ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 672 คู่สัญญา แบบ 10 บาทอยู่ที่ 4,677 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 2.25% แบบ 10 บาท ลดลง 1.38% GFG15 ปิด 19,990 บาท และ GFJ14 ปิด 20,080 บาท GF10G14 ปิดที่ 19,990 บาท GF10J14 ปิดที่ 20,080 บาท
สัญญา Comex เพิ่มขึ้น 12.3 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,291.7 ดอลลาร์/ออนซ์ NYMEX เพิ่มขึ้น 1.08 เซ็นต์ ปิดตลาดที่ระดับ 46.23 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR ถือครองทองคำอยู่ที่ระดับ 752.70 ตัน(ซื้อเข้า 9.26 ตัน)
ข่าวที่สำคัญ
-ทองคำปิดปรับตัวสูงขึ้นกว่า 0.96% และไปทำจุดสูงสุดบริเวณ 1,297 เหรียญ/ออนซ์ เพราะได้รับแรงสนับสนุนหลักจากการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์ หลังจากข้อมูลยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯออกมาแย่กว่าที่คาดการณ์อย่างมาก ขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมืองของกรีซ จึงกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าถือครองทองคำในฐานะ Safe-Heaven
-เมื่อวานนี้ SPDR ทำการสำรองทองคำติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ที่ระดับ 9.26 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 752.70 ตัน
-รายงานจาก IMF ล่าสุดระบุว่า ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมารัสเซียเข้าสำรองทองคำเพิ่มในเดือนธันวาคมเช่นกันที่ระดับ 20.73ตัน ทำให้ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 1,208.23 ตัน ขณะที่ เนเธอร์แลนด์เพิ่มปริมาณการสำรองทองคำเป็นครั้งแรกในรอบ 16 ปี (นับตั้งแต่ธันวาคม 1998) โดยเข้าซื้อเพิ่ม 9.61 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 622.08 ตัน
-ผลสำรวจนักวิเคราะห์และเหล่าเทรดเดอร์ของรอยเตอร์ส พบว่า กว่า 38 ราย เชื่อว่าราคาทองคำในปี 2015 ยังคงต้องเผชิญแรงกดดันหากเฟดตัดสินใจประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย และคาดว่าราคาทองคำเฉลี่ยในปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 1,234 เหรียญ/ออนซ์
-เช้านี้ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.1353 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.1266 ยูโร/ดอลลาร์ เพราะได้รับแรงสนับสนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐฯ ขณะที่เมื่อวานนี้ธนาคารกลางสวิสเซอร์แลนด์ (SNB) ระบุว่า พร้อมเข้าแทรกแซงตลาดค่าเงินต่อไป เพื่อลดความผันผวนของค่าเงินสวิสฯ
-ทางด้านค่าเงินเยนเช้านี้แข็งค่าอยู่ที่ระดับ 117.82 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 118.47 เยน/ดอลลาร์ ขณะที่ดัชนีดอลลาร์เช้านี้อยู่ที่ระดับ 94.09 โดยปรับตัวลดลงจากเมื่อวานที่ระดับ 94.80
-เมื่อคืนนี้ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯค่อนข้างผันผวน แม้ว่าข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนมกราคมจะปรับตัวดีขึ้นสู่ระดับ 102.9 จุด ซึ่งใกล้แตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี ขณะที่ยอดขายบ้านใหม่ประจำเดือนธันวาคมฟื้นตัวขึ้น 11.6% สู่ระดับ 481,000 ยูนิต แต่ตลาดกลับตอบรับข้อมูลเชิงลบของสหรัฐฯมากกว่า อันได้แก่ ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ปรับตัวลดลงสู่ระดับ -3.4% ในเดือนธันวาคม และยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ไม่รวมภาคการขนส่งอยู่ที่ระดับ -0.8%
-อย่างไรก็ดี นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงจับตาไปยังผลการประชุมเฟดในวันนี้ที่จะประกาศในช่วงเวลาตี 2 (ตามเวลาไทย) ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าเฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำ 0.25%
และจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้
-เมื่อวานนี้ นายยานิส วารูเฟกิส นักวิชาการฝ่ายต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดของไอเอ็มเอฟและอียู ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงการคลังของกรีซ ซึ่งเขามีจุดยืนที่แข็งกร้าวในการยกเลิกมาตรการรัดเข็มขัดที่บังคับให้กรีซปฏิบัติตามเงื่อนไขเพื่อแลกกับความช่วยเหลือ จึงสร้างกระแสความกังวลครั้งใหม่ให้แก่นักลงทุนอีกครั้ง
