นายวีรวัฒน์ แจ้งอยู่ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เธียรสุรัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ TSR ผู้นำการผลิตและจำหน่ายเครื่องกรองน้ำดื่มภายในครัวเรือน ภายใต้แบรนด์ ‘SAFE’ (เซฟ) เปิดเผยว่า ในปี 2558 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้จะเติบโตสูงถึง 1,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 25-30% จากปีที่ผ่านมา โดยมุ้งเน้นการรักษาคุณภาพการขายของพนักงาน และบริการหลังการขายแบบใหม่ๆ ขณะเดียวกันเตรียมพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาจำหน่ายเพิ่มขึ้น เพื่อให้ตอบโจทย์ทุกความต้องการของกลุ่มลูกค้าให้ควบคลุมมากยิ่งขึ้น ทั้งกลุ่มลูกค้าครอบครัวขนาดใหญ่, ครอบครัวขนาดเล็ก, สำนักงานออฟฟิต, คอนโดมิเนียม และเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ ที่อยู่ในพื้นที่ขายทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล และต่างจังหวัด โดยในไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัทจะมีสินค้าวางจำหน่ายมากถึง 9 รุ่น ได้แก่ P-Health , Super Alkaline Alkaline Plus , Alkaline Mini , UV Plus ,RO Mineral Plus ,RO Alkaline Plus , Ecomize และ Alkaline Deluxe ผ่าน 4 ช่องทางการขาย คือ พนักงานขายของบริษัท (Single level-Direct Sale), Modern trade , Online และพันธมิตรหรือตัวแทนจำหน่ายในต่างจังหวัด
นอกจากนั้น บริษัทยังเดินหน้าผลักดันรายได้จากช่องทางขายใหม่ๆ ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรทางการค้าใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภายหลังจากปี 2557 บริษัทได้เซ็นสัญญาความร่วมมือกับ บริษัท ออฟฟิศเมท จำกัด (มหาชน), บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด และบริษัท สยามไดกิ้นเซลส์ จำกัด โดยล่าสุด บริษัทได้เซ็นต์สัญญาแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องกรองน้ำร่วมกับบริษัท ส่งเสริมอุตสาหกรรมชนบท จำกัด และลงนามความร่วมมือในโครงการสนับสนุนให้คนไทยได้บริโภคน้ำดื่มสะอาดเพื่อสุขภาพกับสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชม ในการร่วมพัฒนาคุณภาพน้ำดื่มสะอาดเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับชุมชนไทยตามแผนงานสมาคมฯ ตลอดปี 2558 ทั้งนี้ในส่วนโมเดิร์นเทรดบริษัทจะเริ่มวางขายเครื่องกรองน้ำของบริษัทจำนวน 4 รุ่นในโฮมโปร 10 สาขาทั้งในกรุงเทพฯและปริมณฑลต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้
สำหรับภาพรวมตลาดต่างจังหวัดตั้งเป้าจะมีสัดส่วนรายได้ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ต่อต่างจังหวัดอยู่ระดับ 80:20 จากปัจจุบัน 90:10 พร้อมกันนี้บริษัทมีแผนจะขยายสาขาบริการให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ 14 สาขา เพื่อรองรับการขยายตัวดังกล่าว โดยเน้นการพัฒนาศูนย์บริการลูกค้าที่มีอยู่ 8 แห่ง ให้กลายเป็นสาขาบริการเต็มรูปแบบ ได้แก่ นครสวรรค์, นครราชสีมา, ชลบุรี, อุบลราชธานี, เพชรบุรี, สงขลา, ขอนแก่น และ ลพบุรี จากเดิมที่สาขาบริการอยู่ 6 สาขา ได้แก่ ร้อยเอ็ด, นครศรีธรรมราช, เชียงใหม่, พิษณุโลก, อุดรธานี และ ฉะเชิงเทรา และมีแผนการที่จะเปิดเพิ่มอีก 5 สาขาในปีนี้
“ปีนี้ เรามีแผนทำการตลาดเชิงรุกทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และตลาดต่างจังหวัด ให้มียอดขายเพิ่มขึ้นควบคู่กัน โดยตลาดต่างจังหวัดเราจะรุกมากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมายังมีสัดส่วนการขายที่น้อยอยู่มากเมื่อเทียบกับปริมาณครัวเรือนที่มีอยู่จริง”
นายวีรวัฒน์ กล่าวว่า บริษัทเตรียมดำเนินการเชิงพาณิชย์ในโรงงานแห่งใหม่บนพื้นที่ 9 ไร่ จ.ปทุมธานี ในเฟสแรกแล้ว ส่งผลให้ขณะนี้บริษัทมีความสามารถในการผลิตสินค้าเต็มกำลังสูงถึง 30,000 เครื่องต่อเดือน สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานของปี 2557 คาดว่าจะใกล้เคียงเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1,200 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อน