นายชาญชัย กงทองลักษณ์ กรรมการอำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และแกนนำการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ของ บริษัท เอส 11 กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ S11 เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้เปิดขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) จำนวน 80 ล้านหุ้น ระหว่างวันที่ 11 – 13 กุมภาพันธ์ 2558 ที่ผ่านมา ในราคาเสนอขายที่ 5.30 บาท/หุ้น ปรากฏว่าหุ้นของ S11 ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนอย่างล้นหลามตั้งแต่วันแรกที่เปิดให้จอง และขายหมดเกลี้ยงทั้งจำนวน
“ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการเปิดให้จองหุ้นไอพีโอของ S11 ในครั้งนี้ มีนักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อหุ้นไอพีโอเข้ามาจำนวนมากเกินกว่าจำนวนที่เสนอขาย คาดว่ามาจากความเชื่อมั่นในธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตในอัตราที่โดดเด่นและรวดเร็ว ประกอบกับการที่ได้กำหนดราคาขายหุ้นไอพีโอที่ 5.30 บาท/หุ้น เป็นระดับราคาที่เหมาะสม เทียบเคียงกับภาวการณ์ของตลาดและคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกัน จึงถือว่าคุ้มค่าสำหรับการถือลงทุน ดังนั้น เชื่อว่านักลงทุนที่พลาดโอกาสจองซื้อหุ้นไอพีโอของ S11 ในวันจองซื้อ 3 วันที่ผ่านมา จะเข้ามาซื้อลงทุนในกระดานเทรดวันแรก วันที่ 25 กุมภาพันธ์นี้เพิ่มเติมอีก” นายชาญชัย กล่าว
นายสุรศักดิ์ เข็มทองคำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส 11 กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ S11 เปิดเผยว่า หุ้นไอพีโอของบริษัทฯ ได้รับความสนใจจองซื้อเข้ามาจำนวนมาก ผ่านการจัดจำหน่ายของบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นแกนนำการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ในครั้งนี้ พร้อมผู้ร่วมจำหน่าย อีก 2 แห่ง ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) โดยเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนรวมประมาณ 424 ล้านบาท จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และเพื่อใช้ต่อยอดในการดำเนินธุรกิจ
“ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณนักลงทุนที่เข้ามาจองซื้อหุ้นไอพีโอของ S11 จนได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อบริษัทฯ ซึ่ง S11 เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ มีจุดเด่นในเรื่องของผู้บริหารมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจนี้มากว่า 20 ปี มีความรู้และความเข้าใจในธรรมชาติของการทำธุรกิจให้สินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ รวมถึงมีความสามารถในการติดตามลูกค้า อีกทั้ง ที่สำคัญที่สุด คือความสามารถในการพัฒนาระบบงานได้ด้วยตนเอง เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการให้สินเชื่อแก่ลูกค้าเพิ่ม และช่วยเพิ่มศักยภาพการเติบโตอย่างชัดเจนในอนาคต นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้กำหนดนโยบายการจ่ายเงินปันผลไว้ไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ วางเป็นทั้งหุ้น Growth stock และ Dividend Stock สร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าให้กับนักลงทุนในระยะยาว จึงเชื่อว่าปัจจัยเหล่านี้ได้สร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน และมั่นใจว่าหลังเข้าทำการซื้อขายในวันที่ 25 กุมภาพันธ์นี้ S11 จะไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง” นายสุรศักดิ์ กล่าว