นายศิริลักษณ์ เมืองศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามซิตี้ประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ภาพรวมอุตสาหกรรมประกันภัยปี 2558 จะกลับมามีอัตราการเติบโตอีกครั้ง จากนโนบายที่ชัดเจนของรัฐบาล โดยคาดการณ์จะมีการเติบโตของอุตสาหกรรมประมาณ 7-8 % ขณะที่การพัฒนาระบบไอทีในองค์กรนับเป็นการวางรากฐานที่สำคัญ เนื่องจากข้อมูลเกี่ยวกับประกันภัยที่เข้ามาในแต่ละวันมีจำนวนมาก จึงมีความจำเป็นที่จะต้องประมวลผลวิเคราะห์ข้อมูลในเชิงลึก เพื่อประกอบการตัดสินใจและบริหารธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับสยามซิตี้ประกันภัยประกันภัย เป็นบริษัท ที่ดำเนินธุรกิจประกันภัยทุกประเภทและธุรกิจหลักของเรา ได้ให้ความคุ้มครองแก่นักเรียนทั่วประเทศกว่า 3 ล้านคน ภายใต้ชื่อ การประกันภัยอุบัติเหตุนักเรียนอุ่นใจ มายาวนานกว่า 10 ปี ทำให้มีฐานข้อมูลนักเรียนจำนวนมาก ซึ่งเรามีความตั้งใจมานานแล้ว ที่จะสรรหาเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า ข้อมูลทางการตลาด ข้อมูลการเรียกร้องสินไหม ตลอดจนปัจจัยแวดล้อมต่างๆ เพื่อให้ได้ผลข้อมูลที่แม่นยำและรวดเร็ว ซึ่งจะช่วยทำให้เราสามารถวางแผนกลยุทธ์ การออกแบบแพคเกจผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ตรงกับความต้องการลูกค้ามากที่สุด และเพื่อลดความเสี่ยงในหลายๆ แง่มุม ซึ่งจะส่งผลให้เรามีการดำเนินธุรกิจที่ชัดเจน ส่งผลให้ผลประกอบการดีขึ้นได้ เราจึงได้ตัดสินใจเลือกใช้เทคโนโลยี SAS Visual Analyticsเพื่อเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจของสยามซิตี้ประกันภัยในครั้งนี้” นอกจากนี้ทางบริษัทสยามซิตี้ประกันภัยมองว่า SAS Visual Analytics จะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจและเพิ่มยอดรายได้มากถึง 50% จาก 750 ล้านบาท เป็น 1.1 พันล้านบาทภายในปี 2558นี้
นายทวีศักดิ์ แสงทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท แซส ซอฟท์แวร์ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า “ปัจจุบันองค์กรหลายแห่งมีกระบวนการเฉพาะกิจสำหรับกำหนดทิศทางธุรกิจของตน เทคโนโลยีอนาไลติกส์หรือการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกก็เป็นหนึ่งกลยุทธ์ที่หลายๆองค์กรได้ให้ความสำคัญมากขึ้นในยุคบิ๊กดาต้านี้ องค์กรใดที่มองเห็นโอกาสในข้อมูลขนาดใหญ่ของตนและนำการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกมาใช้ในธุรกิจนั้นๆ จะสามารถสร้างรายได้และโอกาสทางการตลาดจากข้อมูลนั้นได้อย่างมหาศาล สำหรับเมืองไทยนั้นบริษัทขนาดใหญ่และสถาบันการเงินต่างๆรวมถึงองค์กรทางภาครัฐได้มีการนำอนาไลติกส์มาใช้เพิ่มมากขึ้น แต่ก็ยังไม่มากนักเมื่อเทียบกับต่างประเทศ ทั้งนี้ทางแซสประเทศไทยก็มีความยินดีที่ทางบริษัทสยามซิตี้ประกันภัย มองเห็นความสำคัญของเทคโนโลยีการวิเคราะห์ข้อมูลและนำ SAS Visual Analytics ไปใช้เพื่อเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจประกันภัยให้ล้ำหน้าไปอีกขั้น”
การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกด้วยทคโนโลยี SAS Visual Analytics จะมีประโยชน์มากในการพยากรณ์และช่วยวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็วแบบนาทีต่อนาทีหรือเพียงไม่กี่วินาที ข้อมูลทั้งภายในและภายนอกองค์กรที่ผ่านการวิเคราะห์แบบเรียลไทม์แล้วนั้นสามารถนำมาใช้ทางการตลาดเพื่อสร้างรายได้ให้เกิดขึ้น เรียกได้ว่าเป็น “ดาต้า มันนิไทเซชั่น” (Data Monetization) ซึ่งหลายๆองค์กร อาทิ ธนาคาร, โทรคมนาคม, ธุรกิจค้าปลีก และอุตสาหกรรมต่างๆให้ความสำคัญในเรื่องนี้มากขึ้น
สำหรับเทคโนโลยี SAS Visual Analytics เป็นสถาปัตยกรรมที่คำนวณผลในลักษณะของ In-Memory Analytics ที่โดดเด่น ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้เรียกดูข้อมูลได้ง่ายดายจากการแสดงผลข้อมูลขนาดใหญ่ หรือบิ๊ก ดาต้า ในเชิงลึกแบบกราฟิกได้อย่างรวดเร็วแบบเรียลไทม์ได้ในทุกที่ ไม่ว่าจะผ่านเว็บ หรือ iPad ซึ่ง SAS Visual Analytics นี้ อีกทั้งยังสามารถนำผลไปใช้งานได้อย่างแท้จริง สำหรับความโดดเด่นที่สำคัญของ SAS Visual Analytics ได้แก่ 1) ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องมีความรู้ทางด้านอนาไลติกส์มาก เนื่องจากโซลูชั่นส์ SAS Visual Analytics ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่ายเหมาะสำหรับทุกคน 2)สามารถวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อนได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการคำนวณแบบ In-Memory Analytics 3)สามารถใช้ร่วมกับระบบไอทีหรือแอพพลิเคชั่นอื่นๆได้ง่าย 4)สามารถดำเนินการใช้งานได้เองและใช้ผลวิเคราะห์ข้อมูลร่วมกับทุกฝ่ายในองค์กรได้ 5)สามารถปรับใช้การวิเคราะห์ข้อมูลได้หลายขนาดที่เหมาะสมกับองค์กร