ทั้งนี้บริษัทมีนโยบายปรับโครงสร้างไปสู่แหล่งรายได้จากธุรกิจพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งในและต่างประเทศ โดยโครงการในประเทศจะเน้นทำเลที่ตั้งตามแนวรถไฟฟ้า และชายทะเลทางภาคใต้ ซึ่งขณะนี้บริษัทมีแผนงานเป็นรูปธรรมแล้วและอยู่ระหว่างการเจรจาการซื้อที่ดิน อย่างไรก็ดีสำหรับแหล่งเงินทุนบริษัทได้เตรียมความพร้อมจากกการประกาศออกอนุมัติออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (RO) 7,039,876,852 หุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิจองหุ้นเพิ่มทุนที่เสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมในอัตรา 1 หุ้นสามัญเดิมต่อ 4 หุ้นสามัญใหม่ ในราคาเสนอขายหุ้นละ 0.45 บาท โดยกำหนดวิธีปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 2 ก.พ. 2558 มีระยะเวลาจองซื้อหุ้นและชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนในระหว่างวันที่ 23-27 ก.พ. 2558 พร้อมทั้งจัดสรรหุ้นสามัญจำนวน 3,813,266,629 หุ้น และกําหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามสัดส่วนการถือหุ้น และได้รับใบสําคัญแสดงสิทธิของบริษัทฯ รุ่นที่ 3 (POLAR-W3) (Record Date) คือวันที่ 30 มกราคม 2558 โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ 1. ให้กับผู้ถือเดิมในอัตรา 6 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หน่วย Warrant 2. ให้กับผู้ถือหุ้นเดิมที่จองซิ้อหุ้นเพิ่มทุนในอัตรา 2 หุ้นเพิ่มทุนต่อ 1 หน่วย Warrant
นอกจากนี้ยืนยันว่ากรณีที่พลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ขายหุ้นออกจำนวนหนึ่งที่ถืออยู่ใน POLAR สัดส่วน 6.06% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการออกมาจะไม่มีผลกระทบการบริหารและการดำเนินธุรกิจของบริษัทเพราะที่ผ่านมาไม่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารงาน ซึ่งทีมบริหารจะดำเนินการต่อไปตามแผนงานที่ประกาศก่อนหน้านี้
“การเจรจาร่วมทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กับพันธมิตรท้องถิ่นในต่างประเทศตอนนี้มีความคืบหน้าไปมาก น่าจะได้ข้อสรุปในไม่ช้า ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานของบริษัทที่ต้องการปรับโครงสร้างธุรกิจมุ่งหารายได้จากอสังหาริมทรัพย์ และในปีที่ผ่านมาบริษัทมีก็ผลการดำเนินงานที่ดีจากเศรษฐกิจที่เติบโตและขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2558 นี้เราจะรุกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่องตามแผนที่วางไว้” นายอภิวุฒิ กล่าว