เรียกเสียงชื่นชมและรายได้ทางการค้าจากทั่วโลก ในงานมหกรรมหมู่บ้านนานาชาติโกลบอลวิลเลจดูไบ 2014-2015
นายอัครวุฒิ ตั้งศิริกุศลวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทเวก้า อินเตอร์เทรด แอนด์ เอ็กซิบิชั่น จำกัด (ดูไบ) ได้เปิดเผยว่าหมู่บ้านไทย2557-2558 มีพื้นที่ประมาณ2,716 ตร.เมตร ชูแนวคิด“เอกลักษณ์มรดกไทยอันล้ำค่า”“The Unique Treasure of Thailand”สตาร์ทแรงตั้งแต่เริ่มเมื่อ6 พฤศจิกายน 2557 และคาดว่าจะแรงปลายไปถึง เมษายน 2558 ตลอด 157วัน เรียกกระแสความสนใจจากนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจชาวอาหรับและชาวโลกให้เข้าหมู่บ้านไทยมากกว่าทุกปี เพราะตั้งอยู่บนทำเลใหม่ใจกลางงานมหกรรม ชิงความเป็นหนึ่งในป๊อบปูลาร์โหวดหมู่บ้านยอดนิยม ประชันหมู่บ้านนานาชาติกว่า30ประเทศในงานโกลบอล วิลเลจ ดูไบ 2557-2558 (Global Village Dubai 2014-2015) ซึ่งเป็นมหกรรมสินค้าและเอกลักษณ์วัฒนธรรมนานาชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลาง ปีนี้จัดบนพื้นที่มหาศาลกว่า1.6 ล้านตารางเมตร รวมลูกค้าในภูมิภาคตะวันออกกลางกลุ่มGCC ซึ่งมีกำลังซื้อสูง เศรษฐีอาหรับ นักธุรกิจ และนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกกว่า6ล้านคน คาดปีนี้ประเทศไทยได้เป็น The Best Pavilionรับทั้งกล่องรางวัลรวมทั้งกวาดรายได้กว่า700 ล้านบาทเข้าประเทศและออเดอร์ส่งออกอย่างต่อเนื่องจากการจับคู่ธุรกิจและเทรดการค้า ซึ่งที่ผ่านมาหมู่บ้านไทย ได้สร้างนักธุรกิจส่งออก และดำเนินธุรกิจในดูไบมากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารไทย ซูเปอร์มาเก็ต สปาไทย ฯลฯ
“หมู่บ้านไทยปีนี้มีคูหาแสดงสินค้าไทยมากกว่า120บูธ ผู้ประกอบการเข้าร่วมกว่า250ราย ทั้งสินค้าแฟชั่นเสื้อผ้า อัญมณีและเครื่องประดับ ของตกแต่งบ้าน สินค้าอุปโภคบริโภค อาหาร และบริการนวดไทยนวดสปา ฯลฯเราได้ทำเลใหม่ตั้งอยู่ใจกลางหมู่บ้านนานาชาติซึ่งเป็นจุดรวมนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจจากทั่วโลกที่ต้องแวะผ่านเพราะใกล้ร้านอาหาร ใกล้เวทีการแสดงกลางใหญ่ ใกล้สวนสนุก( Fun land) เป็นศูนย์กลางของทางผ่านของผู้ชมทั่วโลกที่เข้างานมกรรม โดยจะถูกดึงดูดให้เข้าหมู่บ้านไทยที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมไทยที่งดงามยิ่งใหญ่ จำลองรูปแบบ “พระบรมมหาราชวัง” และมีการจัดสรรพื้นที่ใช้สอยอย่างลงตัว สามารถทะลุผ่านถึงกันได้หมดทำให้ไปที่ไหนได้อย่างสะดวก มีการพัฒนาซุ้มประตูทางเข้าให้มีขนาดมหึมาสูงตระหง่านอลังการกว่าทุกปี ด้านหน้าเป็นมุมพักผ่อน และประชาสัมพันธ์ ด้านขวาเป็นคูหานวดแผนไทยขนาดใหญ่ ด้านในจัดเป็นพื้นที่การแสดงใหญ่มีการแสดงสันทนาการ ทั้งศิลปวัฒนธรรม การแสดงนาฏศิลป์และการละเล่น การแสดงดนตรีไทย การสอนพูดภาษาไทยอย่างง่ายๆ สอนศิลปะการเพ้นท์ร่ม ถือเป็นแม่เหล็กดึงดูดเรียกผู้ซื้อนานาชาติแวะชมคูหาแสดงสินค้าและบริการของไทย ตลอดจนซุ้มอาหารไทย ผลไม้ไทย ขนมไทย และบริการต่างๆเช่นสปา นวดแผนไทย ฯลฯ” นายอัครวุฒิกล่าว