-สถาบันจัดอันดับ มูดี้ อินเวสเตอร์ส กล่าวเตือนว่า อาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซ จากความไม่แน่นอนทางการเมือง หลังจากพรรคไซรีซาได้รับชัยชนะและต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัด จะส่งผลเชิงลบต่อความน่าเชื่อถือของประเทศและเพิ่มความเสี่ยงต่อสภาพคล่อง ฐานการเงิน ความเชื่อมั่นนักลงทุน และการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
-รัฐมนตรีการคลังของรัสเซีย ประกาศใช้แผนรับมือวิกฤตการเงิน หลังจากถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือสู่ระดับขยะที่ BB+โดยแผนการดังกล่าวจะส่งผลให้เกิดการระงับค่าใช้จ่ายต่างๆ เพื่อให้งบประมาณของประเทศกลับมาเกินดุลให้ได้ในปี 2016 นอกจากนี้รัฐบาลจะทำการปฏิรูปโครงสร้าง เพื่อไม่ให้นำทุนสำรองมาใช้เกินจำเป็น
-น้ำมันดิบ WTI ปิด +2.39% ที่ระดับ 46.23 เหรียญ/ออนซ์ เพราะได้รับแรงสนับสนุนหลังจากคการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์ รวมถึงเลขาธิการกลุ่มโอเปก ระบุว่า ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มจะปรับตัวขึ้นแตะระดับ 200 เหรียญ/บาร์เรล
-อย่างไรก็ดี นักลงทุนตลาดน้ำมันดิบกำลังจับตาไปยังท่าทีของซาอุดิอาระเบียต่อแนวโน้มน้ำมันตลาดโลก เนื่องจากเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังของซาอุดิอาระเบียมีการหารือเกี่ยวกับเสถียรภาพตลาดน้ำมันทั่วโลกร่วมกับรัสเซียและนอร์เวย์
-ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิด -1.65% เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐฯ รวมถึงผลประกอบการที่ย่ำแย่ของบริษัทเอกชน
-ตลาดหุ้นยุโรปปิด -1% เพราะได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทเอกชน ขณะที่ตลาดหุ้นกรีซยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมือง
-เช้านี้ตลาดหุ้นโตเกียวเปิด -0.86% ตามการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังข้อมูลยอดสินค้าคงทนออกมาแย่กว่าที่คาดการณ์
-นักบริหารเงิน ประเมินว่า ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.45-32.60 บาท/ดอลลาร์ โดยตลาดยังคงให้ความสำคัญกับการประชุมกนง. ที่คาดว่าจะมีการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2% และผลการประชุมเฟดที่จะเปิดเผยในคืนนี้เวลา 02.00น.
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญเมื่อคืน
Core Durable Goods Orders m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -0.7% ตัวเลขจริงที่ออกมาอยู่ที่ระดับ-0.8%
Durable Goods Orders m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -0.9% ตัวเลขจริงที่ออกมาอยู่ที่ระดับ -3.4%
CB Consumer Confidence ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 93.1 ตัวเลขจริงที่ออกมาอยู่ที่ระดับ 102.9
New Home Sales ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 431K ตัวเลขจริงที่ออกมาอยู่ที่ระดับ 481K
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนนี้
Federal Funds Rate ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.25% ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 0.25%
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำมีความเคลื่อนไหวผันผวนค่อนข้างมาก โดยเมื่อวานนี้ลงไปทำจุดต่ำสุดบริเวณ 1,280 เหรียญโดยประมาณ และดีดตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดประมาณ 1,297 เหรียญ ซึ่งตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่ออกมาไม่ดีได้แก่ Core Durable Goods Orders และ Durable Goods Orders ขณะที่ CB Consumer Confidence และ New Home Sales ออกมาดีขึ้น ซึ่งเป็นการเล่นตามข่าวค่อนข้างมากจึงทำให้ตลาด COMEX แกว่งค่อนข้างมากตามข่าวที่เข้ามา ขณะที่ SPDR ทำการสำรองทองคำเพิ่ม9.26 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 752.70 ตัน ซึ่งตลาดให้ความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับทางการเมืองของกรีซ หลังจากนายยานิส วารูเฟกิส นักวิชาการฝ่ายต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดของไอเอ็มเอฟและอียู ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงการคลังของกรีซ ซึ่งเขามีจุดยืนที่แข็งกร้าวในการยกเลิกมาตรการรัดเข็มขัด จึงอาจทำให้กรีซถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศลง
