GrabTaxi ผู้นำด้านแอพพลิเคชั่นเรียกแท็กซี่ที่ทันสมัยที่สุดของทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขอเน้นย้ำเรื่องการให้บริการที่ปลอดภัยและวางใจแก่ผู้โดยสารทุกๆท่าน
คุณวีร์ จารุนันท์ศิริ รองผู้จัดการประจำประเทศไทยกล่าวว่า GrabTaxi มีความมุ่งมั่นในการช่วยเหลือสังคม โดยการปรังปรุงคุณภาพชีวิตของคนขับแท็กซี่และผู้โดยสารในประเทศไทยให้ดีขึ้น และยังตั้งใจจะปฏิวัติวงการแท็กซี่ของไทยอีกด้วย
“เราไม่ได้เป็นเพียงแค่แอพพลิเคชั่นเรียกแท็กซี่เท่านั้น เรายังต้องการที่จะช่วยเหลือสังคมหลักๆสองประการคือ 1. ช่วยให้คนขับแท็กซี่รับรายได้มากขึ้น 2. ช่วยให้ผู้โดยสารรู้สึกปลอดภัยมากขึ้นโดยเฉพาะสุภาพสตรี ตั้งแต่ที่เราเปิดตัวในประเทศไทยในปลายปี 2556 เรามีจำนวนคนแท็กซี่ที่ให้ความสนใจเข้าร่วมกับเราเป็นจำนวนมาก และผู้โดยสารกว่า 70% ของเราเป็นผู้หญิง”
คุณวีร์ยังกล่าวอีกว่า GrabTaxi กำลังเป็นเหมือนสังคมหนึ่งที่เต็มไปด้วยคนขับแท็กซี่ที่เชื่อในการให้บริการที่ดีที่สุด เพื่อให้ผู้โดยสารมีประสบการณ์ที่ดีกลับไป
“คนขับแท็กซี่ของเราเป็นเหมือนคนในครอบครัว สนิทกันถึงขนาดมีแชทกรุ๊ปเลยนะครับ ทุกคนช่วยเหลือกันและกันทั้งในเรื่องอัพเดตจราจรและเส้นทางต่างๆ เราช่วยให้คนขับมีรายได้มากขึ้นโดยการให้เงินพิเศษเมื่อพวกเขาช่วยเรารับผู้โดยสารจากแอพพลิเคชั่น ซึ่งตรงนี้ก็ส่งผลดีต่อผู้โดยสารในเรื่องการได้รับบริการอีกด้วย”
“ผู้โดยสารสามารถวางใจได้ว่าคนขับของ GrabTaxi ทุกคนจะกดมิเตอร์ จะไม่มีใครทำให้ผู้โดยสารผิดหวังหรือแสดงกิริยาไม่เหมาะสมอย่างแน่นอน และที่สำคัญคือผู้โดยสารทุกๆท่านจะไปถึงที่หมายอย่างปลอดภัย คนขับแท็กซี่ของเราจะไม่มีการต่อรองราคาใดๆ เพราะเราตั้งใจจะให้การเรียกแท็กซี่ในทุกๆครั้งนั้นง่ายและปราศจากความกังวลทั้งกับคนขับและผู้โดยสารเอง นอกจากนี้ เรายังไม่มีนโยบายให้คนขับแท็กซี่คิดค่าบริการเพิ่มสำหรับผู้โดยสารที่มีสัมภาระ” คุณวีร์กล่าว
ทาง GrabTaxi มีขบวนการคัดเลือกคนขับอย่างละเอียด นอกจากโปรแกรมฝึกอบรมและการติดตามผลงานประจำวันซึ่งวัดผลจากความพึงพอใจของผู้โดยสารแล้ว คนขับทุกคนจะต้องมีใบขับขี่สาธารณะและรถจะต้องจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกอย่างถูกต้อง หากคนขับคนใดได้รับคำตำหนิ จะมีการคาดโทษไว้ จะมีเพียงคนขับที่ผ่านการประเมินโดยผู้โดยสารเท่านั้นที่สามารถให้บริการเป็นปกติได้ เพราะ Grabtaxi ถือว่าความปลอดภัยของผู้ใช้บริการเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
ทันทีที่ผู้โดยสารทำการเรียกรถ หน้าจอจะปรากฎแผนที่และจำนวนแท็กซี่ในพื้นที่รอบๆโดยทันที นอกจากนี้ยังสามารถทราบค่าโดยสารโดยประมาณ ทางระบบจะใช้เวลาเพียงแค่ 1 นาทีในการหาคนขับ และจะแสดงรูป, ชื่อ, เบอร์โทรศัพท์ และหมายเลขทะเบียนรถทันที ผู้ใช้บริการยังจะทราบเวลาที่คนขับจะมาถึงโดยประมาณ และตำแหน่งแบบเรียลไทม์อีกด้วย
อีกหนึ่งฟังค์ชั่นพิเศษของ GrabTaxi คือ “Share my ride” ซึ่งผู้โดยสารสามารถส่งตำแหน่งจีพีเอสของตนเองและข้อมูลคนขับให้เพื่อนหรือครอบครัวได้ทางโซเชี่ยลมีเดีย, ข้อความ sms หรืออีเมลล์ นอกจากนี้ ผู้โดยสารยังสามารถจองรถแท็กซี่ได้ล่วงหน้าตั้งแต่ 2 ชั่วโมงไปจนถึง 7 วันก่อนการเดินทาง
ตั้งแต่เริ่มเปิดตัวในปี 2555 แท็กซี่กว่าหมื่นคันได้เริ่มใช้แอพพลิเคชั่น GrabTaxi ในมาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, เวียดนาม, ไทย, สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย วันนี้ GrabTaxi มียอดดาวน์โหลดกว่า 3 ล้านครั้งทั่วภูมิภาคและผู้ใช้ประจำกว่า 620,000 คนต่อเดือน ปัจุบัน มีการเรียกแท้กซี่ 6 ครั้งในทุกวินาที GrabTaxi ประเทศไทยเปิดให้ใช้งานแล้วทั้งในกรุงเทพฯและพัทยา
เพื่อเป็นการมอบความปลอดภัยที่มากขึ้นให้แก่ผู้โดยสาร GrabTaxi กำลังดำเนินการทั้งในด้านปรับปรุงระบบและการให้บริการให้ดียิ่งขึ้น อีกไม่นาน ผู้ใช้ GrabTaxi จะได้พบกับฟีเจอร์การใช้งานใหม่ๆซึ่งจะทำให้การชำระค่าโดยสารและการระบุสถานที่ในภาษาต่างๆเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น