สมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน จัดโครงการยิ่งใหญ่ Thai-Chinese Young Executive ฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ครบ 40 ปี

พฤหัส ๐๕ มีนาคม ๒๐๑๕ ๑๒:๑๔
ย้ำสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้บริหารและนักธุรกิจรุ่นใหม่ไทย-จีน ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญของความสัมพันธ์ไทย-จีน ทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งใน

ดร.โภคิน พลกุล นายกสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน เปิดเผยว่า “การจัดสัมมนา Thai-Chinese Young Executive Program ครั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องในโอกาสความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ครบ 40 ปี ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลจีน พรรคคอมมิวนิสต์จีน โดยสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ร่วมกับสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะทั้งจากรัฐบาล กองทัพไทย และประชาชนชาวไทย นอกจากนั้น การจัดงานในครั้งนี้ ยังจัดขึ้นในสถานการณ์ใหม่ คือ สถานการณ์ทางยุทธศาสตร์ Maritime Silk Road ที่กระแสสันติภาพและการพัฒนาของโลกและมวลมนุษยชาติกำลังขับเคลื่อนไปอย่างกว้างขวาง ดังนั้น การจัดงานครั้งนี้จึงถือได้ว่า เป็นจุดเริ่มต้นให้แก่ยุคสมัยของความสัมพันธ์และความร่วมมือของคนรุ่นใหม่ไทย-จีน เพื่อทำให้ความสัมพันธ์ไทย-จีน มีหลักประกันที่มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนสืบไป

นายโฆสิต สุวินิจจิต อุปนายก สมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน เปิดเผยว่า “ในการจัดสัมมนาในครั้งนี้ จะมีนักธุรกิจรุ่นใหม่ หรือ Young Executive ฝ่ายไทยจำนวน 50 คน ประกอบด้วยนักธุรกิจรุ่นใหม่ของประเทศไทย ที่มีสินทรัพย์ขนาด 500 ล้านบาทขึ้นไป จำนวน 44 คน โดยสถานทูตจีนจะเป็นผู้เสนอชื่อเพิ่มเติมอีก 6 คน ในขณะที่คณะ Young Executive ฝ่ายจีนจะประกอบด้วยผู้บริหารระดับสูงของรัฐบาล รัฐวิสาหกิจและภาคธุรกิจของจีน จำนวน 50 คน ซึ่งมีสินทรัพย์เกิน 1,000 ล้านบาท) ซึ่งจะเป็นการริเริ่มประสานความสัมพันธ์ระหว่างนักธุรกิจรุ่นใหม่ไทย-จีน อย่างเป็นรูปธรรม” นายโฆสิต กล่าวเพิ่มเติมว่า “คณะผู้แทนจากประเทศจีน ได้เดินทางถึงประเทศไทย ในวันที่ 1 มีนาคม 2558 และมีพิธีเปิดการสัมมนา และจัดสัมมนาในวันที่ 2 มีนาคม 2558 ช่วงเช้าโดยในช่วงบ่ายจะมีการเข้าเยี่ยมคารวะผู้นำรัฐบาล ในวันที่ 3 มีนาคม 2558 ช่วงเช้า คณะ Young Executive ทั้งสองฝ่ายจะเดินทางไปจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และในช่วงบ่ายจะเข้าสัมมนาว่าด้วยการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยและภูมิภาค โดยธนาคารกสิกรไทยเป็นเจ้าภาพ และในช่วงค่ำนายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานคณะกรรมการธนาคารกสิกรไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงรับรองคณะ วันรุ่งขึ้น คณะ Young Executive จะเดินทางไปเยี่ยมโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน บ้านนายาว อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา และเยี่ยมชมโครงการพระราชดำริในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จากนั้นเยี่ยมชมโครงการส่งเสริมอาชีพและโรงเรียนมัธยมพระราชทาน ถึงเวลาค่ำจะล่องเรือชมแม่น้ำเจ้าพระยา ในวันที่ 5 มีนาคม 2558 ช่วงเช้า คณะผู้แทนจะเข้าร่วมสังเกตการณ์การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในเวลา 16.00 น. ณ อาคารชัยพัฒนา พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน สถานทูตจีนและสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน จะจัดงานเลี้ยงส่งคณะผู้แทนในช่วงค่ำวันที่ 5 มีนาคม 2558 สำหรับวันที่ 6 มีนาคม 2558 ช่วงเช้า คณะผู้แทนจะเข้าสักการะพระแก้วมรกต แล้วเดินทางกลับประเทศจีน ซึ่งจากกิจกรรมดังกล่าวจะเห็นได้ว่า เราได้ร่วมเปิดประสบการณ์ คณะ Young Executive ที่พร้อมไปด้วยกิจกรรมด้านเศรษฐกิจ สังคม และ วัฒนธรรม ซึ่งนอกจากจะสร้างแรงบันดาลใจด้านเศรษฐกิจ ก็ยังจะทำให้เกิดความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทย และ จีน ทั้งด้านสังคม ศาสนา และวัฒนธรรมอีกด้วย ซึ่งนี่คืออีกวัตถุประสงค์ที่เราดำเนินโครงการในครั้งนี้

