สศอ. เผยโอกาสความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมกับจีนรายมณฑล หวังชี้ช่องผู้ประกอบการไทยจับมือร่วมค้า-ลงทุน

พฤหัส ๒๒ มกราคม ๒๐๑๕ ๑๑:๐๒
สศอ. เผยโอกาสความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมกับจีนใน 5 มณฑลดาวรุ่ง ได้แก่ เซี่ยงไฮ้ อันฮุย หูเป่ย ฉงชิ่ง และ เสฉวน ซึ่งมีศักยภาพในการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูง มีปริมาณการค้า การลงทุน และการวางยุทธศาสตร์การพัฒนาเมืองให้เป็นศูนย์กลางการผลิต การค้า และการลงทุนที่โดดเด่น สามารถเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายการผลิตในระดับภูมิภาค

นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ประเทศจีน เป็นประเทศที่มีศักยภาพสูงมากที่จะก้าวขึ้นเป็นอภิมหาอำนาจของโลกเศรษฐกิจแซงหน้าสหรัฐอเมริกาในอนาคต อันใกล้ โดยคาดการณ์ว่าใน พ.ศ. 2573 ผลิตภัณฑ์มวลรวมของจีนจะมีมูลค่าสูงถึง 30.6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ แซงหน้าผลิตภัณฑ์มวลรวมของสหรัฐอเมริกา 23.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ตาม โครงสร้างและระบบเศรษฐกิจแต่ละมณฑลของจีน รวมทั้งกฎหมายที่แตกต่างในแต่ละมณฑล จึงจำเป็นต้องพิจารณาจีนในลักษณะ “หนึ่งมณฑล หนึ่งประเทศ” โดยการเจาะลึกการพัฒนาความร่วมมือเป็นรายมณฑล โดยเฉพาะมณฑลที่มีศักยภาพของจีน ได้แก่ เซี่ยงไฮ้ – อันฮุย - หูเป่ย – ฉงชิ่ง – เสฉวน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมกับประเทศจีน

นายอุดมฯ กล่าวว่า จากการศึกษาแต่ละมณฑลพบว่า มหานครเซี่ยงไฮ้ รัฐบาลจีนได้วางยุทธศาสตร์ การพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางระหว่างประเทศใน 4 ด้าน ได้แก่ ศูนย์กลางเศรษฐกิจ การเงิน การค้า และการคมนาคมขนส่งทางเรือ และยังมีนวัตกรรมทางเศรษฐกิจล่าสุดคือการทดลองทำเขตการค้าเสรีนครเซี่ยงไฮ้ (SFTZ) โดยการปฏิรูปเปลี่ยนบทบาทของภาครัฐ การปฏิรูประบบการเงิน การบริการการค้าการลงทุนจากต่างประเทศและนโยบายภาษี สำหรับมณฑลอันฮุย เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่มีศูนย์กลางด้านวิทยาศาสตร์ เป็นมณฑลที่มีศักยภาพในการพัฒนาอุตสาหกรรมสมัยใหม่ที่อาศัยเทคโนโลยีขั้นสูง สามารถเชื่อมโยงการวิจัยพัฒนาจากสถาบันการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ภายในมณฑลไปสู่การต่อยอดในเชิงพาณิชย์ได้อย่างแพร่หลาย มณฑลหูเป่ย เป็นจุดยุทธศาตร์ที่มีความสำคัญในการคมนาคมขนส่งและการกระจายสินค้าไปยังพื้นที่ภาคกลางของจีน โดยนโยบายของมณฑลหูเป่ย ได้มุ่งเน้นให้เป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ครบวงจร ครอบคลุมทั้งทางอากาศ ทางบก ทางรถไฟและทางน้ำ โดยมีแนวทางที่จะก่อสร้างท่าเรือขนาบแม่น้ำแยงซีเกียงแห่งใหม่สนามบินแห่งใหม่โดยมุ่งพัฒนาให้เป็นจุดเชื่อมโยงการขนส่งภาคกลางของประเทศจีน มหานครฉงชิ่ง นอกจากจะเป็นเมืองที่มีการลงทุนด้านอุตสาหกรรมที่สูงลำดับต้นๆ ของจีนแล้ว ยังมีแผนการพัฒนา เพื่อรองรับสินค้าจากมณฑลเสฉวน ในการกระจายสินค้าสู่ภาคตะวันตกของจีนและการเชื่อมโยงกับเส้นทางการขนส่งทางแม่น้ำแยงซี ตามแผนการพัฒนาการสร้างเส้นทางโลจิสติกส์ระหว่างประเทศและการพัฒนาเส้นทางสายไหมสมัยใหม่ระหว่างจีนกับเอเชีย ขณะที่มณฑลเสฉวน เน้นการสร้างความสมดุลของการพัฒนาโดยการพัฒนาเกษตรสมัยใหม่ควบคู่กับอุตสาหกรรมสมัยใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง โดยเป็นมณฑลใหญ่ที่มีพลเมืองจำนวนมาก มีผลผลิตการเกษตรที่หลากหลาย ทรัพยากรทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และศูนย์วิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย และยังเป็นศูนย์กลางการขนส่งระบบรางที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันตก

ในระยะเริ่มต้น ไทยมีโอกาสเป็นฐานผลิตเพื่อส่งสินค้าไปขายยังประเทศจีนได้ในอุตสาหกรรมเวชสำอางและเครื่องสำอาง โดยร่วมมือกับมณฑลเสฉวน และอุตสาหกรรมเครื่องดื่มและอาหาร ในรูปของอาหารพร้อมทาน (Ready to eat) หรืออาหารพร้อมปรุง(Ready to cook) เนื่องจากมีวิถีชีวิตที่เร่งรีบแบบคนเมืองและมีกำลังซื้อสูง สำหรับประเภทอุตสาหกรรมที่น่าชักชวนจีนเข้ามาลงทุนในไทยนั้น จากการสำรวจพบว่า มีกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพมาลงทุนในประเทศไทยหลายกลุ่ม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางพารา (ขั้นกลางน้ำและปลายน้ำ) และอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน (โซลลาร์เซลล์และแผงโซลลาร์เซลล์) โดยจะเป็นประโยชน์มากหากสามารถส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมดังกล่าวจากมณฑลและมหานครเหล่านี้

นายอุดมฯ กล่าวต่อไปว่า การสนับสนุนด้านข้อมูลด้านการลงทุน และการชี้โอกาสทางการตลาด การอำนวยความสะดวกในการขออนุญาต การรับรองมาตรฐาน และการจับคู่ธุรกิจ เป็นบทบาทหนึ่งที่ภาครัฐสามารถสนับสนุนภาคเอกชนไทยและจีนได้ เพื่อเชิญชวนให้นักลงทุนจีนเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพของไทยเพิ่มขึ้น ทั้งในรูปแบบของการลงทุนในโครงการร่วม (Joint Venture) การส่งเสริมการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ หรือสนับสนุนการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม อาทิ นิคมอุตสาหกรรมยางพารา พร้อมกับการสนับสนุนปัจจัยการผลิต เช่น แรงงาน การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ หรือการงดเว้นภาษีให้กับอุตสาหกรรมเป้าหมาย เป็นต้น โดยการดำเนินการดังกล่าวต่างเป็นปัจจัยที่จะช่วยจุดประกาย และสร้างการตื่นตัวต่อการพัฒนาอุตสาหกรรม/เครือข่ายการผลิตระหว่างกันให้เกิดผลที่เป็นรูปธรรม

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๕๐ รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๑๖:๑๔ ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๑๖:๑๓ Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๑๖:๑๐ ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๑๖:๕๒ โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version