นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต. เปิดเผยว่า ก.ล.ต. ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการพัฒนาช่องทางและเครื่องมือทางการเงินเพื่อเอื้อให้ธุรกิจในกรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ ที่มีศักยภาพทั่วไทย โดยเฉพาะ SMEsซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศที่ปัจจุบันมีประมาณ 3 ล้านราย คิดเป็นประมาณ37% ของ GDP ให้สามารถเข้าถึงแหล่งทุนและใช้ประโยชน์จากตลาดทุนได้มากยิ่งขึ้น เพิ่มเติมจากแหล่งเงินทุนเดิมที่เคยใช้ เพื่อช่วยยกระดับประสิทธิภาพในการแข่งขันของ SMEs อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน
เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าในปัจจุบันส่งผลให้การสื่อสารและการทำธุรกรรมผ่านอินเทอร์เน็ตเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ Crowdfunding หรือการระดมทุนจากประชาชนรายย่อย ๆ หรือมวลชนผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ต (internet-based crowdfuning) กลายเป็นช่องทางระดมทุนที่ได้รับความนิยมในกลุ่ม SMEs และธุรกิจเกิดใหม่ และเติบโตต่อเนื่องอย่างมากในช่วงหลายปีมานี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกา กลุ่มสหภาพยุโรป รวมทั้งประเทศเทคโนโลยีชั้นนำในเอเชีย
ก.ล.ต. เห็นแนวโน้มการเติบโตและประโยชน์ของ Crowdfunding ต่อประเทศไทยใน 5 มิติ ทั้งต่อธุรกิจในการเข้าถึงแหล่งทุน ผู้ลงทุนมีทางเลือกในการลงทุนมากขึ้น การสร้างมูลค่าเพิ่มและนวัตกรรมใหม่ๆ ตลาดทุนเติบโตและมีคุณภาพ และประเทศชาติโดยรวมให้เกิดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ประชาชนมีรายได้สูงขึ้น สามารถพ้นจากกับดักประเทศรายได้ระดับปานกลาง โดยเปลี่ยนจากเศรษฐกิจฐานการผลิต (production-driven economy) สู่เศรษฐกิจที่มุ่งเน้นคุณค่าของสินค้า (value-driven economy)
งาน CrowdFunding Asia™ Thailand Summit 2015 ได้เชิญผู้แทนจากภาครัฐและภาคเอกชนทั้งไทยและต่างประเทศ เพื่อเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนความรู้ มุมมอง และประสบการณ์ตรงทั้งจากภาครัฐในฐานะผู้กำกับดูแลและพัฒนา และภาคเอกชนในฐานะผู้เชี่ยวชาญและผู้ที่ประสบความสำเร็จจากการระดมทุนผ่าน Crowdfunding นอกจากนี้ ยังมีภาคปฏิบัติที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบธุรกิจได้พบปะและนำเสนอความคิดใหม่ๆ ต่อนักลงทุนด้วย