นายไพศาล พืชมงคล อุปนายกและเลขาธิการ สมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน กล่าวว่า “นับตั้งแต่ประเทศไทยได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศจีนถึงบัดนี้เป็นเวลา 40 ปี ความสัมพันธ์และความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว การศึกษาและวัฒนธรรม ได้ขยายตัวไปอย่างเด่นชัด และกลายเป็นแบบอย่างความร่วมมือให้กับนานาชาติ เพราะเป็นความร่วมมือซึ่งเกิดจากความพร้อมใจของประชาชาติทั้งสองประเทศ และได้รับผลประโยชน์ร่วมกันเป็นที่ประจักษ์ ทำให้ความสัมพันธ์สามระดับ คือระดับประมุขแห่งรัฐ ระดับรัฐบาล และระดับประชาชนแน่นแฟ้น มากยิ่งขึ้น การจัดสัมมนาในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่มีการจัดให้ผู้บริหารรุ่นใหม่ ทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายจีนได้เข้าสัมมนาร่วมกัน ทัศนศึกษาร่วมกัน และใช้ชีวิตร่วมกัน โดยฝ่ายไทยได้เชื้อเชิญนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่มีธุรกิจเป็นของตนเองที่ต่อเนื่องมาจากบรรพบุรุษ ซึ่งทั้งหมดล้วนมีเชื้อสายจีน เพื่อให้นักธุรกิจรุ่นใหม่ได้รู้จักใช้ชีวิตร่วมกันกับเพื่อนชาวจีน ในขณะเดียวกัน ผู้บริหารรุ่นใหม่ของจีนที่ได้เข้าร่วมสัมมนาในวันนี้ก็จะได้มีโอกาสคบหาเพื่อนใหม่ที่กำลังเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ของระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย ซึ่งเชื่อว่าความร่วมมือของนักบริหาร นักธุรกิจรุ่นใหม่ไทย-จีน ที่ได้เข้าร่วมสัมมนาในครั้งนี้จะก่อให้เกิดความสนิทสนมแน่นแฟ้นและนำไปสู่ความร่วมมือในการขับเคลื่อนกระแสสันติภาพและการพัฒนา ในการขับเคลื่อนเส้นทางสายไหมทั้งทางบก ทางทะเล เชื่อมโยงอาเซียน-จีน เชื่อมโยงเอเชียกับยุโรปและสองฝั่งฟากมหาสมุทรให้อยู่ในอ้อมกอดแห่งสันติภาพและการพัฒนาที่เป็นจริง”

ผลจากการจัดสัมมนาในครั้งนี้ จะก่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างนักบริหารและนักธุรกิจรุ่นใหม่ของไทย จำนวน 50 คน ที่มีขนาด สินทรัพย์รวมกัน 25,000 ล้านบาท และก่อให้เกิดความร่วมมือและประสานงานระหว่างนักบริหารและนักธุรกิจรุ่นใหม่ของไทยจำนวน 50 คน กับฝ่ายจีนอีก 50 คน ซึ่งมีขนาดสินทรัพย์รวมกันประมาณ 75,000 ล้านบาท” นายไพศาล กล่าวทิ้งท้าย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