“เราจะมีกิจกรรมสร้างความสุขทุกๆวันตลอดระยะเวลา 157 วัน ที่จัดงานแสดงสินค้า มีทั้งกิจกรรมการแสดงและสันทนาการ และกิจกรรมโปรโมชั่นพิเศษWin a trip to Thailand โปรโมทท่องเที่ยวไทย และการไฮไลท์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพร่วมกับโรงพยาบาลในเมืองไทยจัดกิจกรรม Medical Tourism ซึ่งเป็นแคมเปญตรวจสุขภาพฟรีที่เมืองไทย ในแต่ละปีหมู่บ้านไทยในดูไบ จะได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐของไทยอาทิ ผู้แทนการค้าไทย ประจำสำนักงานดูไบ ททท.ดูไบ สถานกงสุลไทยในดูไบ ฯลฯและองค์กรต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชนในดูไบให้ความร่วมมืออย่างดียิ่ง ทั้งการประสานการจับคู่ธุรกิจ การเยี่ยมชมดูงาน” นายอัครวุฒิกล่าวเสริม
นายอัครวุฒิเปิดเผยต่อไปว่า บริษัทเวก้า อินเตอร์เทรด แอนด์ เอ็กซิบิชั่น จำกัด(ดูไบ) เป็นออแกนไนเซอร์ที่ได้รับเลือกให้เป็นผู้จัดหมู่บ้านไทยในมหกรรมหมู่บ้านนานาชาติโกลบอล วิลเลจดูไบตั้งแต่พศ.2546 เริ่มด้วยพื้นที่เพียง1,500 ตารางเมตร มีผู้ประกอบการเพียง41ราย แต่ประสบความสำเร็จเป็นที่กล่าวขวัญถึงเอกลักษณ์ไทยที่โดดเด่น สร้างวิวัฒนาการและต่อยอดสู่การจัดงานแสดงสินค้าให้กับนานาชาติในภูมิภาคตะวันออกกลางถึงปัจจุบันนี้
นครรัฐดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี เป็นศูนย์รวมบริการภาคการเงิน การค้าและการเดินทาง ประดุจสะพานที่เชื่อมต่อภูมิภาคทั่วโลก ยูเออี ถือเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทยในภูมิภาคตะวันออกกลาง ในแต่ละปี จะมีนักท่องเที่ยวจากยูเออีเดินทางมาไทย ประมาณ150,000 คน สร้างรายได้มหาศาลจากการท่องเที่ยวและการใช้บริการต่างๆที่เกี่ยวเนื่องทั้งทางการแพทย์ การดูแลรักษาสุขภาพอนามัย (Medicare) บริการที่พักอาศัย การช้อปปิ้งจับจ่ายใช้สอยและการบริโภคตลอดช่วงเวลาที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย โดย“หมู่บ้านไทย”ในแต่ละปี ถือเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในการเชื่อมต่อนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจจากยูเออีให้มีความประทับใจและชื่นชอบเมืองไทยและเกิดการเจรจาธุรกิจการค้า และการเดินทางมาท่องเที่ยวไทย นำมาซึ่งรายได้การส่งออก การค้าปลีก และภาพลักษณ์ที่ดีงามของไทยต่อสายตาชาวดูไบและกลุ่มประเทศอาหรับ