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำปรับเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นระยะสั้นอีกครั้ง หลังจากสามารถยืนเหนือ 1,280 เหรียญได้อีกครั้ง จึงทำให้การตกปรับฐานเหมือนจะสิ้นสุดไปแล้ว และมีโอกาสที่ราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นไปทดสอบ 1,300 เหรียญอีกครั้งหนึ่ง ตลาดคงให้ความสำคัญกับถ้อยแถลงของเฟดคืนนี้ว่าจะเป็นอย่างไรในช่วงเวลาตี 2 ตามเวลาไทย และจะเป็นตัวผลักดันอย่างรุนแรงต่อตลาดทองคำในคืนนี้ วันนี้ราคาจะเคลื่อนตัวในกรอบ 1,280-1,320 เหรียญ ขณะที่เงินบาทเองก็มีความผันผวนค่อนข้างมากหลังจากแข็งค่าลงมาบริเวณ 32.50 บาท/ดอลลาร์ และเช้านี้ปรับ 32.60 บาท/บาท หลังจากธนาคารกลางสิงคโปร์แสดงท่าทีปรับลดจุดยืนที่จะทำให้ค่าเงินตัวเองแข็งค่าจึงส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่า และจึงส่งผลสนับสนุนให้ราคาทองคำไทยปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ในช่วงนี้มีความผันผวนค่อนข้างมาก จึงแนะนำให้นักลงทุนใกล้ชิดกับพอร์ตการลงทุนให้ดี ซึ่งคงจะเห็นความผันผวนของราคาทองคำเช่นนี้อยู่เรื่อยๆ ซึ่งนักลงทุนควรรักษาสภาพพอร์ตให้เหมาะสมกับสภาพตลาดตลอดเวลาแบบ Mark-to-Market ไม่ใช้Leverage มากจนเกินไป
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
บริหารพอร์ตสมดุล ทำกำไรเป็นช่วงๆ เข้าออกไว ตามการแกว่งตัวของตลาด
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
บริหารพอร์ตสมดุล ทยอยปิดสถานะ ลดความเสี่ยง
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading
บริหารพอร์ตให้สมดุล เนื่องจากราคาทองคำในขณะนี้มีความผันผวน นักลงทุนจึงไม่ควรใช้ Leverage มากจนเกินไป
Gold Futures G15 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,900 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,100 บาท
Gold Futures J15 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,000 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,200 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง
ประชาสัมพันธ์:
1. MTS Gold เชิญลูกค้าสมาชิกเข้าร่วมงานสัมมนา “ทำกำไรในทองคำโดยใช้กราฟทางเทคนิค 3 ระดับ” ร่วมบรรยายโดย นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ โดยระดับที่ 1 จัดขึ้นในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2558 ณ สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น 12 เวลา 15.00-17.00น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม 02-770-7777
2. MTS Gold ประกาศปรับ Rate อัตราดอกเบี้ยเงินวางค้ำประกันของ Gold Spot และ Gold Futuresจากระดับ 0.90% สู่ระดับ 1.00% ต่อปี โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2558 เป็นต้นไปสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม 02-770-7777
3. นักลงทุนสามารถติดตามการวิเคราะห์ตลาดทองคำและตลาดอนุพันธ์ (ช่วงเช้า) กับ MTS Gold ได้ในรายการ “Look Forward” ทางช่อง TNN24 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 10.10-10.15น.
4. รายการ Gold Tonight by MTS Gold ปรับเปลี่ยนเวลาใหม่ให้เร็วขึ้น ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 21.00-21.05น. ทางช่อง Money Channel ตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค.58
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม: 02 770 7777
MTS Research
MTS Gold Group
Phone: 02-770-7777
Fax: 02-623-9366
Email: [email protected]
Website: http://www.mtsgold.co.th