอง) ส่งท้ายปี 2557 ต้อนรับปีใหม่ 2558 การันตีความเป็นเจ้าแรก!!! และเจ้าเดียวในตลาดที่กล้าจัดแคมเปญสุดยิ่งใหญ่ครั้งนี้ เริ่มแล้วตั้งแต่วันนี้ – 28 กุมภาพันธ์นี้ ที่ร้านเคที ออพติคทุกสาขา ชิงรางวัลมูลค่ารวมถึง 1,000,000 บาท เพียงลูกค้าซื้อสินค้ากับร้านเคที ออพติค ครบทุก 5,000 บาท จะได้รับสิทธิ์ 1 สิทธ์ ร่วมชิงรางวัล ลุ้นรับรถจักรยานยนต์เวสป้า 5 รางวัล , รถจักรยานยนต์ซูมเมอร์เอ็ก 4 รางวัล , โทรศัพท์มือถือไอโฟน 6 รุ่น 16G 10 รางวัล ยิ่งช้อปมากยิ่งมีสิทธิ์มาก ร่วมลุ้นจับฉลากผู้โชคดีได้ในวันที่ 10 มีนาคม 2558 ซึ่งเมื่อแคมเปญสิ้นสุดลงในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ คาดว่าเคที ออพติค จะมียอดขายเพิ่มขึ้นจากแคมเปญนี้ถึง 20 ล้านบาท โดยเราตั้งเป้าผลประกอบการในปี 58 นี้ไว้ว่าจะสามารถสร้างยอดขายเติบโตขึ้น 5% หากการดำเนินธุรกิจเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ ซึ่งการเติบโตดังกล่าวเราคาดหวังเน้นยอดขายจากการเปิดสาขาใหม่ และนั่นจะทำให้เคที ออพติคมีส่วนแบ่งในตลาด 15 %

สำหรับภาพรวมธุรกิจตลาดแว่นตาของไทยนั้น ในปี 2557 ที่ผ่านมาธุรกิจตลาดแว่นตามีมูลค่ารวมกว่า 6,500 ล้านบาท ซึ่งยังคงมีการแข่งขันที่สูง โดยส่วนใหญ่ผู้ประกอบการธุรกิจแต่ละเจ้านั้น เน้นแข่งขันกันด้วยการห่ำหั่นทำสงครามราคา ลดราคาเอาใจผู้บริโภค ซึ่งผู้ได้รับประโยชน์สูงสุดก็คือผู้บริโภคนั่นเอง ส่งผลให้ภาพรวมตลาดแว่นตาในปี 57 ยังเติบโตเฉลี่ยประมาณ 5% และคาดว่าในปีนี้ตลาดแว่นตาจะมีความคึกคัก และมีการแข่งขันที่สูงมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน

นายชัชวาลย์ ได้กล่าวต่อถึงความพร้อมในการเปิดตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปลายปีนี้ว่า “เมื่อมีการเปิดตลาด AEC อย่างเป็นทางการแล้ว ตลาดแว่นตาบ้านเราจะมีความคึกคักมากขึ้น มีสีสันมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เป็นผลจากการแข่งขันที่รุนแรงของผู้ประกอบการทั้งในประเทศ และผู้ประกอบการจากประเทศในกลุ่มประชาคมอาเซียนที่เข้ามาลงทุนเปิดธุรกิจแว่นตาในบ้านเรา ทางเคที ออพติคเองก็ได้เตรียมความพร้อมขยายฐานลูกค้าในกลุ่มประเทศประชาคมอาเซียนเพิ่มขึ้น โดยได้วางแผนขยายสาขาเพิ่มในต่างจังหวัดที่มีพื้นที่ติดแถบชายแดนอย่างเช่น จ.อุดรธานี จ.หนองคาย เป็นต้น ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในปีหน้า 2559 จากที่เราเคยมองว่า อาจจะร่วมทุนในธุรกิจตลาดแว่นตากับผู้ประกอบการในกลุ่มประเทศประชาคมอาเซียด้วยกัน แต่เมื่อได้ทำการศึกษาตลาดอย่างละเอียดแล้ว เราเล็งเห็นได้ว่าจังหวัดที่อยู่แถบชายแดนติดประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มประเทศ AEC ที่ทำการค้าขายระหว่างกันนั้น อัตราการเติบโตของมูลค่าการค้าแถบชายแดนของไทยและเพื่อนบ้านมีอัตราที่เติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นผลจากนโยบายเศรษฐกิจและการค้าเสรี ทำให้ประชาชนในประเทศเพื่อบ้านส่วนใหญ่มาซื้อสินค้าในบ้านเรามากยิ่งขึ้น เราจึงได้ปรับทิศทางและแผนงานการดำเนินธุรกิจของเราใหม่ นอกจากการขยายสาขาเพิ่มในจังหวัดแถบชายแดนแล้วในปีหน้า 2559 เราจะมีร้านรูปแบบใหม่ในลักษณะของแฟรนไชส์ ใช้ชื่อ “Wakeup” (เวคอัพ) โดยมุ่งเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าระดับมหาวิทยาลัย คนเริ่มทำงาน และกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบทางด้านแฟชั่น”

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