บลจ.เมย์แบงก์ เตรียมรุกเพิ่มตัวแทนขาย หวังเจาะฐานนักลงทุนเมืองหลวง ดัน AUM ปีนี้แตะ 6,000 พันลบ.

อังคาร ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๕ ๑๔:๕๐
เมย์แบงก์เอเอ็ม เผยแผนงานปี 58 เร่งเพิ่มช่องทางขายผ่านตัวแทนอีกเท่าตัว พร้อมออกกองทุนใหม่ ทั้งหุ้นใน - ต่างประเทศและกองทุนอีทีเอฟ เพื่อสร้างทางเลือกและเพิ่มโอกาสการลงทุนให้นักลงทุน พร้อมตั้งเป้าปี 58 สินทรัพย์ภายใต้การบริหารแตะ 6,000 ล้านบาท ปลื้มกองทุนอีทีเอฟต่างประเทศ 4 กองทุนผลงานชนะหุ้นไทย ชี้ปีนี้แนวโน้มลงทุนนอกสดใส หลังสภาพคล่องยังมีอยู่มาก แต่เตือนจับตา 5 ปัจจัยเสี่ยงชี้ชะตาการลงทุนปีแพะ

ดร.ตรีพล ภูมิวสนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า แผนงานของบริษัทในปี 2558 เมย์แบงก์มุ่งเป็นกองทุนที่ช่วยเพิ่มโอกาสทางการลงทุนผ่านการลงทุนต่างประเทศ โดยมีแผนงานขยายฐานการกระจายสินค้าสู่นักลงทุน เช่น เพิ่มจำนวนตัวแทนขาย (Selling Agent) อีกเท่าตัวจากปัจจุบันมีตัวแทนขายที่เป็นสถาบันทั้งหมด 7 ราย นอกจากนี้ บริษัทมีแผนออกกองทุนใหม่อีก 5 กอง เช่น กองทุนตราสารทุนในประเทศ ตราสารการเงินต่างประเทศและกองทุนอีทีเอฟ เป็นต้น โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารไว้ที่ 6,000 พันล้านบาท

"ผมเชื่อว่า การที่เมย์แบงก์มีพันธมิตรที่แข่งแกร่งโดยเฉพาะตัวแทนขาย ประกอบกันผลิตภัณฑ์กองทุนที่มีศักยภาพและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่น จะดึงดูดความสนใจและผลักดันให้แผนงานเป็นไปตามเป้าหมาย 5 ปีที่วางไว้ได้" ดร.ตรีพลกล่าว

สำหรับแผนการออกองทุนใหม่นั้น บริษัทจะให้ความสำคัญในการเลือกกองทุนที่เหมาะกับสถานการณ์ในปัจจุบันที่ตลาดการเงินยังมีความไม่แน่นอน โดยจะเน้นกองทุนที่มีการกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ และมีกลยุทธ์การลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดีอย่างสม่ำเสมอ ภายใต้ความผันผวนที่เหมาะสม สำหรับกองทุนตราสารทุนในประเทศ จะเน้นลงทุนในหุ้นที่มีศักยภาพการเติบโตในช่วงราคาที่เหมาะสม และสำหรับกองทุนอีทีเอฟ เรายังคาดว่าจะออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า เบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มเสนอขายกองทุนรวมกองแรกของปีภายในเดือนพฤษภาคมนี้

"กองทุนอีทีเอฟต่างประเทศทั้ง 4 กองทุนของบริษัทที่เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ถือว่าผลงานดีกว่าตลาด หากเทียบจากราคาปัจจุบันพบว่า กองทุน MJP (ญี่ปุ่น) ผลตอบแทนอยู่ที่ 5.44%* และกองทุน MEM (ตลาดเกิดใหม่) 1.72%* ขณะที่ผลตอบแทนของตลาดหุ้นไทย 0.35%* แสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของการกระจายการลงทุน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในระยะยาว เมย์แบงก์จะไม่หยุดนิ่งในการสรรหาผลิตภัณฑ์การลงทุนที่แตกต่างเพื่อเพิ่มโอกาสให้นักลงทุน" (* ตั้งแต่จัดกองทุน 15 ธ.ค.2557 - 20 ก.พ.2558)

นอกจากนั้นในด้านของ กองทุนส่วนบุคคลยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้ามีความต้องการสูง ในปีที่ผ่านมานักลงทุนจำนวนมากไว้วางใจให้เมย์แบงก์บริหารเงินกองทุนเพิ่มขึ้น โดยในปี 2558 บริษัทมีแผนที่จะทำการพัฒนาระบบสารสนเทศซึ่งคาดว่าจะดำเนินการเสร็จภายในไตรมาสที่ 2 ทำให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ดร.ตรีพล กล่าวถึงภาพรวมการลงทุนในปี 2558 ว่าจากนี้ถึงปลายปี ทิศทางตลาดหุ้นไทย น่าจะ ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อีกไม่มาก เนื่องจากตลาดรอความชัดเจนจากการใช้จ่ายของภาครัฐ และราคาอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง ขณะที่ตลาดหุ้นต่างประเทศปีนี้ยังมีแนวโน้มที่ดี เนื่องจากสภาพคล่องในระบบยังมีอยู่สูงและยังได้รับประโยชน์จากการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยตลาดเกิดใหม่ เช่น จีนจะยังเติบโตได้ดีจากผลประกอบการที่ดีขึ้นจากปีที่ผ่านมาและราคายังอยู่ในระดับที่ไม่แพงเมื่อเปรียบเทียบกับผลประกอบการในปีนี้ สำหรับตลาดหุ้นต่างประเทศที่น่าสนใจคงเป็นตลาดญี่ปุ่น เพราะได้รับประโยชน์จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของอาเบะ แต่ความผันผวนของค่าเงินยังเป็นปจจัยเสี่ยงสำหรับการลงทุนในประเทศดังกล่าว รวมถึง หุ้นในตลาดเกิดใหม่ สหรัฐ ยุโรป และไทย ตามลำดับ ส่วนการลงทุนตราสารหนี้นั้นน่าที่จะมีอัตราผลตอบแทนที่ดีขึ้นหลังไตรมาส 3 ของปีนี้

ทั้งนี้ ยังมีปัจจัยเสี่ยงสำหรับการลงทุน 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องติดตาม ได้แก่ 1. ทิศทางการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐและการทำคิวอีของญี่ปุนและยุโรป ซึ่งจะทำให้ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มสูงขึ้น 2. ปัญหาในยุโรปและกระบวนการแก้ไขปัญหาของกรีก จะทำให้ประเทศอื่นนำไปเป็นตัวอย่างหรือไม่ 3. เศรษฐกิจจีนจะขยายตัวในอัตราที่สูงขึ้นหรือไม่ จากการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นหลังราคาพลังงานลดลง 4. ราคาน้ำมันที่ลดลงในปจจุบันทำให้รัฐบาลและธนาคารกลางต่างๆมีช่องที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจโดยไม่กระทบต่อเงินเฟอมากนัก แต่ในครึ่งปีหลังถ้าน้ำมันปรับตัวขึ้นไปแตกระดับ 70 เหรียญต่อบาร์เรล เครื่องมือทางการเงินที่จะประคับประคองเศรษฐกิจจะมีน้อยลง 5. ปญหาความวุ่นวายและการปะทะในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะกลุ่มไอเอส อาจลุกลามไปมากกว่านี้ได้

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO