ตามเงื่อนไขข้อตกลงการค้ำประกันซึ่งบังคับใช้ภายใต้กฎหมายของประเทศญี่ปุ่น ผู้ค้ำประกันจะให้การค้ำประกันเต็มจำนวนโดยไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนได้สำหรับหุ้นกู้ที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตดังกล่าว โดยผู้ค้ำประกันพร้อมที่จะชำระหนี้ให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้ภายใต้ข้อตกลงการค้ำประกันในกรณีที่ TTL ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด นอกจากนี้ หากมีการควบรวมหรือการครอบงำกิจการของ TC-Lease บริษัทใหม่ที่เกิดขึ้นหลังการควบรวมกิจการหรือบริษัทที่เข้าครอบงำกิจการของ TC-Lease จะต้องรับภาระผูกพันในการค้ำประกันหุ้นกู้ดังกล่าวด้วย และในกรณีที่ TC-Lease ไม่สามารถจ่ายชำระหนี้ได้ตามกำหนดหลังจากได้รับหนังสือบอกกล่าวแล้ว ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้สามารถดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ค้ำประกัน ณ ศาลในประเทศญี่ปุ่นเพื่อฟ้องร้องเรียกเงินที่ผิดนัดชำระหนี้คืนได้ โดยที่ภาระการค้ำประกันนี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขหรือเพิกถอนโดยปราศจากมติโดยคะแนนเสียงข้างมากไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นกู้
อันดับเครดิตของ TC-Lease ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันหุ้นกู้ได้รับแรงหนุนจากสถานะทางธุรกิจในประเทศญี่ปุ่น โดยบริษัทเป็นหนึ่งในผู้นำในธุรกิจเช่าการเงินของประเทศญี่ปุ่น TC-Lease ยังมีการกระจายตัวทางภูมิศาสตร์โดยขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศด้วย ณ สิ้นเดือนกันยายน 2557 TC-Lease มีสินทรัพย์รวม 2.9 ล้านล้านเยน โดยสินทรัพย์เพื่อการดำเนินงานประกอบด้วยสินทรัพย์ให้เช่าและสินเชื่อจากการผ่อนชำระจำนวน 2,010 พันล้านเยน ซึ่งคิดเป็น 68.9% ของสินทรัพย์รวม ตามด้วยสินทรัพย์จากธุรกิจทางการเงินจำนวน 617 พันล้านเยน หรือคิดเป็น 21% ของสินทรัพย์รวม และสินทรัพย์จากธุรกิจอื่น ๆ อีก 7 พันล้านเยน หรือคิดเป็น 0.2% ของสินทรัพย์รวม
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” ของหุ้นกู้มีการค้ำประกันของ TTL สะท้อนถึงคุณภาพเครดิตของผู้ค้ำประกันคือ TC-Lease ซึ่งได้รับอันดับเครดิตที่ระดับ “A+“ ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” จาก JCR และอันดับเครดิตที่ระดับ “A” แนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” จาก R&I แนวโน้มอันดับเครดิตยังสะท้อนถึงการปรับตัวที่ดีขึ้นของผลการดำเนินงานทั้งในด้านธุรกิจและการเงินของ TC-Lease ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา รวมถึงความสามารถในการดำรงสถานะทางการตลาดและการเงินเอาไว้ได้ในระยะกลางด้วย
อันดับเครดิตและหรือแนวโน้มอันดับเครดิตสำหรับหุ้นกู้มีการค้ำประกันของ TTL อาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหรือลดลงในกรณีที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอันดับเครดิตในระดับสากล (ระบบ International Scale) ของ TC-Lease ทั้งนี้ ตามเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตของทริสเรทติ้งระบุว่า การเปลี่ยนแปลงอันดับเครดิตในระบบ International Scale 1 ระดับไม่มีผลที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอันดับเครดิตในระดับประเทศหรือในระบบ National Scale เท่ากับ 1 ระดับเสมอไป
ในวันที่ 1 เมษายน 2552 TC-Lease ได้รับการก่อตั้งโดยการควบรวมกิจการระหว่าง Century Leasing System, Inc. และ Tokyo Leasing Co., Ltd. ปัจจุบันผู้ถือหุ้นใหญ่ของ TC-Lease ประกอบด้วย Mizuho Group ซึ่งถือหุ้น 35.3% และ ITOCHU Corporation ถือหุ้น 25%
TC-Lease มีธุรกิจที่หลากหลายมากขึ้นหลังจากการควบรวมกิจการ โดยบริษัทเติบโตและปรับสถานะทางธุรกิจและการเงินมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่รอบปีบัญชี 2553 (เมษายน 2553-มีนาคม 2554) ถึงรอบปีบัญชี 2556 สินทรัพย์รวมเติบโตที่ระดับ 2.4% และ 3.5% ในรอบปีบัญชี 2553 และ 2554 ตามลำดับ และเติบโตขึ้นมากที่ระดับ 9.1% และ 17.0% จนสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้นถึงระดับ 2.5 ล้านล้านเยนในรอบปีบัญชี 2555 และ 2.9 ล้านล้านเยนในรอบปีบัญชี 2556 กำไรสุทธิก็ปรับเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน โดยเพิ่มขึ้น 10.8% ในรอบปีบัญชี 2554 10.5% ในรอบปีบัญชี 2555 และ 14.2% ในรอบปีบัญชี 2556 หรือเพิ่มขึ้นจาก 24 พันล้านเยนในรอบปีบัญชี 2553 เป็น 33 พันล้านเยนในรอบปีบัญชี 2556 อย่างไรก็ตาม ณ สิ้นเดือนกันยายน 2557 ยอดสินทรัพย์รวมของ TC-Lease คงที่อยู่ที่ระดับ 2.9 ล้านล้านเยน ขณะที่กำไรสุทธิสำหรับงวด 6 เดือนเท่ากับ 17 พันล้านเยน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนราว 5.8%
