สสค.ย้ำงานวิจัยมาจากเสียงสะท้อนของครู-เป็นไปตามหลักวิชาการ ชี้ควรใช้ผลศึกษาให้เป็นประโยชน์ปรับปรุงหน่วยงานให้ดีขึ้น

อังคาร ๒๐ มกราคม ๒๐๑๕ ๑๗:๑๐
ดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์การศึกษา สสค. ให้สัมภาษณ์ถึงผลสำรวจกิจกรรมภายนอกชั้นเรียนที่กระทบต่อการจัดการเรียนการสอนของครูว่า ผลสำรวจของสสค.มาจากเสียงสะท้อนของครูและเป็นไปตามหลักวิชาการ โดยเลือกกลุ่มตัวอย่างครูสอนดี 427 คน จากประชากรครูสอนดี 18,000 คนทั่วประเทศ ซึ่งมีความอาวุโสมากกว่าครูทั่วไปเล็กน้อยแต่มีการกระจายตัวอยู่ทุกตำบลและมีความแม่นยำ เพราะมีฐานข้อมูลและตัวตนครูที่แน่นอน สิ่งที่ค้นพบก็ไม่ได้มุ่งหวังเจาะจงหรือศึกษาเฉพาะหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง และใช้วิธีสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ซึ่งเป็นวิธีที่เพิ่มความแม่นยำ เพราะมีการสอบถามความเข้าใจจากครูโดยตรง ทำให้สามารถพูดคุยกับครูได้อย่างละเอียด โดยมีครูตอบกลับเกือบ 100%

ดร.ไกรยส กล่าวว่า กรณีของสมศ.ก็มาจากปากคำของครู โดยพบว่า ในจำนวนครู 427 คน มีครูที่ไม่ถูกประเมินจากสมศ.อยู่ 120 คน คิดเป็น 28% ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่ใกล้เคียงกับการประเมินของสมศ.ที่เข้ามาประเมินโรงเรียนเฉลี่ยปีละ 20% เพราะสมศ.ประกาศว่าจะมีการประเมินโรงเรียนครบ 100% ใน 5 ปี ส่วนเวลา 9 วันคือเวลาเฉลี่ยที่ครูใช้ไปกับการประเมินของสมศ.ในเวลา 1 ปีจึงมีทั้งครูที่ถูกประเมินและไม่ถูกประเมิน ซึ่งการใช้เวลาของครูก็ไม่ได้นับเฉพาะวันที่หน่วยงานนั้นเข้ามาประเมิน แต่นับรวมวันที่ครูต้องใช้เวลาเตรียมเอกสารและการเตรียมการล่วงหน้าเพื่อรองรับการประเมิน ซึ่งพบว่ามีครูที่ตอบว่าใช้เวลา 3 วันอยู่ 93 คน หรือครูบางคนต้องใช้เวลาเตรียมงานตั้งแต่ 30 วันขึ้นไปอยู่ 63 คน ทั้งหมดนี้เป็นการทำงานวิจัยตามหลักวิชาการ และเป็นครั้งแรกที่สะท้อนปากเสียงจากครูเพื่อหวังให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำข้อมูลไปปรับปรุงให้ดีขึ้น ทั้งนี้สสค.ยินดีที่จะชี้แจงข้อมูลงานวิจัย แต่ที่ผ่านมาไม่ได้รับจดหมายเชิญร่วมงานแถลงข่าวจากสมศ.แต่อย่างใด

นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า หากมองแบบเป็นกลางจะพบว่าทั้งข้อมูลการวิจัยของสสค. และประเด็นที่สมศ.ยกขึ้นมาชี้แจงนั้นไม่ใช่ตัวเลขจริงทั้งหมด แต่เป็นตัวเลขการสำรวจครูบางกลุ่ม ฉะนั้นต้องยอมรับว่า ไม่มีงานวิจัยใดที่สมบูรณ์จึงไม่ควรเสียเวลาเรื่องวันที่ใช้มากน้อยเพียงใด แต่สิ่งสำคัญคือ ความรู้สึกกังวลใจ และความทุกข์ของครูที่เกิดขึ้นจริงผ่านกระบวนการประเมิน สิ่งที่ควรทำคือ การช่วยกันทบทวนการประเมิน เรื่องตัวชี้วัดต่างๆว่ามีคุณภาพเพียงพอ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาอย่างมีคุณภาพได้ และไม่เป็นภาระให้ครูน่าจะเป็นทางออกร่วมกันที่สมศ.และทุกฝ่ายที่เข้าไปทำกิจกรรมกับครู

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