คุณประสาร มาลีนนท์ กรรมการบริหาร บริษัท สำนักข่าว บีอีซี จำกัด ประธานในพิธี ได้กล่าวว่า “เป็นที่ทราบกันดีว่าข้าวเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของไทย จัดเป็นพืชอาหารหลักที่สำคัญของคนในชาติ อีกทั้งการปลูกข้าวเป็นทั้งวิถีชีวิตและอาชีพของคนในชนบท แต่ชาวนาส่วนใหญ่ยังมีฐานะยากจน ซึ่งปัญหานี้นับเป็นจุดประสงค์สำคัญของโครงการRice Buddy ที่ต้องการให้ชาวนาขายข้าวได้ในราคาที่สูงขึ้น โดยมีเงื่อนไขว่าชาวนาที่เข้าร่วมโครงการต้องผลิตข้าวอินทรีย์ที่ปลอดภัยต่อสุขภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประทานข้าวที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ อีกทั้งโครงการนี้ยังเป็นการช่วยเหลือเด็กกำพร้า โดยจะรวบรวมเงินส่วนต่างทางการตลาดจากการขายข้าว กิโลกรัมละ 5 บาท เข้ากองทุนกล่องข้าวบุญ เพื่อนำไปซื้อข้าวบริจาคให้กับบ้านเด็กกำพร้าต่อไป”
คุณอัชฌา สุวรรณปากแพรก รองกรรมการผู้จัดการ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง3 กล่าวว่า “โครงการคู่บุญข้าว หรือ Rice Buddy มีการเปิดตัวโครงการอย่างไม่เป็นทางการเป็นครั้งแรก ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2557 ที่ จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อเป็นการส่งเสริมการปลูกข้าวอินทรีย์ และข้าวพันธุ์พื้นเมืองของแต่ละท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จัก ชาวนาที่จะเข้าร่วมโครงการ ต้องปลูกข้าวคุณภาพดี โดยจะได้รับส่วนต่างราคาที่ไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง กรณีข้าวเปลือกหอมมะลิ อินทรีย์จะขายได้ในราคาเกวียนละ 2 หมื่นบาท และส่วนต่างจากราคาขายกิโลกรัมละ 5 บาท จะรวบรวมเข้ากองทุนกล่องข้าวบุญ เพื่อนำไปซื้อข้าวบริจาคให้กับบ้านเด็กกำพร้า และอีกกิโลกรัมละ 5 บาท จะคืนกลับ ไปช่วยเหลือชาวนาไทย ส่วนผู้ซื้อข้าวRice Buddy จะซื้อได้ในราคากิโลกรัมละ 60บาท ซึ่งถือว่าถูกกว่าท้องตลาด ซึ่งในระยะยาวโครงการนี้จะเป็นแรงผลักดันได้ชาวนามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น อีกทั้งเป็นการช่วยเหลือและสร้างประโยชน์สุขให้กับทุกๆฝ่าย”
การบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้แบ่งหน้าที่เป็น 4 ส่วน เริ่มที่ บริษัท สำนักข่าว บีอีซี จำกัด มีหน้าที่ขับเคลื่อนกิจกรรมประชาสัมพันธ์โครงการและเป็นสะพานบุญเชิญชวนผู้บริโภคทั่วประเทศ ร่วมซื้อข้าวหอมมะลิอินทรีย์ในการช่วยเหลือชาวนา ผ่านรายการสื่อโทรทัศน์และวิทยุในเครือ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) รับหน้าที่เป็นผู้สนับสนุนการให้สินเชื่อ สหกรณ์เพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธ.ก.ส. จำกัด (สกต.) อีกทั้งสนับสนุนช่องทางการขายข้าวสาร Rice Buddy ผ่านระบบออนไลน์ (E-Commerce) ทางเว็บไซต์ ของ ธ.ก.ส. และประสานงานกับ สกต. ในการบริหารจัดการระบบคลังสินค้าและแคตตาล็อกออนไลน์ เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับและความต้องการของผู้บริโภค บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ทำหน้าที่จัดส่งข้าวสารที่ผู้บริโภคซื้อข้าวสารให้ถึงมือผู้รับปลายทางตามระยะเวลาการบริการตามปกติ โดยคิดค่าบริการ การจัดส่งข้าวสารในอัตราพิเศษของไปรษณีย์ไทย และ สหกรณ์เพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธ.ก.ส. จำกัด (สกต.) มีหน้าที่รับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาแล้วนำมาสีแปรสภาพ รวมถึงซื้อข้าวสารจากกลุ่มเกษตรกรแล้วนำมาบรรจุถุงเพื่อจัดจำหน่ายให้กับผู้บริโภค มีการจัดการระบบการซื้อขายข้าวตามโครงการ จัดเก็บข้อมูลการซื้อขายข้าวสาร และจัดสรรผลประโยชน์คืนชาวนาและการบริจาคเด็กกำพร้าตามโครงการที่กำหนดไว้
สำหรับงานบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือชาวนาโดยการมีตลาดรองรับผลผลิตข้าวที่แน่นอน ส่งตรงถึงมือผู้บริโภคโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ทำให้ชาวนามีรายได้เพิ่มขึ้นและมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พัฒนาการผลิตข้าวของชาวนาสู่มาตรฐานอินทรีย์ ทำให้ชาวนาและผู้บริโภคปลอดภัยจากการใช้สารเคมีและยาปราบศัตรูพืช เพื่อให้ผู้ที่มีจิตศรัทธาจะทำบุญได้สั่งซื้อข้าวจากชาวนาโดยตรง และรายได้ส่วนหนึ่งจะหักเข้ากองทุนนำไปบริจาคให้กับองค์กรการกุศลต่างๆ และเพื่อให้ผู้มีจิตอาสาช่วยเป็นสื่อกลางประสานงานการซื้อขายระหว่างผู้บริโภคกับชาวนาถือว่าเป็นสะพานบุญเชื่อมโยงการซื้อขายข้าวตามโครงการในครั้งนี้
สำหรับผู้ที่สนใจสั่งซื้อข้าว Rice Buddy สามารถสั่งซื้อข้าวอินทรีย์ผ่านระบบซื้อขายแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อีคอมเมิร์สของ ธ.ก.ส. ที่ www.sktbaacmaket.com หรือสั่งซื้อได้ที่สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. บุรีรัมย์ โทร 044-690255, 044-621772 และสามารถติดตามความเคลื่อนไหวและปริมาณยอดขายรวมในการสั่งซื้อได้ทางเว็ปไซต์ ครอบครัวข่าว3 www.krobkruakao.com หรือ www.becmutimedia.com