TC-Lease มีการก่อหนี้ที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาด ในขณะเดียวกันก็ยังมีความไม่สอดคล้องกันในอายุของสินทรัพย์และหนี้สินอยู่จำนวนหนึ่งด้วย อย่างไรก็ตาม TC-Lease ได้ลดความเสี่ยงด้านสภาพคล่องโดยการจัดการสินทรัพย์และหนี้สินอย่างระมัดระวัง นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับการสนับสนุนทางด้านการเงินจากธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง โดยเฉพาะจากผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทและธนาคารแม่ คือ Mizuho Bank
TC-Lease ได้เพิ่มศักยภาพการแข่งขันในธุรกิจลีสซิ่ง รวมทั้งยังส่งเสริมธุรกิจการให้บริการทางการเงิน และขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศด้วย บริษัทได้ขยายธุรกิจลีสซิ่งรถยนต์อย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศญี่ปุ่นและต่างประเทศ ในรอบปีบัญชี 2556 สินทรัพย์ดำเนินงานของบริษัทลูกในต่างประเทศของ TC-Lease มีจำนวน 170 พันล้านเยน ซึ่งคิดเป็น 6.4% ของสินทรัพย์ดำเนินงานรวมของ TC-Lease ในขณะที่ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2557 สินทรัพย์ดำเนินงานของบริษัทลูกในต่างประเทศของ TC-Lease ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 197 พันล้านเยน หรือคิดเป็น 7.3% ของสินทรัพย์ดำเนินงานรวมของบริษัท
จากแผนธุรกิจในปัจจุบัน TC-Lease ให้ความสำคัญในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยผ่าน TTL ซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2546 โดยทั้ง TC-Lease และ TTL ต่างก็เล็งเห็นแนวโน้มที่ดีของธุรกิจเช่าซื้อและเช่าการเงินเครื่องจักรและอุปกรณ์ในประเทศไทย ซึ่ง TTL มีประวัติที่ยาวนานในฐานะเป็นผู้ให้บริการเช่าการเงินเครื่องจักรและอุปกรณ์ในประเทศไทย นอกจากนี้ TTL ยังมีความร่วมมือที่ยาวนานกับ บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (TISCO) โดย ปัจจุบัน TTL เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง TISCO และ TC-Lease ซึ่งถือหุ้นฝ่ายละ 49% ใน TTL ในขณะที่อีก 2% ถือโดย Sompo Japan Nipponkoa Brokers (Thailand) Co., Ltd. (SJNB)
TTL ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อและเช่าการเงินเครื่องจักรและอุปกรณ์ ทั้งนี้ สินเชื่อของ TTL เติบโตขึ้นมากถึง 46% และ 28% จาก 3,404 ล้านบาทในปี 2554 เป็น 4,967 ล้านบาทในปี 2555 และ 6,373 ล้านบาทในปี 2556 TC-Lease และ TISCO ได้แสดงให้เห็นถึงพันธะสัญญาที่แข็งแกร่งในการสนับสนุนทั้งทางด้านธุรกิจและการเงินแก่ TTL ทั้งนี้ ภายใต้สัญญาร่วมทุน TC-Lease และ TISCO ได้ร่วมกันให้ความรู้ที่ครอบคลุมการดำเนินงาน การจัดการความเสี่ยง และการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่แก่ TTL การให้การค้ำประกันหนี้ซึ่งรวมถึงหุ้นกู้ของบริษัทก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการให้การสนับสนุนทางด้านการเงินที่บริษัทได้รับในฐานะบริษัทลูกของทั้ง TC-Lease และ TISCO การสนับสนุนที่แข็งแกร่งจากบริษัทแม่คาดว่าจะมีอย่างต่อเนื่องในอนาคต ซึ่งสอดคล้องกับความมุ่งมั่นในการขยายธุรกิจในต่างประเทศของ TC-Lease โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย และการสนับสนุนดังกล่าวยังสอดคล้องกับกลยุทธ์ของ TISCO ในการให้บริการแก่ฐานลูกค้ารายใหญ่ของบริษัทด้วย
บริษัท ทิสโก้ โตเกียว ลีสซิ่ง จำกัด (TTL)
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
TTL159A: หุ้นกู้มีการค้ำประกันในวงเงินไม่เกิน 350 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2558 AA+
TTL179A: หุ้นกู้มีการค้ำประกันในวงเงินไม่เกิน 650 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2560 AA+
หุ้นกู้มีการค้ำประกันในวงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2561 AA+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable