ธนาคารกรุงไทย แจ้งผลประกอบการของธนาคารในปี 2557 เปรียบเทียบกับปี 2556 ว่าธนาคารมีกำไรจากการดำเนินงาน 53,579 ล้านบาท ลดลง 1,166 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 2.13 หลังหักสำรองหนี้สูญและภาษีเงินได้ ธนาคารมีกำไรสุทธิ 33,196 ล้านบาท ลดลง 1,315 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 3.81 โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของธนาคารยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าในปีที่ผ่านมา ธนาคารไม่มีรายได้เงินปันผลจากกองทุนรวมวายุภักษ์ 1 จำนวน 1,767 ล้านบาท และกำไรจากการขายคืนกองทุนรวมวายุภักษ์ 1 ที่ครบกำหนด จำนวน 3,186 ล้านบาท เช่นเดียวกับปี 2556
ณ 31 ธันวาคม 2557 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อ 1,897,995 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 186,905 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.92 โดยเพิ่มขึ้นจากลูกค้าภาครัฐและเอกชน มีเงินฝาก 2,151,641 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 267,860 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.22 จากสิ้นปี 2556
จากนโยบายการดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวัง ธนาคารจึงได้เพิ่มสำรองจากเดือนละ 500 ล้านบาท เป็น 700 ล้านบาท ตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปี 2557 รวมทั้งได้กันสำรองเพิ่มเติมบางส่วน เพื่อให้เหมาะสมกับจำนวนเงินให้สินเชื่อที่เพิ่มขึ้น และเพื่อสร้างความแข็งแกร่ง ทำให้ในปี 2557 ธนาคารได้ตั้งสำรองรวม 13,658 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,347 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.94 เมื่อเทียบกับปีก่อน ประกอบกับสินเชื่อด้อยคุณภาพลดลง ส่งผลให้อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 109.47 เมื่อสิ้นปี 2556 เป็นร้อยละ 126.63
แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจในปี 2557 ขยายตัวต่ำกว่าที่คาดการณ์ แต่ธนาคารได้ดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิดทำให้คุณภาพสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPLs) ดีขึ้น โดย ณ 31 ธันวาคม 2557 ธนาคารมีสินเชื่อด้อยคุณภาพจำนวน 56,182 ล้านบาท ลดลง 276 ล้านบาท จากสิ้นปี 2556 อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPLs Ratio net) ลดลงเหลือร้อยละ 1.34 ส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 มีจำนวน 209,453 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.91 และเงินกองทุนรวมมีจำนวน 284,905 ล้านบาท หรือร้อยละ 14.85 ของสินทรัพย์ถ่วงน้ำหนักตามเกณฑ์ความเสี่ยง