ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม ส.อ.ท. ส่องทิศทางสถานการณ์น้ำมัน ปี’58 ชี้ จากข้อมูลล่าสุดอุปสงค์ใกล้เคียงอุปทานคาดว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ น่าจะอยู่ในช่วง 50 - 70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

อังคาร ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๕ ๑๔:๓๒
นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงแนวโน้มและสถานการณ์ของน้ำมันโลกในปี 2558 ว่า ราคาน้ำมันดิบ ดูไบ น่าจะมีราคาอยู่ในช่วง 50 - 70 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ซึ่งปรับลดลงอย่างมากจากปี 2557 ที่ราคาดูไบเฉลี่ย 97 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล จากข้อมูลล่าสุดคาดว่าอุปสงค์น้ำมันดิบจะขยายตัวที่ระดับ 9 แสนบาร์เรลต่อวัน โดยมีความต้องการหลักจากเอเชีย สำหรับอุปทานคาดว่าจะเพิ่มขึ้นในระดับใกล้เคียงกับอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่มาจากผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกโดยเฉพาะ สหรัฐฯ ที่มีการผลิตน้ำมันดิบจากชั้นหินดินดาน (Shale Oil) ในขณะที่มีโรงกลั่นใหม่เพิ่มขึ้นทั้งจากตะวันออกกลางและภูมิภาคเอเชียราว 1.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน และคาดว่าจะมีโรงกลั่นเก่าปิดตัวลงกว่า 3 แสนบาร์เรลต่อวัน ทำให้กำลังการกลั่นสุทธิที่เพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบดูไบน่าจะทรงตัว อยู่ที่ระดับ 50-60 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลในช่วงครึ่งปีแรก ขณะทีค่าการกลั่นก็น่าจะทรงตัวอยู่ในระดับที่ดี

หลังจากนั้นมีความเป็นไปได้ที่ราคาน้ำมันดิบดูไบจะปรับเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังอยู่ที่ระดับ 60-70 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นผลมาจาก การชะลอการลงทุนของแหล่งผลิตน้ำมันดิบที่มีต้นทุนสูงและไม่คุ้มทุนที่ระดับราคาในปัจจุบัน จากทิศทางราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มสูงขึ้นในปัจจุบันทำให้ผู้ค้าน้ำมันทำการเช่าเรือเก็บน้ำมันลอยลำกลางทะเล (Floating Storage) เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องจนอยู่ที่ระดับ 60 ล้านบาร์เรลในเดือนมกราคม

สำหรับผลกระทบราคาน้ำมันต่อเศรษฐกิจโลกโดยรวม จากราคาน้ำมันที่ปรับลดลงอย่างมาก คาดว่าจะช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจโลกเติบโตในอัตราที่ดีขึ้นในปี 2558 โดยเฉพาะกลุ่มประเทศที่นำเข้าน้ำมันสุทธิ ไม่ว่าจะเป็นสหภาพยุโรป จีน ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ ซึ่งล้วนเป็นเขตเศรษฐกิจขนาดใหญ่ รวมทั้งประเทศไทยเองด้วย ยกเว้นกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันที่ได้รับผลกระทบทางลบ เช่น ประเทศในตะวันออกกลาง และ รัฐเซีย เป็นต้น

ผลกระทบกับอุตสาหกรรมการกลั่นน้ำมันในประเทศ

คาดว่าปีนี้ อุตสาหกรรมการกลั่นน้ำมันในประเทศ น่าจะปรับตัวดีขึ้น จากการคาดการณ์เศรฐกิจที่เติบโตสูงขึ้น อุปสงค์น้ำมันสำเร็จรูปจะเพิ่มมากขึ้นจากราคาที่ปรับตัวลดลง อีกทั้งราคาน้ำมันดิบที่คาดว่าจะสูงขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังซึ่งจะทำให้มีกำไรจากสต็อคน้ำมัน นอกจากนี้การที่ราคาน้ำมันดิบลดลง ทำให้ใช้เงินทุนหมุนเวียน (Working Capital) น้อยลงช่วยลดค่าใช้จ่ายทางการเงิน ประกอบกับค่าการกลั่นที่คาดว่าจะดีขึ้น จากการที่ราคาน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดภูมิภาคปรับตัวลงช้ากว่าการปรับลดลงของราคาน้ำมันดิบ ตลอดจนการฟื้นตัวดีขึ้นของเศรฐกิจในภูมิภาค

สำหรับปัจจัยที่ต้องจับตามองในปี 2558 คือการปฎิรูปพลังงาน ที่มีวัตถุประสงค์ให้ราคาพลังงานสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ซึ่งอาจจะมีผลกระทบต่อปริมาณความต้องการน้ำมันสำเร็จรูปชนิดต่างๆภายในประเทศอย่างมีนัยสำคัญ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๐:๓๔ ดรีมมี่ ร่วมด้วยช่วยฟื้นฟูผู้ประสบภัยหลังน้ำลด สมทบทุน-มอบสินค้าอุปโภคบริโภค และของใช้จำเป็น รวมมูลค่ากว่า 300,000
๐๕ พ.ย. กทม. เฝ้าระวังฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรง เข้มตรวจสอบความแข็งแรงอาคารและป้ายโฆษณา
๐๙:๓๗ EXIM BANK แถลงผลการดำเนินงานเดือนมกราคม-กันยายน 2567 ปลดล็อกศักยภาพผู้ประกอบการไทยสู่เวทีโลก สร้างโลกเติบโตยั่งยืน
๐๙:๑๐ ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น ร่วมออกบูธในงาน Pet Fair Southeast Asia 2024 นำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง
๐๙:๒๗ มิลเลนเนียม ออโต้ กรุ๊ป กระตุ้นความเร้าใจเต็มสูบ กับ BMW 220i Gran Coupe M Sport ฟรีชุดแต่ง M Performance มูลค่าเกือบ 100,000 บาท จัดให้ในราคาพิเศษ 1.99 ล้านบาท เฉพาะที่โชว์รูม BMW Millennium
๐๙:๓๖ CMC ตอกย้ำความสำเร็จส่งท้ายปี ในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 46 ยอดจอง 145 ยูนิต มูลค่า 320 ล้านบาท
๐๙:๕๑ โพชงพลัส เครื่องดื่มสมุนไพร คว้ารางวัล BUSINESS PRODUCT OF THE YEAR AWARDS 2024
๐๙:๓๒ หุ้นกู้ RT ครั้งที่ 1/67 วันแรกกระแสตอบรับดี นักลงทุนสถาบัน-รายใหญ่ จองซื้อคึกคัก
๐๙:๔๘ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ เปิดปรากฏการณ์ช้อป 'GREEN RETAIL STORE' สาขาสระบุรี แห่งที่ 33 ชู 'Zero Energy Building'
๐๙:๔๑ 8 หน่วยงานเซ็น MOU เพื่อดำเนินการร่วมกันด้านพลังงาน คมนาคม และสภาพภูมิอากาศ ภายใต้โครงการ TGC EMC ของเยอรมนี