คนอีสานส่วนใหญ่ไม่รู้จักช่อง Money Channel เงินน้อยไม่กล้าลงทุนในหุ้น ถ้ามีเงินเอาไปทำธุรกิจดีกว่า

พุธ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๕ ๑๒:๑๘
อีสานโพล (E-Saan Poll) ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน (ECBER) คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เผยผลสำรวจเรื่อง "พฤติกรรมการลงทุนในตลาดหุ้นของชาวอีสาน” ผลสำรวจพบว่า คนอีสานส่วนใหญ่ไม่รู้จักช่องมันนี่ชาแน่ล ไม่สนใจข่าวตลาดหุ้น การลงทุนในหุ้นยังต่ำเพราะเงินมีไม่มากและกลัวขาดทุน ขณะที่เงินออมในธนาคารส่วนใหญ่อยู่ระหว่างไม่มีเลยไปจนถึงน้อยกว่า 50,000 บาท

ผศ.ดร.สุทิน เวียนวิวัฒน์ หัวหน้าโครงการอีสานโพล เปิดเผยว่า การสำรวจนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจเพื่อสำรวจพฤติกรรมการลงทุนในตลาดหุ้นของชาวอีสาน ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 5-8 กุมภาพันธ์ 2558 จากกลุ่มตัวอย่าง 1,076 ราย ในเขตพื้นที่ภาคอีสาน 20 จังหวัด

อีสานโพลได้สอบถามว่า ท่านเคยรับชมทีวีช่อง มันนี่ ชาแน่ล (Money Chanel) บ้างหรือไม่ กลุ่มตัวอย่างกว่าร้อยละ 68.0 ระบุว่า ไม่รู้จักเลย รองลงมาร้อยละ 22.3 ระบุว่าแทบจะไม่ได้ดู ร้อยละ 8.8 ระบุว่าดูบ้างเป็นบางคราว มีเพียงร้อยละ 0.9 ที่ดูบ่อย ๆ

สำหรับความสนใจต่อข่าวเศรษฐกิจที่เกี่ยวกับตลาดหุ้น กลุ่มตัวอย่างกว่าร้อยละ 51.7 ระบุว่าไม่สนใจเลย รองลงมาร้อยละ 45.6 ระบุว่าสนใจเล็กน้อย มีเพียงร้อยละ 2.7 ที่ระบุว่าสนใจมาก โดยคนที่อาศัยในเขตเทศบาลจะมีสัดส่วนคนที่สนใจข่าวตลาดหุ้นอย่างมาก มากกว่าคนที่อยู่นอกเขตเทศบาล

อีสานโพลสอบถามต่อไปว่า ท่านมีบัญชีลงทุนในตลาดหุ้นหรือไม่ กลุ่มตัวอย่างกว่าร้อยละ 80.0 ระบุว่าไม่มีและไม่สนใจลงทุน ร้อยละ 16.0 ระบุว่าไม่มีแต่มีแนวโน้มจะลงทุน ร้อยละ 4.0 ระบุว่ามีบัญชีลงทุนในตลาดหุ้น (รวมกรณีที่ไม่มีบัญชีแต่ฝากคนอื่นลงทุน เช่น คู่สมรสเล่นบัญชีเดียวกัน หรือ ญาติพี่น้องฝากลงทุนผ่านผู้ที่มีบัญชี)

สำหรับเหตุผลที่กลุ่มตัวอย่างไม่คิดที่จะลงทุนในตลาดหุ้น อันดับหนึ่ง ร้อยละ 39.3 ระบุว่าเงินมีไม่มาก รองลงมา ร้อยละ 24.4 ระบุว่ากลัวขาดทุน ร้อยละ 18.8 ไม่มีเวลาศึกษา ร้อยละ 14.1 ระบุว่าลงทุนอย่างอื่นได้ผลตอบแทนดีกว่า และอีกร้อยละ 3.4 มีความเห็นอื่นๆ คิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว ไม่ค่อยรู้จัก และไม่ทราบรายละเอียด

อีสานโพลได้สอบถามถึงจำนวนเงินออม ว่าท่านมีเงินออมในธนาคารบ้างหรือไม่ กลุ่มตัวอย่างกว่าร้อยละ 46.4 ระบุว่ามีเงินออมอยู่บ้างแต่มีน้อยกว่า 50,000 บาท รองลงมาร้อยละ 20.9 ระบุว่าไม่มีเงินออมเลย ร้อยละ 16.4 มีเงินออมอยู่ระหว่าง 50,000-99,999 บาท ร้อยละ 10.5 มีเงินออมระหว่าง 100,000 – 199,999 บาท ร้อยละ 3.3 มีเงินออมระหว่าง 200,000-499,999 บาท ร้อยละ 1.5 มีเงินออมระหว่าง 500,000-999,999 บาท และร้อยละ 1.0 มีเงินออม ตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป

ท้ายสุดอีสานโพลได้สอบถามว่า ถ้าท่านมีเงิน ท่านมักจะนำเงินไปลงทุนให้งอกเงยด้วยวิธีการใดมากที่สุด อันดับหนึ่งร้อยละ 44.1 ระบุว่าจะนำเงินไปลงทุนค้าขายหรือธุรกิจ รองลงมาร้อยละ 37.3 จะนำเงินไปฝากธนาคาร ร้อยละ 8.8 จะนำเงินไปลงทุนด้วยการเก็งกำไรอสังหาริมทรัพย์ ร้อยละ 4.1 จะนำเงินไปปล่อยกู้ ร้อยละ 3.4 จะนำเงินไปลงทุนด้วยวิธีอื่น ๆ เช่น ซื้อทอง ซื้อสัตว์มาเลี้ยง และร้อยละ 2.4 จะนำเงินไปลงทุนในตลาดหุ้น

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