BWG นำร่องเจ้าแรกโรงไฟฟ้าจากขยะอุตฯ เซ็นขายไฟ กฟภ.ระบบ FiT

อังคาร ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๕ ๑๕:๕๑
BWG นำร่องเจ้าแรกเซ็นขายไฟฟ้าผลิตจากเชื้อเพลิงขยะอุตสาหกรรมให้ กฟภ.ในระบบ Feed-in-Tariff ได้อัตราสูงถึง 6.78 บาท/หน่วย เผยพร้อมตอกเสาเข็มโรงไฟฟ้าโรงแรกขนาด 9.4 เมกะวัตต์ คาดรับรู้รายได้ในกลางปี 59 ส่งซิก คณะกรรมการสุดปลื้มหนุนโครงการโรงไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงขยะอุตสาหกรรมเต็มตัว

นางทัศนีย์ ทองดี กรรมการและเลขานุการ บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) หรือ BWGผู้ประกอบธุรกิจกำจัดกากอุตสาหกรรมอย่างครบวงจรทั้งฝังกลบ เผาทำลาย และนำกลับมาใช้ใหม่รายเดียวในประเทศไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้าของโครงการผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้ากำลังการผลิต 9.4 เมกะวัตต์ จากการต่อยอดธุรกิจหลักนำกากอุตสาหกรรมที่ไม่เป็นอันตรายมาเป็นเชื้อเพลิงในการผลิต ซึ่งดำเนินการผ่านบริษัท เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์ จำกัด บริษัทย่อยว่า บริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟ (Power Purchase Agreement - PPA) กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เรียบร้อยแล้วในระบบให้เงินสนับสนุนตามต้นทุนที่แท้จริง (Feed in Tariff) หรือ FiT ซึ่งถือเป็นผู้ประกอบการผลิตไฟฟ้าจากกากอุตสาหกรรมรายแรกที่ได้ลงนามขายไฟฟ้าให้กับ กฟภ.ในระบบดังกล่าว หลังจากได้รับการสนับการลงทุนจาก BOI เมื่อปลายปีที่ผ่านมา

สำหรับนโยบายการรับซื้อไฟฟ้าจากภาครัฐ ซึ่งมีทั้งการกำหนดโควตาการรับซื้อไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงขยะอุตสาหกรรมในเบื้องต้น 50 เมกกะวัตต์ และมีการปรับเปลี่ยนจากระบบ Adder เป็น Feed in Tariff ส่งผลดีต่อบริษัทฯ เกินความคาดหมาย เพราะเมื่อรวมเงินสนับสนุนจากภาครัฐกับค่าไฟฐาน ค่าพรีเมี่ยม จะทำให้อัตราค่าไฟของบริษัทฯ อยู่ที่ระดับ 6.78 บาท/หน่วยใน 8 ปีแรก และอยู่ที่ระดับ 6.08 บาท/หน่วย ใน 12 ปีถัดไป ซึ่งจากเดิมที่คาดว่าราคาขายไฟจะเป็นระบบ Adder ที่มีเงินสนับสนุนรวมค่าไฟฐานจะอยู่ที่อัตราประมาณ 6 บาทเศษ/หน่วย เฉพาะใน 7 ปีแรกเท่านั้น ทำให้รายได้จากการขายไฟปรับเพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิมทันที

นางทัศนีย์ กล่าวอีกว่า บริษัทฯ มีปริมาณเชื้อเพลิงที่มากพอกับการเพิ่มขึ้นของโควตาการรับซื้อไฟฟ้าของภาครัฐ และพร้อมเดินหน้าลุยธุรกิจโรงไฟฟ้าอย่างเต็มตัว ตั้งแต่ไตรมาสแรกปี 2558 เป็นต้นไป หลังจากได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เรียบร้อยแล้ว โดยโรงไฟฟ้าจากกากอุตสาหกรรมโรงแรกของบริษัทฯ จะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 16 เดือน คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมจ่ายไฟประมาณกลางปี 2559 โดยบริษัทฯ จะเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นไป ทั้งนี้ไม่รวมรายได้จากการขายเชื้อเพลิงอัดแท่ง (Refuse Derived Fuel Project-RDF) ให้แก่โรงไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นรายได้จากธุรกิจหลัก ดังนั้นธุรกิจโรงไฟฟ้าจะช่วยให้ BWG มีรายได้ที่เป็นกระแสเงินสดไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง สามารถเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว ซึ่งคาดว่าปีแรกหลังการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าจะทำให้ BWG มีรายได้เพิ่มขึ้นทันที โดยไม่รวมประโยชน์ที่บริษัทฯ จะได้พื้นที่ฝังกลบเพิ่มขึ้นโดยที่ไม่ต้องลงทุนเพิ่มอีกด้วย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO