งานนี้เหล่าเซเลบริตี้พร้อมใจกันมาร่วมงานคับคั่ง ทั้ง กงพัฒน์ ศักดาพิทักษ์, ภูษิต พัฒนปราการ, จิตต์สิงห์ สมบุญ ,ภูภวิศ กฤตพลนารา, หทัยรัตน์ เจริญชัยชนะ, ซาร่า บอลล์, นาตาลี ดูเชียง, ชวลิต อรุณทัต, ธนวรรณ ธารา, ศิรประภา จิระบัณฑูร , อัชฌา เจริญรัศมีเกียรติ, อรชุมา ดุรงค์เดช, ชุติมา ดุรงค์เดช, ม.ล.รจนาธร ณ สงขลา , จิรเมศวร์ สุริวงศ์วรกุล, เป็นต้น
เบิร์ด-เอกชัย เจียรกุล แชมป์กีตาร์คลาสสิกระดับโลก เปิดเผยว่า “ที่มาของคอนเสิร์ตครั้งนี้ สืบเนื่องจากเบิร์ดไปได้แชมป์ GFA Guitar Foundation of America International Concert Artist Competition ซึ่งเป็นเวทีการแข่งขันกีตาร์คลาสสิกรายการใหญ่ที่สุดของโลก เป็นความภาคภูมิใจของตัวเบิร์ดเอง รวมถึงผู้ที่ให้การสนับสนุนทุกท่านโดยเฉพาะทางแสงโสม เพราะกว่าจะได้แชมป์นี้มามันไม่ง่าย เราก็ตั้งเป้าหมายไว้อีกสักสามถึงห้าปี แต่บังเอิญว่ามันมาเร็วกว่าที่คิด และยิ่งภูมิใจมากขึ้นด้วยว่าเราเป็นชาวเอเชียคนแรกที่ชนะในเวทีนี้ ซึ่งหลังจากนี้ รางวัลที่ได้รับคือการเป็นศิลปิน ได้รับสิทธิ์อัดแผ่นเสียงกับค่ายเพลงคลาสสิคชื่อดัง 2 แห่งคือ Naxos และ GHA พร้อมได้แสดงที่ Carnegie Hall ต้องเตรียมโชว์สำหรับออนทัวร์อีกว่า 50 คอนเสิร์ตหลักๆจะอยู่ที่ยุโรปและอเมริกา ซึ่งจะเริ่มประมาณกลางปีนี้ครับ”
โดยผู้ชมที่ได้มีส่วนร่วมในคอนเสิร์ตแสงโสม ครั้งนี้ กว่า 1 ใน 2,000 คน ถือเป็นผู้โชคดีมากๆ เพราะหลังจากนี้ใครที่ชื่นชอบในเสียงดนตรีของแชมป์กีตาร์คลาสสิกระดับโลกต้องเหินฟ้าตามไปดู ถึง คาร์เนกีฮอลล์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา!! ด้านบรรยากาศการแสดงนั้นยิ่งใหญ่สุดอลังการ เริ่มซีนเปิดตัว เบิร์ด เอกชัย ด้วยเสียงเพลงกีตาร์คลาสสิก Asturias, Guitar Concerto ก่อนจะจุดไฟฝันให้ทุกคนได้ตื่นกับเจ้าพ่อเพลงดิสโก้ บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์ หยุด, รักไม่ได้, เธอทั้งนั้น ซึ่งเปล่งเสียงร้องผ่านการบรรเลงกีตาร์สดๆ ของแชมป์โลก ไม่นาน “ดีว่า (DIVA) คุณภาพเสียงทรงพลังระดับแถวหน้าของเมืองไทย ” ก็ทนไม่ไหว ปรากฏตัวด้วยชุดสุดสง่างาม รัดเกล้า อามระดิษ จัดโชว์คุณภาพเสียงอันต้องทึ่งกันทั้ง ฮอลล์ ไปกับ บทเพลง ลมหายใจ , Broken Vow,New York New York ต่อด้วย อ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี ที่ได้รับการยอมรับว่า เป็นนักดนตรีที่มีความสามารถและความชำนาญอย่างมากในการเล่นดนตรีประเภทเครื่องเป่า โดยเฉพาะ ขลุ่ยไทย จนได้รับฉายาว่า "จอมยุทธขลุ่ย” กับเสียงขลุ่ยที่สุดไพเราะจับใจที่ร่วมประชันกับเสียงกีตาร์คลาสสิกระดับโลกของเบิร์ด ในบทเพลง เดือนเพ็ญ, ค้างคาวกินกล้วย ซีนนี้ทำเอาที่ผู้ชมในงานถึงขั้นขนลุกซู่ เมื่อได้สัมผัสสุนทรีย์แห่งเสียงดนตรีที่สุดพีค ไพเราะสนับหู ซึ่งนับว่าเป็นการหาฟังได้ยากมาก !!! ต่อด้วย โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ ที่สุดของเปียโน โชว์ ประชันในเพลง Summer Times, Moon Represent My Heart, Love Story, Pirate Of The Carribbean และต่อด้วย เพลงพระราชนิพนธ์ทั้ง 2 เพลง สายฝน, แสงเดือน คือแรงบันดาลใจ เป็นเพลงที่นำจุดเปลี่ยนมาให้กับชีวิตเบิร์ด เป็นบทเพลงพระราชนิพนธ์ทำให้เบิร์ดรู้จักกับกีตาร์คลาสสิก นับตั้งแต่วันนั้นจวบจนมาสู่ความสำเร็จในวันนี้
จากนั้น สิงโต นำโชค คว้ากีตาร์โปร่ง คู่ใจมาประชันกับแชมป์ดีกรีกีตาร์คลาสิกระดับโลก ในเพลง อยู่ต่อเลยได้ไหม ,อาย ต่อด้วย ป๊อด ธนชัย โชว์ลีลาแนวเพลงอินดี้ ร่วม ร้อง ไปกับฝีมือบรรเลงกีตาร์คลาสสิกแบบเข้ากั๊น เข้ากัน ในเวอร์ชั่นที่เบิร์ดดีไซน์ให้ใหม่!! ในเพลง ก่อน, ช่วงเวลาที่ดีที่สุด พร้อมปิดท้ายด้วยเพลง Cinema Paradiso และฉากประทับใจ แบบในคุณตราตรึงใจลืมไม่ลงกันเลยที่เดียว ศิลปินทุกท่านกลับขึ้นมาร้องบทเพลงสุดท้าย ส่งท้าย “ชัยชนะ” ให้กับกับเบิร์ด ความภาคภูมิใจที่เป็นคนไทยและเอเชียคนแรกที่สามารถแชมป์กีต้าร์คลาสสิกระดับโลกมาครองได้สำเร็จ ท่ามกลางความพยายาม พิสูจน์ได้เลยกับคำว่า “คนไทย…ตั้งใจทำอะไรไม่แพ้ชาติใดในโลก” เล่นเอาทุกคนน้ำตารื้น ปลื้มปริ่ม พร้อมใจ ลุกยืนขึ้นปรบมือกันลั่นสนั่นฮอลล์ ซึ่งเป็นภาพที่สุดแสนประทับอย่างมากในครั้งนี้
ท้ายสุด เบิร์ด-เอกชัย ที่กำลังจะก้าวไปเป็น “ศิลปินระดับอินเตอร์” อย่างเต็มตัว ได้ให้กำลังใจกับทุกคนที่มีฝันว่า “เบิร์ดเชื่อ และพูดทุกครั้งว่าสิ่งที่ได้มาในวันนี้ พรสวรรค์แค่ 1 % ที่เหลืออีก 99% คือความตั้งใจ หากคนเราตั้งใจทำอะไรแล้ว มีความมุ่งมั่น ให้เริ่มต้นทำตั้งแต่วันนี้ ทำสิ่งที่เรารัก เราจะรู้สึกดี ไม่เหนื่อยไปกับมัน อดทนและพยายาม เหมือนที่เบิร์ดทำ สักวันต้องสำเร็จแน่นอน ชัยชนะอยู่ครั้งหน้า เป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ”